เริ่มเห็นเค้าโครงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เพิ่งเข้าพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ หมาดๆ

แต่กว่าเก้าอี้รัฐมนตรีจะลงตัว พรรคร่วมรัฐบาลเองต่างปล่อยข่าวแย่งเก้าอี้กันนัวหลังจากประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา

และทันทีที่ได้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มีข่าวจากทางฝั่งพลังประชารัฐซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลว่า สามารถเจรจากับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพื่อขอเก้าอี้กระทรวงหลักคืนได้สำเร็จแล้ว ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ ทั้งกระทรวงคมนาคม โดยมีการเสนอกระทรวงน้ำดีไปแลก

ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยตะโกนเสียงดังฟังชัดว่า “ไม่แลก ทุกอย่างยังคงเดิม”

ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่าทุกอย่างจบตั้งแต่ก่อนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

ในขณะที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่โพสต์เฟซบุ๊กกระแทกแบบชัดๆ ว่า “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว!!”

เป็นการตอกตะปูปิดฝาโลง แบบที่สื่อไม่ต้องมาถามต่อว่านิ่งหรือไม่นิ่ง แถมยังได้ตอกกลับอีกฝั่งที่พยายามปล่อยข่าวอยากได้เก้าอี้คืน…!!

 

แรกเริ่มเดิมที เกมยื้อเก้าอี้เพราะทางพรรคพลังประชารัฐเองที่ประเคนเก้าอี้เกรดเอ อันโอชะให้กับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อดึงเข้ามาเป็นพวกในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล แล้วยังหวังว่าจะมาสอยเก้าอี้คืนทีหลัง

แต่เกมการเมืองไม่ใช่กีฬาสีในโรงเรียนอนุบาล ที่จะให้แล้วเอาคืน หรือร้องงอแงว่าไม่ได้ เอาใหม่ รื้อใหม่ โละใหม่ ล้างใหม่

ตั้งแต่กลุ่มสามมิตร ที่จะยื้อขอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ เพราะตลอดการหาเสียงที่ผ่านมา “สมศักดิ์ เทพสุทิน” แกนนำกลุ่ม หาเสียงเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกร เรื่องโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.มาโดยตลอด ทำให้ลูกเล็กเด็กแดงในกลุ่มก๊วนออกมาตีรวน จี้ให้พรรคประชาธิปัตย์คืนเก้าอี้ให้

แต่ใครจะไปยอมคืน เพราะเท่ากับว่างานนี้เตะหมูเข้าปากไปแล้ว ไม่มีทางคืนแน่นอน พรรคเจ้าของโควต้าก็หาเสียงเกี่ยวกับเรื่องการแก้ปัญหาการเกษตรไว้ไม่แพ้กัน ทั้งเรื่องการประกันราคายาง ปาล์ม

สุดท้ายกลุ่มสามมิตรยอมถอย ต้องปล่อยมือจากเก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ

ขณะที่มีความพยายามของกลุ่มที่ถูกเรียกกันในนาม “กลุ่มไม่มีมือ” ที่ไร้ ส.ส.ในสังกัด และพยายามติดต่อไปยังแกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่า ผู้ใหญ่ในพรรคให้มาขอกระทรวงคมนาคมคืน เพราะต้องการเอากระทรวงเศรษฐกิจไปบริหารเอง

แถมยังอ้างอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ยอมคืนกระทรวงเกษตรฯ ให้แล้ว แต่ก็ต้องถูกตอกหน้าแง เมื่ออีกฝั่งแย้งว่า ได้คุยกับคนที่จะนำชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว และยืนยันว่าเก้าอี้ยังเป็นตามเดิม

ทำเอาคนต่อสายต้องม้วนเสื่อกลับบ้านทันที…

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ที่ยังไม่ไฟนอล 100%

ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรีด้านความมั่นคง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (แต่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีคนนอกมาทำหน้าที่แทน) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.อุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.พลังงาน ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยมีชื่อเป็น รมว.แรงงาน แต่นายกฯ ติดใจภาพลักษณ์ส่วนบุคคล ที่เป็นในลักษณะมาเฟีย ทำให้หลุดจากตำแหน่ง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.แรงงาน

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงการคลัง ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ เป็น รมช.คมนาคม

โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์กำชับว่าเรื่องตำแหน่งให้จบเพียงเท่านี้ และจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก

ขณะที่สัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ การจัดวางบุคคลยังไม่ลงตัว ยังมีการสลับตำแหน่งกันไปมา เพราะพรรคประชาธิปัตย์ใช้การจัดสรรตำแหน่งในระบบภาคและความอาวุโส ซึ่งในเบื้องต้นมีชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย โดยมีกระแสข่าวว่า เก้าอี้ รมช.มหาดไทย นายถาวร เสนเนียม ต้องการที่จะกลับมานั่งเองเพราะเคยทำหน้าที่มาแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงต้องไปเป็น รมช.คมนาคมแทน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ยังมีกระแสข่าวว่า นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ซึ่งเป็นเต็ง 1 แคนดิเดตภาคกลาง แข่งกับนายสาธิต ปิตุเตชะ และนางรังสิมา รอดรัศมี ที่จะคั่ว รมช.คมนาคม

แต่นายมนตรีและนายเฉลิมชัยมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จังหวัดเดียวจะได้รัฐมนตรีถึง 2 คน

โควต้าดังกล่าวจึงตกไปเป็นของนายสาธิต ปิตุเตชะแทน

แต่ก็ถูกนายถาวรเบียดเอาเก้าอี้ช่วยคมนาคมไป นายสาธิตจึงต้องไปนั่งเป็น รมช.สาธารณสุข

ส่วนตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ มีชื่อนายกนก วงษ์ตระหง่าน กับนายประกอบ รัตนพันธ์ ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเคาะใคร

 

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขณะที่เดิม รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นชื่อของนางนาที รัชกิจประการ ซึ่งนางนาทีติดเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติ จึงเปลี่ยนตัวเป็นนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รับตำแหน่งแทน

นอกจากนี้ยังมีชื่อนายนภินทร ศรีสรรพางค์ สายนอกโควต้า ส.ส. เป็น รมช.เกษตรฯ ส่วนเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการ เป็นของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ศรีจันทร์งาม ลูกสาวนายสุนทร วิลาวัลย์

ส่วนนายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รมช.พาณิชย์ ขณะที่ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ที่มีชื่อนายชาดา ไทยเศรษฐ์ แต่เกิดปัญหาเช่นเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะหารือในสัปดาห์นี้

ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประภัตร โพธสุธน เป็น รมช.เกษตรฯ

ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทย แย่งเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ มาจากนายดอน ปรมัตถ์วินัย โดยอาจจะให้นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หรือ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ทำหน้าที่แทน

อย่างไรก็ตาม หน้าตา ครม.ใหม่จะมีความชัดเจนในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากการเป็นเจ้าภาพในการประชุมผู้นำอาเซียนแล้ว

ถึงตอนนั้นได้รู้แน่ว่าไผเป็นไผ…