“นี่…คือข้อเสนอของท่านนายกรัฐมนตรี ที่คุณปฏิเสธไม่ได้”

ไม่รู้ว่านี่คือประโยคที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ใช้ปิดดีลความไม่ลงตัวการเมืองหรือเปล่า

แต่ในนาทีนี้ ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส ติดโผนักเคลียร์ปัญหาการเมือง

ผู้โดดเด่นไปแล้ว

เมื่อสามารถเข้าไปสยบปัญหาทั้งในและนอกพรรคพลังประชารัฐ

ลงได้อย่างราบคาบ

ในนามตัวแทนนายกรัฐมนตรี

ก่อนหน้านี้ เขาพ่วงประกาศนียบัตร

ผู้อยู่เบื้องหลังชัยชนะของพรรคพลังประชารัฐ

ที่สามารถเจาะพื้นที่ ส.ส.ภาคเหนือ โดยเฉพาะในช่วงภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน

ได้เป็นกอบเป็นกำ

และมีข่าวไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดโผรัฐมนตรีที่ผ่านมา

“มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ ให้เราไปประสานในแต่ละพรรค”

“มันเป็นความสามารถส่วนตัว เป็นศิลปะส่วนตัว ที่จะเป็นการเจรจาให้มันได้ผล ที่จะทำให้เขาเชื่อมั่นในคำพูดเรา แล้วเราเป็นคนรักษาคำพูด คำไหนคำนั้น”

คือเคล็ดลับที่เขาอ้าง

ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้เขาได้โควต้ารัฐมนตรีเป็นของตัวเอง

ซึ่งว่าที่จริง ควรเป็นคนชื่อ “ธรรมนัส”

แต่ก็ถูกอดีต “ไล่ล่า” โดยเฉพาะภาพทหารมาเฟีย

ทำให้เขาต้องเลี่ยงส่งชื่อน้องชาย

นายอัครา พรหมเผ่า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา

เข้าไปนั่งเก้าอี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

เบียดนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ตัวเต็ง ตกกระป๋องอย่างฮือฮา

ร.อ.ธรรมนัส หรือพชร หรือมนัส พรหมเผ่า เคยเป็นทหารหนุ่มไฟแรง

จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25

นายร้อย จปร.รุ่น 36

เป็นนายทหารผู้กว้างขวาง ที่ถูกสังคมส่วนใหญ่มองภาพเป็นลบมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมเมื่อหลายปีก่อน

จนต้องจบเส้นทางอาชีพทหาร ในตำแหน่ง ผบ.ร้อยสารวัตรทหาร ประจำ บก.ทหารสูงสุด

เคลียร์คดีต่างๆ จนจบลงเมื่อปี 2547

แต่ก็ไม่คิดกลับเข้ารับราชการ เพราะเห็นน้องๆ ที่เคยปกครองสมัยเป็นนักเรียนนายร้อยแซงหน้าไปหมดแล้ว

หันเหไปทำธุรกิจ จนกลับมาอู้ฟู่แล้วจึงหันเหเข้าสู่การเมือง

เคยอยู่พรรคไทยรักไทย เพื่อไทย

และสุดท้ายมาอยู่กับพลังประชารัฐ

ประสบความสำเร็จและโดดเด่นอยู่ตอนนี้

และคงมีบทบาทอีกเยอะในอนาคต

โดยเฉพาะเมื่อมาตรา 44 มลายสาบสูญไปกับ คสช.

มีคนเป็นห่วงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไร้กระบอง

แต่วันนี้ หลายคนคงจะเบาใจ

เพราะแม้จะไม่มีมาตรา 44 แต่ยังมี ม.ธรรมนัส

ที่พร้อมเคลียร์ปัญหา (การเมือง) ให้นายตลอด 24 ชั่วโมง!