เทพบุตร โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

——————

เทพบุตร

———–

ไม่เรียก “เทพ” แล้ว ไม่รู้จะเรียกอะไรดี

สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แห่งพรรคพลังประชารัฐ

และ สำหรับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แห่งพรรคภูมิใจไทย

เพราะทั้งคู่ ได้รับการชมเชย-ยอมรับ จากพรรคของตนเอง ว่าสามารถ นำส.ส.เข้าสู่สภา ได้ตามเป้าหมาย

ทำให้พรรค ได้เข้าร่วมรัฐบาล

และมีเสียงมากพอที่จะต่อรองเอารัฐมนตรีสำคัญๆมาดูแล

ทำได้แล้ว ยังดำรงตนเป็น “เทพบุตร” ยิ่งขึ้นไปอีก

นั่นคือ ไม่เรียกร้อง เอาตำแหน่งใดๆ

ตรงกันข้าม กลับ”ยอม” เมื่อมีคนในพรรคมาบอกว่า พวกคุณมี “ตำหนิ”จากพฤติกรรมไม่ดีในอดีต

จึงควรไปยืนอยู่ข้างหลัง เพื่อไม่ให้เสียภาพพจน์แก่พรรค

(ทั้งที่พฤติกรรมไม่ว่าผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพล นักเลง เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาสามารถทำเข้าเป้า)

“เทพบุตร”ที่ต้องพ่วงคำว่า สุดประเสริฐ เข้าไปอีก ก็ไม่หือไม่อือ

ยอมโดยง่าย จะมีเงื่อนไขก็เพียงเล็กน้อย ขอ ส่งน้องชาย น้องสาว เข้ามาทำหน้าที่แทน

ตอนนี้ลุ้นอยู่ว่าจะสะดุดอะไรหรือไม่

ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนอะไรให้พรรค

เมื่อเทียบกับข้อต่อรองของมุ้งต่างๆ

ตรงกันข้าม เมื่อมุ้งต่างๆมีปัญหา

คนเหล่านี้ ก็ได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนของ หัวหน้าพรรค ตัวแทนของนายกรัฐมนตรี ไปช่วยไกล่เกลี่ย เจรจา แทน

โดยใช้คุณสมบัติ ที่ถูกมองว่าเป้นที่รังเกียจ นั่นแหละไปจัดการ

ผลก็คือ “สงบราบคาบ”

โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัส นั้น ใครๆก็ต่างยกนิ้วให้เป็นมิสเตอร์เคลีย์

แต่พวกเขาก็ยังถูกจัดเป็น “ส.ส.ระดับล่าง”อยู่นั่นเอง

ไม่มีโอกาสขึ้นสวรรค์

ลุยไฟแต่ใน “นรก”เท่านั้น

นี่จึงเป็นความย้อนแย้ง ที่เราเห็นอยู่ในเกม แห่งการจัดสรร ตำแหน่ง ที่ไม่ได้ สะท้อนภาพแห่งความเป็นจริง

กลายเป็น ชาม”แกง”เดิมๆ

แกงปลาไหล ที่บางคนปากบอกรังเกียจ

แต่ ซดน้ำแกง โฮก-โฮก

ไม่อับอาย เหล่า เทพบุตรผู้ประเสริฐยิ่ง ข้างต้น แม้แต่น้อย

ถึงกระนั้นเถอะพวกชอบน้ำแกง ที่ว่าได้ขึ้น “สวรรค์”นั้น

เอาเข้าจริงสวรรค์ กับนรกห่างกันอยู่นิดเดียว

เพราะจะเสวยสุขกับสวรรค์ที่เป้นเพียงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ได้นานเพียงใด

อย่างที่ ปรมาจารย์ อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ออกมาเตือนล่วงหน้าแล้วให้ระมัดระวัง

เริ่มตั้งแต่การพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2563 เลยทีเดียว

หากมี”อุบัติเหตุ”อะไรขึ้น

รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้

จึงไม่น่าประหลาดใจ ที่พรรคพลังประชารัฐ ยอมเสียหน้า หลังจากโห่ฮิ้วไล่ให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เดินออกจากห้องประชุมสภาผู้แทนราษฏร

หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่ง ให้พักงานชั่วคราว ในกรณีถูกกล่าวหา ถือหุ้นสื่อ

เหตุการณ์ดังกล่าว อาจเกิดกับตัวบ้าง เมื่อ 27 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นเดียวกัน

ซึ่งหากถูกพักงาน ตามมาตรฐานเกิดขึ้นกับนายธนาธรแล้ว

มิใช่เดินคอตกออกจากห้องประชุมสภาเท่านั้น

แต่อาจจะทำให้ทั้งพรรคต้องออกจากทำเนียบ-สภา เพราะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย

จึงต้องออกอาการดิ้นรน อย่างไม่กลัวเสียหน้า

ด้วยการยื่นคำร้องต่อศาลว่า การยื่นเอาเรื่อง 27ส.ส.พลังปกระชารัฐ ทำไม่ถูกระเบียบขั้นตอน ให้เพิกถอนเสีย

หรือถ้าไม่ใช่เช่นนั้น ก็ไม่สมควร”พักงาน”ส.ส.ทั้ง 27 ส.ส.เพราะเป็นคนละกรณี กับนายธนาธร

งานนี้จะรอก

ต้อง รอ “พลังอิสระ”มาช่วยทำให้เกิด “อภินิหาร” สถานเดียวเท่านั้น

จะหวังให้เทพบุตร มา HELP ไม่ให้ ตก HELL

คงไม่ได้–บารมีไม่ถึง?

——————