จรัญ พงษ์จีน : ครม.ประยุทธ์ 2/1 จะออกมาสภาพไหน?

เจอ “โรคเลื่อน” อีกแล้ว โผคณะรัฐมนตรี “ตู่ 2/1” เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ประกาศผ่านไมค์ เสียงดังฟังชัดว่า “จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ หลังจากการประชุมจี 20”

โดยการประชุมจี 20 จะมีขึ้นที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน พร้อมย้ำชัดว่า “ยืนยันกลางเดือนกรกฎาคม ทุกอย่างจะเรียบร้อย วันนี้ยังไม่ตั้งรัฐบาล มีคนจ้องล้มรัฐบาลแล้ว”

ผู้สื่อข่าวซอกแซกว่า รายชื่อ ครม.ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นไปตามที่พรรคการเมืองเสนอหรือไม่ “บิ๊กตู่” บอกว่า ไม่รู้ ไม่บอก บอกไม่ได้ ถ้าบอกว่าใครได้หรือไม่ได้ ก็เอากันอีก ไม่จบสักที

แต่เมื่อผู้สื่อข่าวแหย่ต่อ “แสดงว่าไม่มีใครหลุดโผที่แต่ละพรรคเสนอมาใช่หรือไม่” เท่านั้นแหละ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็อั้นไม่อยู่ ปิดไม่มิด บอกใบ้ผางทันทีว่า “โผอะไร มันก็คงมีบ้างมั้ง ครม.มีแค่ 36 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะได้เพิ่มหรือไม่ ต้องอยู่ใน 36 ตำแหน่ง หากรัฐมนตรีหลักควบตำแหน่งก็ต้องมาเป็นรัฐมนตรีช่วย อย่างไรก็ตาม อาจจะมีคนมากหรือน้อย แต่ทั้งหมดต้องไม่เกิน 36 คน และอาจจะมีคนที่ซ้ำ 3 คนหรือเปล่าต้องดูตรงนั้น ถ้าไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็ยังเป็น ส.ส.ในสภา”

นักข่าวนำไต๋ของ “บิ๊กตู่” มาแกะลายแทง ต่อยอดได้ไม่ยาก พอจะทราบความนัยว่า หลังจากการเรียนเชิญว่าที่รัฐมนตรีของพรรคการเมืองต่างๆ มากรอกข้อมูลประวัติเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนี้ ครม.ตู่ 2/1 อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติ-คุณสมบัติ โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการ

ปรากฏว่ามีผู้โชคร้าย 3 รายเป็นอย่างต่ำ สเป๊กไม่ผ่าน “กรรมเก่า” ตามรังควาน

ก้าวถัดไป กรณีที่เป็นว่าที่รัฐมนตรีของ “พรรคร่วม” หากคุณสมบัติไม่ผ่าน มี 2 ชอยส์ด้วยกัน คือทาง “พล.อ.ประยุทธ์” จะส่งซิกให้เลขาฯ ครม.แจ้งไปยังพรรคต้นสังกัด เปลี่ยนตัวชื่อคนอื่นขึ้นมาใหม่

กับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และยึดโควต้า นำมาเกลี่ยให้พรรคการเมืองอื่นๆ ที่จัดตำแหน่งไม่ลงตัว หรือที่รับปากไว้แล้วตอนแห่ขันหมากไปสู่ขอ แต่ที่นั่งเต็มพิกัด หรืออาจจะนำมาปะผุปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นแกนนำฟอร์มรัฐบาล “ตู่ 2/1” ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ยังจัดไม่ลงตัว

“บิ๊กตู่” พ.ศ.2562 แม้หลายเงื่อนไขจะต่างกับ “บิ๊กตู่” เมื่อช่วงปี 2557 แต่ก็เป็น “บิ๊กตู่” คนเดิม คนเดียวกัน ทุกอย่างย่อมยังเหมือนเดิม

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคร่วม ไม่ว่าขนาดกลาง-ขนาดเล็ก ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรี น่าจะลงตัวด้วยความเรียบร้อยทั้งหมด แต่ที่ยังกระดุกกระดิก เป็นตุ๊กตาดิ้นได้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก บอกไม่ถูกอยู่ กลับเป็นของพรรค “พปชร.”

ตราบใดที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังไม่นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ นั่นก็หมายถึงทุกอย่างยังไม่สะเด็ดน้ำ โผพลิกได้อยู่วันยังค่ำ ทุกก๊วนยังวิ่งสู้ฟัด เย่อกันได้จนวินาทีสุดท้าย จะไม่มีใครถอดใจเด็ดขาด

ดังที่ทราบว่า “พรรค พปชร.” มี 3 ก๊วนใหญ่ด้วยกัน หนึ่งคือ “กลุ่มสี่กุมารทอง” สอง “กลุ่มสามมิตร” และสาม “กลุ่ม กปปส.เก่า” การรวมตัวกันตั้งพรรค “เฉพาะกิจ” ผลดีก็มี แต่ “ผลเสีย” ก็เยอะมาก

ขณะเดียวกัน ยังมีมุ้งเล็กในมุ้งใหญ่ ยั้วเยี้ย ดูไม่จืด และแต่ละก๊วนล้วนมี “บิ๊กเนม” ชื่อชั้นต้องได้นั่งรัฐมนตรี

แถมเมื่อดัน “บิ๊กตู่” คืนถิ่นตึกไทยคู่ฟ้าสำเร็จแล้ว โควต้ารัฐมนตรีต้องจองกรรมสิทธิ์ให้กับ “คสช.เก่า” อีกจำนวนหนึ่ง

เกรดเอบวกทั้งหมด ไม่ว่าจะ “ว่าการกลาโหม-มหาดไทย-รองนายกฯ”

เหลือเก้าอี้ทองคำอยู่ไม่กี่ที่นั่ง “พปชร.” เลยหันมากะซวกกันเองเลือดสาด

ต้องยอมรับว่า “พรรคพลังประชารัฐ” แม้จะมี “สี่กุมารทอง” ที่ประกอบด้วย “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรค “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รองหัวหน้าพรรค “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” โฆษกพรรค

ซึ่งทั้งหมดล้วนได้ดิบได้ดีนั่งกระทรวงเกรดเอกันถ้วนหน้า มีเพียง “กอบศักดิ์” รายเดียวที่ชื่อตกสำรวจ

“กลุ่มสามมิตร” ที่อุตส่าห์แหกด่านมะขามเตี้ยมาจากค่ายเกาะ มาร่วมวงไพบูลย์ในการขับเคลื่อนตั้งแต่ต้น ระดับขุนพลน้อยใหญ่มาเข้าสังกัด ไม่ว่าจะ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่จะนั่งว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่จะเป็นว่าการกระทรวงพลังงาน

แต่ว่าไปแล้ว ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างบ้านหลังอลังการนี้ ตัวจริงเสียงจริงเป็นที่รู้กันว่าคือ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ เป้าหมายเพื่อส่งน้องกลับสู่ศูนย์อำนาจรอบ 2 ให้สำเร็จ และทำได้สมหวัง

แต่พอสร้างเสร็จ บ้านที่ปั้นมากับมือทำท่าจะถูกยึด “บิ๊กป้อม” เสียงไม่ดังเหมือนตอนหาเสียง ที่ใครต่อใครก็พากันวิ่งเข้าหาที่ถ้ำรอยต่อฯ

การฟอร์มคณะรัฐบาล “ตู่ 2/1” ก็ต้องยอมรับว่า “พี่ใหญ่” จะค่อยๆ เสียรังวัด ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เหลือแต่รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงตำแหน่งเดียว

การวางตัวบุคคลลงสู่ตำแหน่งในสัดส่วนของพรรค พปชร. มาตรฐานชักจะไม่คงเส้นคงวา “การรับรู้” เริ่มจะน้อยลง เสียงไม่ดังเหมือนเก่า

เหนือสิ่งอื่นใด คือ “บิ๊กป้อม” ไปรับปากกับพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับโควต้ากระทรวง บุคคลไว้ รวมถึงขนาดเล็กที่ไปสัญญาไว้แม้เสียงจะมีไม่มาก แต่พอถึงเวลาถูกริบโควต้าไปหน้าตาเฉย

แค่เริ่มฟอร์มรัฐบาล ยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ขนาดนี้แล้ว ตอนได้เป็นรัฐมนตรีกันสมใจ ชื่อของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” พี่ใหญ่จะไม่ค่อยๆ หายไปหรือ