ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 ธันวาคม 2559 - 5 มกราคม 2560 |
---|---|
เผยแพร่ |
ปีใหม่ใช่เพียงมีสิ่งใหม่ให้เตรียมรับ หากเป็นกาลสมควรจะทบทวนถึงปีเก่าที่ผ่านมาด้วย
ปีที่ผ่านมาเป็นปีสุดท้ายของแผ่นดินที่เก้าที่ชาวไทยขวัญหายไม่คาดคิด ไม่ตั้งตัว
แผ่นดินที่เก้า ปีสองห้าห้าเก้า สิริพระชนมายุแปดสิบเก้า และยังมีเลขเก้าเป็นมงคลอย่างน่าอัศจรรย์อีกมากนัก
พี่โกวิท เอนกชัย ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ อดีตท่านคือ “เขมานันทะ” เคยปรารภให้ฟังถึงความอัศจรรย์ของเลขเก้าไทยว่าเป็นสัญลักษณ์ของความไปพ้นจากตัวตน คือจากอัตตาเป็นอนัตตา
คือความหลุดพ้น เป็นวิมุติ นั่นเอง
ท่านว่าตัวเลขไทย ตั้งแต่หนึ่งถึงศูนย์นี้ นับเป็นปริศนาธรรมสำคัญ ถ้าเราจะรู้จักเพ่งพินิจ
ลองสังเกตดูเถิด เลขไทยทุกตัว เขียนเส้นแล้วเส้นหางของตัวเลขล้วนวนเข้าหาตัวคือไม่พ้นตัวได้จริง มีแต่เลขเก้านี้เท่านั้นที่หางของตัวเลขจะพุ่งขึ้นเบื้องบนไปพ้นจากตัวเอง
การวนอยู่กับตน กับการไปพ้นจากตนนี่แหละสำคัญนัก
เป็นสัจธรรมสำคัญของมีชีวิตทีเดียว
มาลองดูกัน
เลขหนึ่งไทยก็คือ ๑
จากหัวเลขศูนย์กลางเส้นตัวเลขจะวนรอบศูนย์กลางได้ไม่รู้จบ แต่เราตัดวนรอบเดียวเป็นเลขหนึ่ง
นี้คืออัตตา ยิ่งวนรอบใหญ่ขึ้นก็เหมือนอัตตาที่โตขึ้นเรื่อยอย่างไม่มีสิ้นสุด ดังศัพท์เรียกมหาตมะ หรืออาตมัน นั้น
เลขสอง คือ ๒ นี่ก็เช่นกัน พยายามจะแตกตัวจากเลขหนึ่ง คือไม่วนหัวเลข แต่แล้วก็วนรอบตัวเหมือนเดิมถ้าไม่หยุดเป็นเลขสองอยู่เพียงนั้น
เหมือนความใฝ่ฝันของมนุษย์ที่จะพยายามไม่พ้นจากตัวเอง แต่ก็ยังพัวพันกับตัวตนอยู่นั่นแล้ว
เลขสาม คือ ๓ นี่ก็เช่นกัน พยายามแยกแตกตัว แต่แล้วต้องหยุดอยู่แค่นั้น
เลขสี่ คือ ๔ นี่แปลก คือเริ่มหาทางใหม่แทนที่จะวนเข้าตัวเหมือนสามเลขที่ผ่านมา กลับเริ่มหันออกจากตัวด้วยการหาทางใหม่ แต่แล้วก็หยุดอยู่แค่นั้น ด้วยไม่ว่าจะตวัดอย่างไรมันก็ยังวนอยู่รอบตัวนั่นเอง
ชีวิตคนก็เป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ
เลขห้า คือ ๕ ก็คล้ายเลขสี่แม้จะขมวดหัวขึ้นไปอีกชั้นมันก็ยังวนเหมือนเดิม
เลขหก คือ ๖ นี่พิสดาร เริ่มแสวงหาทางใหม่ คือหันหน้ากลับทิศกลับทางใหม่ หางเลขก็หยุดอยู่แค่นั้น ขืนไปอีกก็วนอีก
นี่แหละชีวิต
เลขเจ็ด คือ ๗ นี่แปลก ทำท่าเหมือนย้อนกลับมาสู่วิถีของเลขสามใหม่ คือแยกแตกตัวออกมาไม่วนเข้าตัวต่อไปดังเลขสอง โดยตวัดหางออกข้าง แต่แล้วไปไม่รอด หยุดเป็นเลขเจ็ดอยู่เพียงนั้น ขืนไปต่ออีกก็วนอีก
จริงนะหนอนี่ชีวิตเจ้าเอย…
เลขแปด คือ ๘ นี่ก็หันคืนสู่วิถีเลขสี่กับเลขห้าใหม่ พยายามขยักยักย้าย แต่แล้วก็อับจนเหมือนเดิมคือไปไม่พ้นตัวสักที
มีแต่เลขเก้า คือ ๙ นี้เท่านั้นที่เริ่มหมวดหัวเป็นตัวตนแล้วแทนที่จะวนรอบหรือหาทางอย่างเลขอื่น หางของเลขเก้ากลับทะยานพุ่งขึ้นพ้นตัวทันที
เป็นหางตัวเลขที่ตวัดขึ้นอย่างงดงาม ฉับพลัน ดังการบรรลุสัจธรรม คือ วิมุติ นั่นเทียว
ดังเรามาใช้เป็นตราอุณาโลม สัญลักษณ์ของความเป็นมงคลนั่น
ต่อจากเลขเก้า หรือก่อนจะขึ้นเลขหนึ่งก็คือเลขศูนย์ ดังนี้ ๐
เหมือนจะบอกว่า เริ่มจากศูนย์ไปสู่ศูนย์ หรือคือทุกสิ่งเป็นสูญ มาจากสูญ ไปสู่สูญ
ดังสัญลักษณ์วงกลมแห่งความว่างคือ สุญตา นั้น
เพ่งพินิจเลขไทยเป็นปริศนาธรรมก็เป็นวิถีกรรมฐานได้วิธีหนึ่ง
หันมาทบทวนชีวิตถือเอาเลขเก้าไทยเป็นมงคลชีวิตก็จะเป็นพรปีใหม่ให้ตัวเองได้วิธีหนึ่งด้วย
ผู้รู้ท่านว่าตัวเรานี้มีสามตัว หนึ่งคือตัวที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น สองคือตัวที่เราคิดว่าเราเป็น ตัวที่สามคือตัวจริงของเราเองจริงๆ
ขอตั้งชื่อเจ้าสามตัวนี้เป็น สมมุติ สมภพ สมพุทธ ละกัน
เจ้าสมมุตินี่คือตัวที่หนึ่ง เราเสียเวลาให้กับเจ้าตัวสมมุตินี่มากจริงๆ บางทีแทบทั้งชีวิตนั่นเลยคือจัดแจงตัวเองตามที่คนอื่นเขาคิดว่าเราเป็นอยู่นั่นแล้ว ไม่รู้เลิกรา
หมดยศหมดตำแหน่งแล้วก็ยังแบกหนักอยู่กับเจ้ายศศักดิ์อัครฐานวางไม่ลงอยู่นั้นแล้ว
เจ้าสมภพนี้ก็เหมือนกัน ได้ภูมิใจกับความเป็นตัวเองตามปรารถนาได้บ้างไม่ได้บ้างก็ยังวางไม่ลงอยู่นั่น
เจ้าสมมุตินี่เหมือนเลขหนึ่งถึงเลขสาม ส่วนเจ้าสมภพนี่เหมือนเลขสี่ถึงเลขแปด
มีแต่เจ้าสมพุทธนี่แหละคือเลขเก้า
ชีวิตเราก็ควรนับหนึ่งถึงศูนย์ให้ถ่องแท้ด้วยวิถีรู้ตน-รับตน-ละตน ดังวิถีเลขไทย ดังกล่าว
มอบมงคลปีใหม่ด้วยเลขเก้าไทยเป็นพรเทอญ