ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์ /X-MEN : DARK PHOENIX

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

X-MEN : DARK PHOENIX

‘พลังทมิฬ’

กำกับการแสดง  Simon Kinberg

นำแสดง James McAvoy Michael Fassbender Jennifer Lawrence Nicholas Hoult Sophie Turner Tye Sheridan Jessica Chastain

 

จีน เกรย์เป็นตัวละครหลักของหนังชุด X-Men ภาคนี้

ในโลกภาพยนตร์ เราเคยรู้จักจีน เกรย์ ในรูปลักษณ์ของฟามเก แจนเซน เธอมีฉายาว่า ฟีนิกซ์ วิหคเพลิงแห่งนิรันดร เนื่องจากเป็นผู้ที่คืนชีพจากความตายหลายครั้งหลายหน

จีน เกรย์ เป็นศิษย์เอกของโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ที่นำเธอมากล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูตั้งแต่เยาว์วัย เช่นเดียวกับมนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหลายผู้โหยหาความรักเนื่องจากโดนมนุษย์อัปเปหิออกจากสังคม ด้วยเหตุที่เป็นตัวประหลาดและอันตราย

จีน เกรย์ รู้ตัวว่ามีพลังทำลายล้างอยู่ในตัวตั้งแต่เด็ก โดยที่เธอควบคุมอำนาจร้ายกาจในตัวไม่ได้ และเธอกลายเป็นกำพร้าจากการสูญเสียทั้งพ่อและแม่ด้วยอุบัติเหตุทางถนน

ชาร์ล เซเวียร์ หรือ “โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์” (เจมส์ แม็กอะวอย) อ้าแขนรับเธอไว้ในโรงเรียนสำหรับฝึกเด็กพิเศษของเขา ซึ่งประกอบด้วยมนุษย์กลายพันธุ์หลากหลายความสามารถ

เรเวน/มิสตีก (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) มนุษย์ผิวสีน้ำเงิน ผมสีแดงเลือดนก ผู้แปลงร่างได้ในทุกรูปแบบ

แฮงค์/บีสต์ (นิโคลัส โฮลต์) มนุษย์สีน้ำเงินผู้มีความสามารถในทางแพทยศาสตร์

สตอร์ม (อเล็กซานดรา ชิปป์ ในภาคนี้ ซึ่งมีความละม้ายคล้ายคลึงกับฮัลลี เบอร์รี ในภาคก่อนๆ อย่างยิ่ง) ผู้มีพลังในการควบคุมลมฟ้าอากาศ กำหนดให้ฝนตกฟ้าร้องเมฆหมอกปกคลุมได้ในพริบตา

สกอตต์/ไซคลอปส์ (ไท เชอริแดน ภาคก่อนๆ เล่นโดยเจมส์ มาร์เดน) ผู้ต้องสวมแว่นปิดบังดวงตาไว้ตลอดเวลา เพราะเมื่อไรที่เขาถอดแว่น สายตาของเขาจะเผาไหม้สิ่งที่จ้องมองให้มอดเป็นจุณไม่เหลือซาก

นอกจากนั้น มนุษย์กลายพันธุ์ที่เป็นตัวสำคัญในภาคนี้อีกคนคือ “ควิกซิลเวอร์” (ไอวาน ปีเตอร์ส) ผู้เคลื่อนไหวได้ว่องไวและรวดเร็วปานลมกรด รวมทั้งยังสามารถพาใครก็ตามที่เขาสัมผัสไปพร้อมกับเขาด้วย

 

หนูน้อยจีน เกรย์ เติบโตเป็นสาวทรงพลัง (โซฟี เทอร์เนอร์ ที่เราคุ้นหน้าและเฝ้าดูการโตเป็นสาวจากบทของ “แซนซ่า” ใน Game of Thrones) ผู้มีความสามารถอ่านใจคนได้เหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในความคิดของบุคคลคนนั้น และเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดมหึมาได้ด้วยพลังจิตอันแรงกล้า

และยิ่งยามเมื่อมนุษยชาติต้องการความช่วยเหลือจากเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์  โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ก็ส่งทีมคนเก่งของเขาออกเดินทางสู่อวกาศในภารกิจช่วยกอบกู้ยานอวกาศที่กำลังสูญเสียการควบคุมและหมุนคว้างอยู่นอกโลก

ในการนี้ มนุษย์กลายพันธุ์กลายเป็นฮีโร่สำหรับมนุษยชาติที่ไชโยโห่ร้อง แต่ทว่าทีมก็เกือบสูญเสียจีน เกรย์ ไปในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นพลังสุริยะอันแรงกล้า

ทว่าเธอก็กลับคืนชีพมา พร้อมกับพลังจักรวาลที่ร้ายแรงที่สุดในการทำลายล้าง

นั่นเป็นเหตุให้เธอได้ฉายาว่า “ดาร์ก ฟีนิกซ์”

 

เมื่อกลับถึงโลก จีนได้ค้นพบพลังทมิฬมหาศาลในตัว จนทำให้เธอหวาดกลัวใจตัวเองที่ไม่อยู่ในอำนาจควบคุม

พลังจิตของจีน เกรย์ แก่กล้าเกินหน้าโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ไปมาก และเธอหนีเตลิดไปเพราะไม่อยากทำร้ายคนที่เธอรักโดยไม่รู้ตัว

แน่นอน เป็นที่รู้กันดีแล้วว่าจีนเป็นแฟนกับสกอตต์/ไซคลอปส์

คนแรกที่จีนมุ่งหน้าไปหาคือพ่อบังเกิดเกล้าซึ่งเธอคิดว่าตายไปแล้ว ผลจากเหตุการณ์นี้คือจีนควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้คนที่เธอสนิทสนมในชีวิตอีกคนตายไป

บุคคลต่อมาที่จีนไปหา คือ เอริก/แม็กนีโต (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) ผู้เกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตในธรรมชาติอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทร

แต่ก็ตามมาด้วยฉากความวายวอดของสิ่งรอบข้างอีกครั้งด้วยพลังทมิฬในตัวจีน แถมท้ายด้วยการฆ่าตัวละครสำคัญไปตัวหนึ่ง

ตัวละครของจีน เกรย์ ข้ามไปข้ามมาระหว่างสีขาวและสีดำ ระหว่างความดีและความอำมหิต แต่บทบาทของมหาวายร้ายทรงพลังดำมืดอีกคน คือ วุค (เจสซิกา เชสเทน) มนุษย์ต่างดาวที่กำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยการทำลายล้างเผ่าพันธุ์อื่น

และวุคกำลังตามหาจีนเพื่อรับถ่ายทอดพลังทมิฬเข้าสู่ตัวเอง พลังที่จีนได้รับจากการช่วยกอบกู้ยานอวกาศที่เกิดปัญหาระหว่างภารกิจของมนุษยชาติ

พลังนั้นคือพลังมหาศาลของจักรวาลที่สามารถส่งกระแสไปทำลายล้างดาวทั้งดวงลงในพริบตา

 

ปัญหาของหนังภาคนี้ คือเรื่องราวที่แตกแขนงจากการต่อสู้ระหว่าง “โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์” กับ “แม็กนีโต” ซึ่งเป็นสองขั้วคนละด้านระหว่างความดีกับความชั่วนั้น ออกจะจืดชืดเพราะตัวละครค่อนข้างแบน และพล็อตเดินไปโดยปราศจากเหตุผลแน่นหนาน่าเชื่อ เหตุการณ์มีขึ้นเพียงเพื่อสำแดงอิทธิฤทธิ์เปรี้ยงปร้างทำลายล้างวอดวายของมนุษย์กลายพันธุ์

ธีมที่เคยให้น้ำหนักแก่เรื่องราว ซึ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งของมนุษยชาติกับมนุษย์กลายพันธุ์ที่ว่าทำไมคนเราถึงหวาดกลัวสิ่งที่แตกต่างไปจากเรานั้น แทบไม่ปรากฏ มนุษยชาติถูกนำเสนอเป็นเพียงตัวการ์ตูนที่ไม่มีความลึกของแคแร็กเตอร์ ได้แต่ทำสิ่งต่างๆ ไปตามแกน

อาทิ พลังความสามารถของมนุษย์กลายพันธุ์ก็เป็นที่ประจักษ์แก่ใจของมนุษย์อยู่แล้ว (วัฒนธรรมเอ็กซ์แพร่หลายมานานปีทั้งในรูปหนังสือการ์ตูนและบนจอภาพยนตร์) นั่นเป็นสาเหตุที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐเปิดฮอตไลน์สายด่วนสายตรงไว้กับโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ

แต่ทำไม้-ทำไมถึงได้ไม่เรียนรู้กันซะทีว่า การส่งกองกำลังถือปืนที่มีทหารแค่กระหยิบมือไป หรือส่งเฮลิคอปเตอร์ไปแค่สามสี่ลำ เพื่อตามจับมนุษย์กลายพันธุ์ที่เติบโตแกร่งกล้าที่สุดในสายพันธุ์ของตัวเองไปแล้วนั้น มีแต่จะต้องเกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตผู้คน

แล้วก็ยังฝืนทำแบบเดิมๆ อยู่นั่นแหละ เมื่อไหร่จะจำใส่กะโหลกกันเสียทีว่าลูกกระสุนปืนแทบจะทำอะไรไม่ได้กับมนุษย์พิเศษพวกนี้

 

“แม็กนีโต” ผู้มีความสามารถในการบังคับบงการโลหะทุกชนิดให้หักงอหรือแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ตามใจตัวเอง ก้าวข้ามมาเป็นฝ่ายดีเต็มตัวในเรื่องนี้ และแทบไม่ได้ยินฉายาอันมีความหมายเกี่ยวกับแม่เหล็กดึงดูดโลหะของเขาในหนังภาคนี้เลย

เขาลาจากวงการการขับเคี่ยวเป็นศัตรูกับมนุษยชาติ โดยเนรเทศตัวเองออกจากสังคมโลกไปสู่ชุมชนเล็กๆ ที่ปลูกผักปลูกหญ้ากินอยู่แบบพอเพียง

ในภาคนี้ มนุษย์กลายพันธุ์ตัวพ่อสองคนเหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีวันแก่เฒ่า ทั้งๆ ที่เมื่อตอนหนังเปิดตัวเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว สองคนนี้แสดงโดยนักแสดงอาวุโส แพทริก สจ็วต และเอียน แม็กเคลเลน

แต่หลังจากที่ภาคต่อๆ มาเท้าความกลับไปสู่อดีตในตอนหนุ่ม ในภาพลักษณ์ของเจมส์ แม็กอะวอย กับไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ แล้ว ภาพลักษณ์สมัยหนุ่มเลยติดอยู่คู่กับหนัง พอมาถึงภาคนี้ ก็สร้างความสับสนเกี่ยวกับไทม์ไลน์ให้กับคนดูไม่น้อย

ยังงงๆ อยู่เนี่ยว่าถ้าประมวลเรื่องราวในทุกภาคที่สร้างมาเป็นหนังแล้ว ยังจัดเรียงลำดับเวลาของเหตุการณ์ก่อนหลังแทบไม่ถูกเลย

 

โดยสรุป หนังภาคนี้ออกจะไม่น่าประทับใจ ด้วยความสับสนหลายๆ อย่าง พล็อตเรื่องดูดาดๆ ไม่น่าสนใจ แคแร็กเตอร์ก็ขาดมิติล้ำลึกอันน่าตราตรึง

ในการแข่งขันของหนังซูเปอร์ฮีโร่ช่วงนี้ ทีมเอ็กซ์เมนจึงชิดซ้ายเบียดลงไหล่ทาง ปล่อยให้ทีมอเวนเจอร์พุ่งฉลุยแล่นเข้าเส้นชัยไปด้วยชัยชนะอย่างงดงาม แม้จะมีที่มาจากค่ายเดียวกัน คือมาร์เวล ที่นับว่าครองตลาดซูเปอร์ฮีโร่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

แต่ความหมายของฟีนิกซ์ ก็ยังทิ้งค้างอยู่ในใจคนดู ขึ้นอยู่กับว่าวิหคเพลิงจะผงาดกลับขึ้นสู่ฟากฟ้าได้อีกเมื่อไหร่