“สูตรสำเร็จของการเป็นดาราบนอินสตาแกรม” ใครชอบโพสต์รูปเป็นโอกาสของคุณแล้ว

ความผิวเผินของสังคมมนุษย์ทุกวันนี้เห็นได้จากหลายสิ่งหลายอย่าง และอินสตาแกรมก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น

สังคมมนุษย์ยอมรับอิทธิพลของคนที่แต่งตัวสวยเก๋ โพสท่าเท่ๆ เตะตาคนที่เข้ามาดู จนในที่สุดเมื่อมีจำนวนคนดูมากเข้า เขาหรือเธอคนนั้นก็กลายเป็น “ผู้ทรงอิทธิพล” หรือที่ศัพท์การตลาดเรียกว่า Influencer

เขาหรือเธอไม่ต้องเป็นคนที่มีความสามารถอะไรเลย ไม่ต้องฝึกฝนเล่นดนตรีหรือเล่นกีฬาเป็นปีๆ ไม่ต้องทำอาหารเก่ง ออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าเก่ง ค้นคว้าทดลองวิทยาศาสตร์ คร่ำเคร่งร่ำเรียนแพทย์เพื่อมารักษาคนหรือสัตว์ เรียนวิศวะ หรือนั่งหลังขดหลังแข็งเขียนหนังสือ

มันช่างง่ายดายที่จะเป็นดาราบนอินสตาแกรม ซึ่งมีผู้สรุปไว้ว่าเพียงทำดังต่อไปนี้

 

ไปยืนถ่ายรูปหน้าฉากหลังที่น่าสนใจ เช่น ผนังตึกที่เป็นอิฐ หรือทาสีอย่างมีสไตล์สักหน่อย ทำหันมองไปไกลๆ ไม่มองกล้อง ทำหน้านิ่งๆ ไม่ยิ้ม

ช่างกล้องอาจใช้เทคนิคให้นายแบบหรือนางแบบทำทีก้าวออกมาจากช่องประตูแล้วกด แชะ แบบปาปารัซซี่

ช่างภาพจะแนะนำให้นายแบบเอามือเสยผมแบบดูไม่ตั้งใจ ถ้านายแบบคนนั้นยังทำท่าไม่เป็นธรรมชาติพอก็จะต้องเสยผมใหม่ซ้ำๆ จนกว่าช่างภาพจะลงความเห็นว่าดีแล้ว

แต่สิ่งที่ดูง่ายเหมือนไม่ตั้งใจนี้บางคนก็ต้องทำจนเหนื่อย บางทีทั้งวันก็ยังไม่ได้ภาพที่ถูกใจและต้องมาทำซ้ำใหม่วันรุ่งขึ้น

ช่างภาพมืออาชีพจะรู้ว่ารูปไหนที่ดูเท่เป็นธรรมชาติ เมื่อได้แล้วก็จะบอกว่าพอ

รูปนี้แหละ คุณโพสต์ได้เลย

 

ปรากฏการณ์อินสตาแกรมคือที่สุดของความเท่าเทียมกันของสังคมมนุษย์ มันคือสัญชาตญาณที่มีอยู่ในมนุษย์ส่วนใหญ่ที่อยากเป็นคนเด่น อยากเป็นดารา อยากให้มีคนมาดูตัวเองด้วยความชื่นชม นี่คือส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจ (self esteem) จะว่าไปมันเป็นการลงทุนที่น้อยมากและคนทุกคนสามารถทำได้ ส่วนจะมีใครเข้ามาติดตามหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ารูปของคุณถูกใจเขาหรือไม่

ชายหนุ่มคนหนึ่งเล่าว่าเขาเป็นชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่มีปริญญา มีงานทำ แต่งงาน มีลูก ทุกอย่างก็ดูจะดี แต่ชีวิตเหมือนขาดอะไรไป

เขาโพสต์รูปสมาชิกในครอบครัว รูปแมว ก็เท่านั้น

วันดีคืนดีเขาก็เลยลองไปหามืออาชีพให้ช่วยปั้นให้เขาเป็นที่น่าสนใจในอินสตาแกรม

ก็เพิ่งรู้เขามีอาชีพปั้นดาราบนอินสตาแกรมกันด้วย

ผลจากการใช้มืออาชีพมาช่วยแนะนำการแต่งกาย และหาช่างภาพฝีมือดีมาถ่ายรูปให้ ทำให้หนุ่มคนนี้ได้ไลก์ และการติดตามมากกว่ารูปที่เขาอุ้มลูกสาวที่เพิ่งเกิดใหม่ที่เขาคิดว่าใครๆ จะต้องชอบมากขึ้นตั้งเท่าตัว

ภาพที่ว่านั้นเป็นภาพคล้ายๆ นายแบบที่โพสท่าเหมือนไม่ตั้งใจในเสื้อแจกเกตมียี่ห้อ กำลังเดินข้ามถนน มีรถราขวักไขว่

 

บริษัทที่มีอาชีพช่วยคนให้เด่นบนอินสตาแกรมมีชื่อว่า Socialyte บริษัทนี้อธิบายการให้บริการว่าเป็นบริการสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง (self esteem) เมื่อให้ลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างไปหาสปอนเซอร์เสื้อแบรนด์เนมมาใส่แล้ว ถ่ายรูปได้แล้ว ทางบริษัทได้แนะนำให้พ่อหนุ่มคนที่ว่าโพสต์รูปตัวเองวันละ 3 ครั้ง

นอกจากรูปตัวเองแล้วทางบริษัทคอนซัลต์ก็แนะนำให้พ่อหนุ่มโพสต์รูปอื่นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขา เช่น อาหารที่เขากิน ไม่ต้องกินจริงก็ได้ แต่ต้องดูมีสไตล์นะ

นี่ก็คือเรื่องเมก เรื่องโกหก เพื่อสร้างความประทับใจ ที่มีทั้งผู้ให้บริการและมีทั้งลูกค้า

หลังจากที่พ่อหนุ่มโพสรูปตัวเองแล้ว ก็คอยเช็กดูยอด like และ follower

หากแม้นว่ารูปดูดีแล้ว ยอดก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ หากแม้นว่ายอดขึ้นไม่ทันใจก็ boost เอา เหมือนที่เฟซบุ๊กเขามีบริการ

 

หากเคยสงสัยว่าเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมนั้น คนคิดริเริ่มหัวแทบผุ แล้วเอามาให้คนใช้ฟรี เขาจะมีรายได้จากไหน พื้นๆ ก็โฆษณาที่มาลง แต่ยังมีรายได้อีกส่วนหนึ่งคือชักชวนให้คนที่มีแอ็กเคาน์เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมซื้อ boost post

สมมุติว่าเจ้าของเฟซบุ๊กอยากจะให้คนเข้ามาเห็น (reach) เพิ่มสัก 2,000 คน ก็เสียเงิน boost ซัก 500 บาท สำหรับอินสตาแกรมก็คล้ายๆ กัน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ซื้อ boost ในเฟซบุ๊กก็มักจะเป็นองค์กร

ที่น่าสนใจก็ตรงที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ไม่สวยไม่หล่อเลย แต่สไตลิสต์ก็จะช่วยให้คุณดูดีได้ในแบบของคุณเอง

แล้วทำไมคนถึงต้องไปจ้างบริษัทที่ปรึกษามาปรับภาพลักษณ์และวางท่าหน้ากล้องให้ดูดี ก็เพราะว่าปัจจุบันนี้ใครก็ตามที่มีผู้ติดตามคอยชมภาพของคุณมาก บรรดาสินค้าต่างๆ ก็จะจ้างคุณเป็นพรีเซ็นเตอร์ ได้สตางค์มาใช้

พรีเซ็นเตอร์อีกแล้ว

คำนี้ปัจจุบันนี้ใครไม่รู้จักก็เชยเต็มที

 

ทุกวันนี้มี Influencer หาเลี้ยงชีพด้วยวิธีนี้เป็นพันๆ คน บางคนเป็นรายได้หลัก อย่างคุณโมเมที่ชอบแนะนำการแต่งหน้า จนได้ดี บัดนี้คนจ้างไปทำโฆษณา เป็นต้น

ในโลกยุค 4.0 ผู้คนหารายได้บนออนไลน์กันหลากหลายรูปแบบ จนเกิดการเรียนรู้และพัฒนา มีผู้ตั้งตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ปรับยุทธวิธี กลายเป็นองค์ความรู้ (knowledge) ที่เอาไปทำมาหากินได้

ก็เก่งไปอีกแบบ เหนื่อยไปอีกแบบ

หลายคนลาออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจออนไลน์เต็มตัว

สำหรับหนุ่มคนที่ว่านี้ ก็จะต้องฮึดสร้างผู้ติดตามให้ได้เป็นหมื่นๆ เพราะว่าเขามีคู่แข่งในตลาดที่อาจจะมีผู้ติดตามเป็นแสนขึ้นไป

อย่างไรก็ดี ในวงการเขาก็รู้กันว่าถึงคุณจะมีผู้ติดตามไม่ถึงเรือนแสน แต่ถ้าเป็นกลุ่มที่เจ้าของสินค้าต้องการ คุณก็มีโอกาสเหมือนกัน

คนที่ชอบโพสต์รูปตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ โอกาสเป็นของคุณแล้ว ณ บัดนี้