คนมองหนัง | “ความทรงจำของก้อนหิน” โดย “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์”

คนมองหนัง

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต “Soul after six ความทรงจำของก้อนหิน” ที่จัดขึ้น ณ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2562

ในฐานะผู้ชมคนหนึ่ง ซึ่งเข้าไปนั่งดูการแสดงอยู่ด้วย

ขออนุญาตสรุปความเห็นที่มีต่อโชว์ดังกล่าวเป็นรายประเด็น ดังนี้

คุณภาพเสียง

หลายคนคงพอทราบว่า “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ถือเป็นสถานที่จัดงานคอนเสิร์ตระดับ “ปราบเซียน” อีกแห่งหนึ่งในบ้านเรา โดยเฉพาะเรื่องความยากลำบากในการจัดการระบบเสียง

อย่างไรก็ตาม “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” และทีมงานของพวกเขา สามารถจัดการเรื่องคุณภาพเสียงระหว่างการแสดงสดได้ดีพอสมควร คือคนฟังจะได้ยินเสียงเครื่องดนตรีค่อนข้างครบถ้วน และเสียงนักร้องไม่จมมิด

หากเทียบกับ “Byrd & Heart High School, Class Reunion Concert” และ “โอม ชาตรี ไลฟ์ เรวัต ฟอร์เอฟเวอร์” ซึ่งเป็น 2 ใน 3 คอนเสิร์ตใหญ่ล่าสุด ที่ผู้เขียนได้ตีตั๋วเข้าไปชมใน “รอยัล พารากอน ฮอลล์”

ต้องยอมรับว่า “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” นั้นจัดการเรื่องเสียงได้เหนือกว่าสองโชว์ข้างต้นชัดเจน

อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางคอนเสิร์ต “ความทรงจำของก้อนหิน” ระหว่างที่ “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” กำลังร้องบรรเลงเพลง “รักแล้ว” หนึ่งในผลงานชิ้นเอกจากอัลบั้มชุดแรกของพวกเขา ก็เกิดปัญหาขึ้นกับไมโครโฟนของ “ปิงปอง-วิศรุตเทพ สุพรรณเภสัช” ซึ่งกำลังรับหน้าที่ร้องนำ

ปัญหาทางด้านเทคนิคของระบบเสียงยังเกิดขึ้นประปรายหลังจากนั้น โดยแสดงออกผ่าน “นอยส์” ที่โผล่แทรกเข้ามาเป็นระยะ

“ปึ่ง-ณรงค์ฤทธิ์ สุพรรณเภสัช” ในฐานะหัวหน้าวง จึงต้องลุกมาประกาศ “พักครึ่ง” คอนเสิร์ตทันที เมื่อจบเพลงที่ 16 ของโชว์ เพื่อทีมงานจะได้กลับไปไล่แก้ไขปัญหาเรื่องระบบเสียงให้สำเร็จลุล่วงเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

นี่คือวิธีการทำงานในแบบฉบับของ “เพอร์เฟ็กชั่นนิสต์” ที่เพิ่งมีงานคอนเสิร์ตใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี

คุณภาพโชว์

ถ้าไม่นับปัญหาเชิงเทคนิคข้างต้นที่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ต้องชื่นชมว่า “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” และทีมนักดนตรีสนับสนุนคุณภาพคับแก้ว สามารถทำผลงานในภาพรวมได้ดีเยี่ยม

ณรงค์ฤทธิ์-วิศรุตเทพ และ “บิ๊ก-ศรุต วิจิตรานนท์” สามสมาชิกหลัก ทุ่มเทกายใจให้คอนเสิร์ตนี้อย่างสุดตัว โดยที่พวกเขายอมรับเองว่า ไม่รู้จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งต่อไปหรือไม่? และเมื่อไหร่?

ขณะที่นักดนตรีเบื้องหลังก็ทำงานกันเป็นหมู่คณะ โดยเน้นไปยังภาวะ “สอดประสานคล้องจอง” ของท่วงทำนองแห่งบทเพลง มากกว่ามุ่งโชว์ทักษะแบบชายเดี่ยว ทั้งที่แต่ละคนมีศักยภาพจะทำเช่นนั้นได้ไม่ยาก

เช่นเดียวกับนักดนตรี-นักร้องรับเชิญ ที่เล่น-ร้องได้อย่างน่าประทับใจเกือบทั้งหมด

ลีลาหวดกลองของ “วรรณยศ มิตรานนท์” และลวดลายการเดินเบสของ “วิโรจน์ สถาปนาวัตร” นั้นจัดว่าเหลือแ-ก และเก๋าสมเครดิต

ส่วน “โอสถ ประยูรเวช” ก็มาพร้อมสำเนียงกีตาร์อันพลิ้วไหวและลูกฮาอันล้นเหลือ (ร้อง-เล่นสองเพลง เปลี่ยนสูทสองตัว)

ที่น่าประทับใจคือ โอสถมีโอกาสร้องบรรเลงเพลง “ใจต่างใจ” (เธอกับฉันสวรรค์สร้าง…) ซึ่งเขาแต่งให้ “มาลีวัลย์ เจมีน่า” ในอัลบั้ม “กับฉัน” ผลงานเดี่ยวชุดแรกสุดของเธอ

“โก้-เศกพล อุ่นสำราญ” โผล่มาเซอร์ไพรส์ด้วยการเป่าแซ็กโซโฟนประกอบเพลง “รักเก่าๆ” ได้อย่างเปี่ยมเสน่ห์ ในฐานะที่เขาเคยเป่าแซ็กฯ บันทึกเสียงให้แก่เพลงดังกล่าวเมื่อ 16 ปีก่อน

“เบน-ชลาทิศ ตันติวุฒิ” ร้องเพลง “รอ…คงเพียง” ได้อย่างทรงพลัง ไม่แพ้หรืออาจดีกว่าต้นฉบับ

“บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” และอีกหนึ่งแขกรับเชิญเซอร์ไพรส์ คือ “แทตทูคัลเลอร์” ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของพวกตน

แต่โดยส่วนตัว ผมแอบรู้สึกว่าน้ำเสียงและศักยภาพของ “มาเรียม เกรย์” แห่ง “บีไฟว์” นั้นไม่ค่อยลงล็อกกับเพลง “คงรักตลอดไป” และ “ยังไม่ชิน” ที่เธอได้รับมอบหมายให้ถ่ายทอดสักเท่าใดนัก

รูปแบบโชว์

วงดนตรีนอกกระแสอย่าง “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” นั้นใจเด็ดไม่น้อย ที่ตัดสินใจเล่นคอนเสิร์ตยาวนาน 4 ชั่วโมงครึ่ง (จาก 20.15 น. ถึงเกือบตีหนึ่ง) โดยไม่ยอมเอาเพลงดังๆ ใส่ไปในช่วงเริ่มต้นโชว์

กระทั่งโชว์เดี่ยวของ “บิ๊ก ศรุต” ที่เรียกน้ำตาจากเจ้าตัวและแฟนคลับเฉพาะกลุ่ม ก็ไม่อาจถือเป็น “ไคลแมกซ์” ณ ช่วงกลางคอนเสิร์ต

รูปแบบการจัดวางโชว์ของ “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” จึงมีลักษณะค่อยๆ ไล่นวดผู้ชมคนฟัง แบบไล่ไต่ระดับไปเรื่อยๆ สู่จุดพีกในเพลง “ก้อนหินละเมอ” และ “เคียงเธอ” ณ ปลายคอนเสิร์ต

จนอดเสียดายแทนผู้ชมหลายรายที่ตัดสินใจกลับบ้านในช่วงพักครึ่งหรือช่วงก่อนคอนเสิร์ตจบไม่ได้ (ถ้าพวกเขาเป็น “แฟนตัวจริง” ของ “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์”)

ปัญหาเรื่องคนดู

“ความทรงจำของก้อนหิน” คล้ายคลึงกับคอนเสิร์ตสเกลใหญ่อีกหลายงานในระยะหลังๆ ซึ่งขายบัตรไม่หมด และต้องมีบูธจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสปอนเซอร์ตั้งอยู่ใกล้ฮอลล์

ส่งผลให้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยไม่ได้มีจิตใจจดจ่ออยู่กับการแสดงดนตรีบนเวที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาคือผู้ได้รับบัตรอภินันทนาการ ทั้งๆ ที่บางคนแทบไม่เคยรู้จักเพลงของ “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” มาก่อน ขณะที่อีกส่วนก็เดินเข้าๆ ออกๆ กันขวักไขว่ เพื่อไปซื้อเบียร์เพิ่มและทำกิจธุระส่วนตัวในห้องน้ำ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนดูหลายรายหายหน้าหายตาไปภายหลังการพักครึ่งคอนเสิร์ต เพราะพวกเขา “ไม่อิน” และอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางมาชมคอนเสิร์ตนี้ตั้งแต่ทีแรก

แต่ใช่ว่าปัญหาทั้งหมดจะเป็นเรื่องของผู้ชม เพราะนี่คือคำถามท้าทาย “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” เหมือนกัน ว่าคอนเสิร์ตสเกลไหนและสถานที่แบบใด ซึ่งเหมาะสมกับทางวงมากที่สุด? การทำโชว์ที่ใช้บริการทีมนักดนตรีเกือบ 20 ชีวิต ต้องการคนดูขั้นต่ำประมาณเท่าไหร่? แฟนเพลงพันธุ์แท้ของวงคือใครบ้าง? และมีความจำเป็นต้องล่อใจผู้บริโภคด้วยอะไรอย่างอื่นจริงหรือไม่?

คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในหัวผมระหว่างไปนั่งชมคอนเสิร์ตของ “ดึกดำบรรพ์ บอย แบนด์” ที่โรงภาพยนตร์สกาล่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน หรือหนึ่งวันถัดจากคอนเสิร์ต “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์”

น่าสนใจว่านักร้อง-นักแต่งเพลง วัยใกล้ 70 ปี 3 คน และทีมนักดนตรีสนับสนุนอีก 4 ราย สามารถทำโชว์ในมาตรฐานโดยรวมที่มิได้อ่อนด้อยกว่า “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” (แม้คุณภาพเสียงอาจไม่เนี้ยบเท่า) ต่อหน้าคนดูกว่า 900 คน เต็มความจุของโรงหนัง

โดยมีผู้ชมส่วนน้อยมากๆ ที่ลุกขึ้นเดินเข้าๆ ออกๆ จนรบกวนจิตใจ สายตา และโสตประสาทของคนดูรายอื่น (ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะด้านหน้าสกาล่าไม่มีซุ้มขายเบียร์)

ความแตกต่างข้อนี้อาจเกิดขึ้นจากการที่ “ดึกดำบรรพ์ บอย แบนด์” นั้นจัดคอนเสิร์ตใหญ่ถี่ๆ แบบปีชนปีมาอย่างต่อเนื่อง (แต่เปลี่ยนสถานที่จัดงานและรูปแบบโชว์ไปเรื่อยๆ) กระทั่งค้นพบผู้ชมซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตนเอง

ผิดกับ “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์” ที่เว้นวรรคไปนานเกือบสองทศวรรษ พวกเขาจึงยังประเมิน “กลุ่มคนดู” ของตัวเองได้ไม่แม่นยำนัก แม้คุณภาพการร้องเล่นดนตรีจะ “เกือบเพอร์เฟ็กต์” แล้วก็ตาม

ลำดับ-รายชื่อเพลงในคอนเสิร์ต “โซลอาฟเตอร์ซิกซ์ ความทรงจำของก้อนหิน”

เห็นฉันไหม, คนละทางเดียวกัน, ลำพัง, คำเดียวว่า…, เก็บเอาไว้, คงรักตลอดไป (แขกรับเชิญ มาเรียม บีไฟว์), ยังไม่ชิน (แขกรับเชิญ มาเรียม บีไฟว์)

เวลา, คิดถึง, คำตอบ, เข้าใจไปเอง, สัญญา, รักแล้ว, ขอเพียงเวลา, ในฝัน, หมื่นล้านคำ

ดินแดนแห่งความฝัน, รอ…คงเพียงพอ (แขกรับเชิญ เบน ชลาทิศ), คะแนนแห่งชีวิต (แขกรับเชิญ เบน ชลาทิศ), กลัว, อีกทีได้ไหม, ยังมี (แขกรับเชิญ โอสถ ประยูรเวช), ใจต่างใจ (แขกรับเชิญ โอสถร ประยูรเวช)

วันของเรา, ทิ้งฉันไว้ (แขกรับเชิญ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์), ถ้าปล่อยให้เธอเดินผ่าน (แขกรับเชิญ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์), ข่าวร้าย, รักเก่าๆ, จังหวะชีวิต, เจ้าพายุ

จากกันด้วยดี (แขกรับเชิญ แทตทูคัลเลอร์), รู้, Nude, ก้อนหินละเมอ และเคียงเธอ