ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2562 |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อกล่าวถึง “อภินิหาริปไตย” แล้ว
หลายคนใจประหวัดไปถึงคำว่า “อภินิหารของกฎหมาย”
ที่เนรมิตขึ้นมาโดยมือกฎหมายของรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม
เมื่อครั้งเรียกเก็บภาษีเงินได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปของนายทักษิณ ชินวัตร หุ้นที่นายพานทองแท้ และนางพินทองทา ชินวัตร ถือแทนอยู่
ก่อนคดีจะขาดอายุความในวันที่ 31 มีนาคม 2560
แม้กรมสรรพากร
แม้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรของกระทรวงการคลัง
จะเห็นตรงกัน
คือ”ไม่น่าจะทำได้”
แต่เมื่อ นายกรัฐมนตรี ปกาศิตให้ทำ
ที่สุดนายวิษณุก็พบช่อง
สามารถ จัดการได้ เมื่อพบมีกฎหมายเล็กซ่อนอยู่ในกฎหมายใหญ่ “ฟันได้”
นายวิษณุ ยืดอกโดยภาคภูมิใจว่านี่คือ
อภินิหารของกฎหมาย
แม้รัฐบาลจะย้ำว่า “อภินิหารทางกฎหมาย”ไม่ใช่อะไรสีเทาๆ แต่เป็นสีขาว
แต่ดูเหมือนว่า ทุกคราวที่กล่าวถึงอภินิหารทางกฎหมาย
เงาเทาๆ ปกคลุมปริมณฑลการเมืองไปเสียทุกที
และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและ คสช. ใจระทึกทุกที
ล่าสุดเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า กรณีอภินิหารทางกฎหมาย เกิดขึ้นอีก
เมื่อนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อีสาน ผู้ต้องหามีส่วนร่วมกับการชุมนุมทางการเมืองที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เมื่อปี 2552ร่วมกับแกนนำนปช.อีก 5คน
ปรากฏว่าจำเลยทุกคนถูกส่งฟ้องศาล
ยกเว้นนายสุภรณ์ ซึ่งปัจจุบันย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)รอดคดีอย่างอภินิหาร
ด้วยคดีหมดอายุความ เพราะอัยการ-ตำรวจ หาตัวไปขึ้นศาลไม่ท้น
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าวว่า
” นายสุภรณ์พ้นคดี ผมไม่อิจฉา ไม่คาใจ เพียงแต่สังเวชใจกับคำว่าอภินิหารทางกฎหมาย และปาฏิหาริย์แห่งหลักนิติธรรมที่เกิดขึ้นเท่านั้น” นายณัฐวุฒิระบุ
ตอนนี้สังคมกำลังให้ความสนใจอย่างสูง และจับตาเขม็งตอนนี้ก็คือ กรณีการถือหุ้นสื่อมวลชนของนักการเมือง
ที่ตอนแรกประเด็นนี้ถูกวางเป็น “หมากเด็ด” ที่จะปลิดชีพการเมืองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
แต่เรื่องก็ “บานปลาย” ไปกันใหญ่
เมื่อมีการเมื่อเสนอตรวจสอบคุณสมบัติ ของส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล41+ฝ่ายค้าน55+21วุฒิสมาชิก รวม 117
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาล็อตแรก 41 คน โดยสั่งยุติเรื่อง 9 คน และสั่งไต่สวนโดยไม่พักการปฏิบัติหน้าที่ 31 คนเพราะยังไม่ได้ไต่สวนจนพบเหตุสงสัย
ต่างจากกรณีนายธนาธร ที่ถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ เพราะมีการไต่สวนของกกต.แล้ว พบเหตุอันน่าสงสัย
ผลจากการพิจารณา ทำให้ฝ่ายรัฐบลโล่งออกในระดับหนึ่ง เพราะเสียงในสภายังครบถ้วน
ต้องลุ้นกันต่อไปว่า ที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร
ขณะที่นอกศาล มีการซุบซิบกันให้เซ็งแแซ่
จะมี อภินิหารแห่งกฎหมาย เกิดขึ้นอีกหรือไม่!