HELL หรือ นรก / ฉบับประจำวันที่ 21-27 มิถุนายน 2562

เหมือนกับการที่สมาชิกรัฐสภาจำนวน 500 คน
อันประกอบด้วย 249 ส.ว. กับ 251 ส.ส.ที่พร้อมใจกันขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ยืนยันถึงชัยชนะของ คสช.และของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่ชัยชนะนี้วางอยู่บนรากฐานอันแข็งแกร่ง และมั่นคงมากน้อยเพียงใด
นี่คือโจทย์ใหญ่ทางการเมืองที่จะแสดงผลสะเทือนตามมาในอนาคตอันใกล้

ต้องรับว่าชัยชนะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มา
เป็นชัยชนะที่วางอยู่บนรากฐานที่วางกฎกติกาเพื่อชิงความได้เปรียบและอำนวยประโยชน์ให้กับตนเอง
ไม่ว่าจะโดยรัฐธรรมนูญ
ไม่ว่าจะโดยองค์กรอิสระ
ทำให้แม้พรรคพลังประชารัฐและพันธมิตร จะพ่ายแพ้ให้แก่พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่และพันธมิตร
แต่อภินิหารทางกฎหมาย
อาทิการผ่านสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่เพียงแต่ส่งผลให้จำนวน ส.ส.ทางด้านต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช.หดหายไปเท่านั้น
แต่ยังเสกปั้นส.ส.ขึ้นมาจาก 11 พรรคการเมืองขนาดเล็ก
ผนวกเข้ากับ 250 ส.ว.
ก็เท่ากับได้ 376 ส.ส.ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ผลก็คือการได้เป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกคำรบหนึ่ง

แต่เมื่อก่อตัวเป็นครม.
ถามว่าการเข้ามาของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ถือเป็นเอกภาพและความเป็นปึกแผ่น ของรัฐบาลหรือไม่
ตรงกันข้ามกับปรากฏเป็นข่าวการแย่งชิงตำแหน่งในห้วงแห่งการจัดตั้ง ครม.อันยาวนาน
ไม่เพียงแต่จากกลุ่มและมุ้งการเมืองเดิมที่ดำรงอยู่เท่านั้น
หากแต่ยังมีกลุ่มใหม่อย่างเช่นกลุ่มอีสานตอนบน กลุ่มด้ามขวานทองไทย เป็นต้น
ทำให้ 251 เสียงในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปริ่มน้ำอยู่แล้ว
มีความไม่แน่นอนเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
ไม่ว่า 2 เสียงจากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ไม่ว่า 19 เสียงจากภาคอีสานตอนบน ไม่ว่า 13 เสียงจากภาคใต้ หรือแม้กระทั่ง 10 ส.ส. จาก 10 พรรคการเมือง

ฐานการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จึงวางอยู่บนความไม่แน่นอนเป็นอย่างสูง
ขณะที่การต่อสู้บนหนทางรัฐสภา ที่นำโดยเพื่อไทย-อนาคตใหม่ เป็นสมรภูมิที่ร้อนแรงและเข้มข้นเป็นลำดับ
ความคาดหวังว่าการเมืองที่ผ่านการสืบทอด มา 5 ปี จะเป็น”สวรรค์”ดูจะไม่จริง
แต่น่าจะเป็น HELL หรือ นรก มากกว่า
ที่จะเสวยอำนาจ เสวยสุข สบายๆ ท่าจะไม่เป็นจริงอย่างที่หวัง!