ทราย เจริญปุระ : พิงใจ

ทั้งที่คิดว่าจะไม่มี แต่ย่างกุ้งก็มีสถานที่พักผ่อนแบบนี้ที่ซ่อนตัวอยู่หลังตึกใหญ่ติดถนน วิสกี้บาร์นั้นออกจะมืด โซฟาหนังที่นั่งอยู่ให้ความรู้สึกอุ่นสบาย

กลิ่นซิการ์จากโต๊ะข้างๆ อบอวลในอากาศ ควันม้วนตัวเป็นสาย ล่องลอยปรากฏให้เห็นเฉพาะตรงพื้นที่ที่แสงไฟส่องถึง

ทันทีที่พ้นเขตแห่งแสงไฟ ควันเหล่านั้นล้วนจางหายไร้ตัวตน

 

น่าน-นักเขียนหนุ่มผู้กำลังผจญกับอาการขาดแรงบันดาลใจ เป็นไข้นักเขียน-เขาลาออกจากงานประจำที่ดูจะมั่นคงดี ออกมาเพื่อทำอะไรที่น่าสนใจกว่าทั้งที่เขาก็ไม่รู้แน่ว่ามันคืออะไร

และในวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง เขาก็ได้รับอี-เมลจากผู้หญิงที่บอกเขาว่า เธอคือตัวละครของเขา-พิงใจ, สาวน้อยบุคลิกประหลาดไร้ที่มา-ยืนยันกับเขาอย่างนั้น

“พี่เป็นคนสร้างหนูขึ้นมาเอง หนูเดินทางออกมาจากสมองของพี่แล้วก็หลงทางมาจนหาพี่เจอ”*

 

ก็ตลกดีที่ทุกครั้งเมื่อมึนเมากันไปถึงระดับหนึ่ง วงเหล้าจะหันมาพูดถึงเรื่องชีวิตของตัวเอง

หนึ่งในหัวข้อยอดนิยมของชีวิตก็คือเรื่องของความรัก

“มันเหมือนต้องการการยืนยันตัวตนน่ะ” ฉันเอ่ย “ช่วยบอกเราทีว่าที่เราเป็นแบบนี้มันไม่แย่”

นั่นคือคำตอบต่อคำถามทีเล่นทีจริง เรื่องความต้องการในชีวิต อะไรที่เราอยากได้ และเราพร้อมที่จะพยายามแค่ไหนเพื่อให้ได้มันมา

พอโตๆ ขึ้นมา ฉันว่าคนเราเหมือนจะยืดหยุ่นน้อยลง ทั้งที่เราเคยคิดว่าการเป็นผู้ใหญ่จะทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น แต่สุดท้าย, คำว่าเข้าใจโลกมากขึ้นอาจจะเป็นคำพูดที่สวยงามเกินไป ที่ถูกต้องอาจจะเป็นว่าเราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เห็นแก่ตัวมากขึ้น รู้ว่าเรื่องไหนที่เราปล่อยได้ และเรื่องไหนที่มันจะทิ่มตำจิตใจเราเกินจะทนทาน

เราเบื่อจะคิดแล้วว่าเราต้องเอาความดีแลกกับความรัก เพราะถ้ารักมันก็รัก ชีวิตก็แค่นี้

เหมือนเป็นการพิสูจน์อะไรบางอย่าง มันคือความพยายามว่าเราดีพอต่อสิ่งที่ได้รับมาหรือยัง ถ้าเขาไม่ดีกับเรา นั่นเป็นเพราะเราไม่มีค่าพอใช่ไหม

วัดใจ วัดใจ กันไปเรื่อยๆ

 

น่านมาพบพิงใจ และพิงใจก็พาเขาไปพบกับเหตุการณ์ประหลาดโลกต่างๆ ที่ดูจะใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ พัวพันกับคนมากหน้าหลายตาตั้งแต่คดีดังที่เกี่ยวกับคอร์รัปชั่น ลูกชายปลัดกระทรวง นักรบ “เอาเรื่อง” ตำรวจ เงินหลายสิบล้าน อาจารย์ใหญ่ คลองประดับหิ่งห้อย มือปืน พระ

จากเรื่องไม่จริงเมื่อแรกพบดูเหมือนจะจริงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นหายนะไร้ทิศทาง

แต่พิงใจยังคงแน่วแน่ในเป้าหมายของเธอ

เธอต้องการกลับบ้านที่เธอมีตัวตนอยู่จริง

ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นได้ ก็ขึ้นอยู่กับน่านว่าจะค้นลึกเข้าไปในสมองของเขาได้เมื่อไหร่ ว่าใครคือพิงใจ

และทำไมเขาจึงสร้างเธอขึ้นมา

 

มีผู้คนที่เป็นเหมือนวิญญาณไร้ที่มาล่องลอยอยู่ทั่วไปในโลกนี้

เราล้วนไม่เกี่ยวข้องกัน ต่อให้ไล่นับญาติทั้งที่ห่างไกลและใกล้ชิดก็ไม่อาจเชื่อมโยงความสัมพันธ์

คนเหล่านั้น, คนที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ขอบทางข้างสวนสาธารณะมหาบันดูลา หม่องเล, ที่ยังคงติดเครื่องเรือพานักท่องเที่ยวเดินทางผ่านสายน้ำและประกายแดดที่อินเล พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารที่พุกามผู้สวมหมวกซานต้าสีแดงติดพู่กลมกับลองยีและรองเท้าแตะและส่งยิ้มให้ฉันทุกครั้งที่เห็นหน้ากัน

สิ่งที่เชื่อมโยงคนเหล่านั้นและฉันไว้กับโลก ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เราต่างมีต่อใครบางคน คนที่มีความหมายมากพอที่จะทำให้เราลืมตาตื่นไปทำงานทุกเช้า คนที่เราเก็บภาพของเขาไว้ในใจ คนที่เสียงของเขาจะบอกให้เราสบายใจได้เสมอ ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะมีคนรับฟัง

คนที่เป็นแสงไฟส่องตัวตนของเราก่อนจะจางหายไป

 

พิงใจได้กลับบ้านในที่สุด

ฉันกำลังจะได้กลับบ้านในอีกไม่กี่วัน

การออกมาห่างจากพื้นที่เดิมๆ นั้นบางทีก็เป็นการช่วยยืนยันบางอย่าง

ยืนยันว่าตรงไหนคือพื้นที่ของเรา

เราต่างเป็นพิงใจในแบบของตัวเอง

บ้างหาที่มา บ้างหาที่ไป

หวังจะได้เจอจุดหมายในเร็ววัน

“หาย” เขียนโดย จักรพันธุ์ ขวัญมงคล ฉบับพิมพ์ครั้งแรก กรกฎาคม, 2559 โดยสำนักพิมพ์มหาสมุด