วิเคราะห์ : พบกับ “เจย์ อินส์ลี” ผู้ว่าการเมืองสีเขียว สู่ผู้ท้าชิงปธน.สหรัฐฯ

ทวีศักดิ์ บุตรตัน
\

การเมืองบ้านเรายังสาละวนกับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งที่ชาวบ้านได้สิทธิกาบัตรเลือกตั้งมานานกว่า 2 เดือน ขณะกำลังเขียนต้นฉบับก็ยังมีข่าวคนในพรรคร่วมรัฐบาลเล่นชักเย่อแย่งชิงตำแหน่งกันอุตลุดราวกับเด็กแย่งขนมกิน

สำหรับนักการเมือง ตำแหน่งรัฐมนตรีมันคงหอมหวานจริงๆ แต่ในสายตาชาวบ้าน พฤติการณ์อย่างนี้มันน่าชิงชังขยะแขยง

บ้านนี้เมืองนี้เสียเวลามานานกับการทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งสีแยกฝ่าย ทำไมยังปล่อยให้ภาพการเมืองน้ำเน่าทะลักล้นให้ชาวบ้านสะอิดสะเอียนเช่นนี้อีก

หรือประเทศยังเจ๊งไม่พอ?

 

โผรายชื่อรัฐมนตรีที่โผล่แพลมๆ ผ่านสื่อออกมา ยังเป็นนักการเมืองหน้าเก่าๆ ชื่อเน่าๆ ยี้ๆ มีพฤติกรรมทำให้บ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว

ถ้า ครม.ชุดใหม่เป็นไปตามโผ ทำนายทายทักไว้ล่วงหน้า การเมืองจะวนกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ ความวุ่นวายอลหม่านจะตามมาหลอนอีกหน

หันไปดูนักการเมืองบ้านอื่นกันดีกว่า

 

ที่สหรัฐอเมริกา ประเทศซึ่งได้ชื่อว่ามีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กำลังเฟ้นหาผู้นำคนใหม่มาแข่งขันกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันจะหมดวาระในปลายปีหน้า

ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศตัวไปหลายคนแล้ว หนึ่งในนั้นมีชื่อนายเจย์ อินส์ลี (Jay Inslee) ร่วมอยู่ด้วย

“อินส์ลี” วัย 68 ปี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน เป็นผู้บริหารรัฐที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคนหนึ่ง ดูได้จากชาววอชิงตันลงมติเลือกให้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐเป็นสมัยที่ 2

รัฐวอชิงตันอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นรัฐที่มีอัตราเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องบิน บริษัทโบอิ้งก็อยู่ที่นี่ เป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ แหล่งเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์ไม้และการเดินเรือ

รัฐวอชิงตันสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมานาน เป็นรัฐที่ริเริ่มแนวคิดใหม่ๆ ใช้เทคโนโลยีแม่นยำเพื่อควบคุมพลังงานไฟฟ้าให้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

เฉพาะภาคการผลิตเทคโนโลยีสะอาด รัฐวอชิงตันมีบริษัทต่างๆ เข้ามาลงทุนมากกว่า 100 บริษัท สร้างงานได้เกือบ 1 แสนตำแหน่ง และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกับนักวิชาการของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สเตต ซึ่งได้รับการจดลิขสิทธิ์กว่า 200 ชิ้น

ปีที่แล้วภาคอุตสาหกรรมพลังงานลมในรัฐวอชิงตัน สร้างรายได้มากกว่า 6,000 ล้านเหรียญ

โรงไฟฟ้าในรัฐวอชิงตันหันมาใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม พลังงานคลื่น เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานแสงอาทิตย์ ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล สามารถผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับอดีต

ใครมาลงทุนด้านพลังงานสะอาดในรัฐวอชิงตันจะได้รับสิทธิส่วนลดภาษีธุรกิจ

 

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สภาท้องถิ่นของรัฐวอชิงตันเพิ่งผ่านการเห็นชอบแผนพลังงานสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์

แผนดังกล่าวนั้น กำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษในรัฐวอชิงตันที่เข้มข้นมากขึ้น มีผลต่อกระบวนการผลิตพลังงานต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานใหม่

โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซต้องรื้อระบบเดิมๆ เช่นกัน

ขณะเดียวกัน รัฐวอชิงตันยังคิดสรรค์สร้างงานใหม่ๆ รองรับเทคโนโลยีสะอาดให้มากขึ้น

ความสำเร็จในการบริหารรัฐวอชิงตันคือใบเบิกทางสู่การเมืองระดับชาติ

 

“อินส์ลี” เป็นผู้ว่าการรัฐวอชิงตันคนแรกที่เสนอตัวเป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ตามขั้นตอนตัวแทนของพรรคเดโมแครต จะต้องผ่านการโหวตจากสมาชิกของพรรคในระดับไพรมารีปลายเดือนนี้ คนดังๆ อย่างนางฮิลลารี คลินตัน ภริยาของนายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายเบอร์นี่ แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ และบุคคลอื่นๆ รวม 20 คนร่วมสมัครแข่งด้วย

เวลานี้นายอินส์ลียังไม่รู้ว่าจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตหรือไม่ แต่ได้ทุ่มสุดตัวทั้งหาเงินทุนสนับสนุนซึ่งต้องทำให้ได้ถึง 2.25 ล้านเหรียญ และเขียนแผนรณรงค์หาเสียงไว้เรียบร้อยแล้ว

แคมเปญหาเสียงที่เป็นจุดเด่นของนายอินส์ลีนั่นคือเรื่องการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนและการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

“สาเหตุที่ผมลงแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีก็เพราะว่าเราเป็นกลุ่มคนยุคแรกที่เผชิญหน้ากับวิกฤตโลกร้อน และอาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ต่อสู้กับวิกฤตอันใหญ่หลวงนี้” อินส์ลีให้สัมภาษณ์กับสื่อ

“มันไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเลือกตั้งชิงผู้นำสหรัฐเท่านั้น แต่มันเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ จุดเปลี่ยนทางวิทยาศาสตร์ คนอเมริกันได้เห็นกับตาแล้วว่าวันนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น นี่เป็นห้วงเวลาที่ดีที่สุดในการนำเทคโนโลยีสะอาดมาใช้”

 

แผนสู้โลกร้อนของ “อินส์ลี” มี 2 ข้อหลัก

1. การผลิตพลังงานไฟฟ้าทั่วสหรัฐภายในปี 2578 ต้องปลอดควันพิษร้อยเปอร์เซ็นต์ (zero emission)

2. ตลอดช่วง 1 ทศวรรษรัฐบาลกลางต้องลงทุน 3 แสนล้านเหรียญเพื่อปรับปรุงยกระดับอาคารบ้านเรือนให้มีมาตรฐานรองรับกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สนับสนุนและลงทุนด้านการวิจัยเทคโนโลยีพลังงานสะอาด

“อินส์ลี” โชว์วิชั่นว่า ในระยะ 10 ปีข้างหน้า จะตั้งเป้าให้รถยนต์ในสหรัฐขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ปลอดควันพิษร้อยเปอร์เซ็นต์ ตึกอาคารที่สร้างใหม่จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โรงไฟฟ้าต้องใช้เทคโนโลยีสะอาดเท่านั้น

ภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ที่เชื่อมโยงกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือสุขภาพ จะแก้หรือสร้างสรรค์เรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ ต้องทำไปพร้อมๆ กัน

“แต่ละปีปัญหามลพิษคร่าชีวิตคนอเมริกันนับหมื่นๆ ปัญหานี้โยงใยกับความมั่นคงของประเทศ นี่จึงเป็นเรื่องท้าทายของคนยุคนี้”

 

เมื่อเอ่ยถึงนโยบายของทรัมป์ที่ถอนตัวออกจากการสนับสนุนข้อตกลงสู้โลกร้อนกรุงปารีส ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแนวทางโง่เขลาเบาปัญญา

อินส์ลีแสดงเจตจำนงให้สหรัฐกลับเข้าร่วมกับชาวโลกต่อสู้กับปัญหาโลกร้อนและต้องการให้สหรัฐมีแผนปฏิบัติการลดโลกร้อนให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งยังต้องการเป็นธงนำโลกในการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

“เราจะเอาชนะปัญหาโลกร้อนหรือปล่อยให้ปัญหานี้ลุกลามคุกคามลูกหลานของเรา ถ้าเดินหน้าสู้ก็ต้องจับมือเดินไปด้วยกัน เราจะสร้างงานใหม่ๆ ให้มีคนทำเป็นล้านตำแหน่ง เปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจวันนี้ไปสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด”

เป็นไงครับสติปัญญาของนักการเมืองในประเทศพัฒนาแล้ว เทียบกับนักการเมืองบ้านเราได้หรือเปล่า? (55)