ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/มาแล้ว ‘MG ZS EV’ ‘เอสยูวี’ พลังไฟฟ้า 100%

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

มาแล้ว ‘MG ZS EV’

‘เอสยูวี’ พลังไฟฟ้า 100%

 

“เอ็มจี” ถือเป็นค่ายรถยนต์น้องใหม่ที่มาแรงและมาเร็วเหลือเชื่อ เพราะอายุอานามเพียงแค่ 5 ขวบปีเท่านั้น แต่ประสบความสำเร็จทั้งยอดขาย ความเชื่อมั่น และขยายศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยสำคัญไม่พ้นการร่วมทุนกับ “ซีพี” ยักษ์ใหญ่อุปโภค-บริโภคบ้านเรา เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองไทยด้วยทุนนับหมื่นล้านบาท การันตีว่าเอาจริงกับตลาดเมืองไทยแน่นอน

รวมไปถึงรถแต่ละรุ่นที่ออกมาก็สวยสด แถมความไฮเทค แต่ตั้งราคาได้น่าสนใจ

ล่าสุดสร้างกระแสฮือฮาอีกครั้งกับการแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% “MG ZS EV” ถือว่าเป็นรุ่นที่ 2 ในเมืองไทยต่อจาก “นิสสัน ลีฟ”

 

โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอสยูวี ดูแล้วไม่ต่างจาก “MG ZS” ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ภายนอกสีตัวถังแบบพิเศษสีฟ้า Copenhagen Bluež สีเอกลักษณ์ของกลุ่มรถพลังงานทางเลือก กระจังหน้าขนาดใหญ่เปิดเป็นช่องติดตั้งจุดชาร์จ

ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์เลนส์ แบบฮาโลเจน พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home Light ไฟตัดหมอกคู่หน้า

ไฟท้าย LED แบบ Tube ไฟตัดหมอกด้านหลัง สปอยเลอร์หลัง ราวหลังคา

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา

ห้องโดยสารกว้างสบายตกแต่งโทนสีดำ พร้อมการตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยวัสดุนุ่มแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับมากขึ้น

พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์มือถือ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี

หน้าจอเครื่องเสียง ขนาด 8 นิ้ว ระบบสัมผัส ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ลำโพง 6 ตำแหน่ง

เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีดำ เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง

เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60:40 พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ปรับได้ 2 ระดับ

เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบ Auto Vehicle Hold ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล พร้อมกรองอากาศ PM 2.5

 

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ได้รับการพัฒนาให้ส่งกำลังดีขึ้น และช่วยระบายความร้อน พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh

ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ด้วยระยะเวลาแค่ 3.1 วินาที ระยะทางขับเคลื่อนสูงสุด 337 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย โหมดการขับขี่แบบ Eco เพื่อการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น แบบ Normal สำหรับการขับขี่ทั่วไป และแบบ Sport เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ

มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ ที่สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ

สามารถวิ่งผ่านน้ำที่มีความสูงได้ถึงกว่า 40 เซนติเมตร ในขณะที่แบตเตอรี่ยังคงสามารถทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังมีระบบการปกป้องแบตเตอรี่แบบ 360 องศา และระบบการจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำและสูง

การชาร์จไฟแบบธรรมดาผ่าน MG Home Charger ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% ในระยะเวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง หรือชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) ผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ (Public Charging Station) โดยใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% ในระยะเวลาเพียง 30 นาที

รวมทั้งมีที่ชาร์จแบบพกพาสามารถเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟบ้านได้เลย

“เอ็มจี” ยังสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นโดยร่วมมือกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ติดตั้งสถานีชาร์จ EA anywhere ให้กับโชว์รูมของเอ็มจี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 107 แห่งทั่วประเทศ และกำลังจะขยายเป็น 130 แห่งภายในปีนี้

ทั้งยังได้ลงนามความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการติดตั้งที่ชาร์จ เพื่อเป็นการลดข้อจำกัดและคลายความกังวลของผู้บริโภค หากต้องเดินทางไกล

 

ความปลอดภัยและสะดวกสบายมาเต็มคัน ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems

อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)

ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)

ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)

ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ถุงลมนิรภัย

ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังทอร์ชั่นบีม

ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน / ด้านหลัง ดิสก์เบรก

 

ส่วนพระเอกของค่ายนี้ติดตั้งมาด้วยแน่นอนกับ “i-SMART” สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย สามารถเปล่งเสียงสั่งเปิด-ปิดระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง โทร.ออก และรับสาย ระบบนำทาง สั่งเปิด-ปิด Sunroof

เชื่อมต่อผ่านหน้าจอภายในรถ หรือ SMART Connect และด้านการตรวจเช็กรถจากมือถือ หรือ SMART Check ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเช็กระดับพลังงานคงเหลือของแบตเตอรี่ การเช็กสถานะและระยะเวลาของการชาร์จแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์

ค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าใกล้เคียง หรือสถานีชาร์จที่โชว์รูมทั่วประเทศ รวมทั้งการสั่งการ MG Home Charger สำหรับการชาร์จไฟที่บ้านได้อีกด้วย

เอ็มจีระบุว่า รถรุ่นนี้ตัดเรื่องความจุกจิกเกี่ยวกับของเหลวเกือบทั้งหมด ชิ้นส่วนอะไหล่ที่น้อยลง ใช้เงินในการดูแลรักษาต่ำ คำนวณค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าศูนย์บริการทุกๆ 10,000 ก.ม. จนถึง 100,000 ก.ม. รวมอยู่ที่ 8,500 บาท ประเมินคร่าวๆ คิดเป็น 30% ของค่าใช้จ่ายของรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน

พร้อมกันนี้อัดแคมเปญกันแต่เช้าตรู่ โดย 1,000 คันแรก ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี ฟรีชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟในบ้าน พร้อมติดตั้งฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ 4 ปี หรือไม่เกิน 120,000 ก.ม. รับประกันแบตเตอรี่แบบไม่จำกัดระยะทางนาน 8 ปี

สนนราคาถือว่าน่าสนใจที่ 1.19 ล้านบาท

ไปดูตัวเป็นๆ ได้ทุกโชว์รูม หรือในงาน “FAST Auto Show Thailand 2019” ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายนนี้ ที่ไบเทคบางนา

ส่วนถ้าใครอยากลองขับต้องอดใจอีกนิด “เอ็มจี” จะจัดรถให้วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นไป