อุรุดา โควินท์ / อาหารไม่เคยโดดเดี่ยว : เมี่ยงสามัคคี

ฉันจบ ม.ปลายจากโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ชื่อชวนให้นึกถึงความปรองดอง ความรัก ความเป็นหนึ่งเดียว แต่เราก็เรียนกันไปตีกันไป มวยเดี่ยวบ้าง มวยหมู่บ้าง ยกห้องลุยกันบ้าง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความสามัคคี (ฮา)

ฉันออกจะห่างเหินจากโรงเรียนเดิม ไม่เคยไปร่วมงานศิษย์เก่า ไม่อ่านไลน์กลุ่ม ไม่ค่อยว่างไปงานเลี้ยงห้อง

ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นธรรมชาติของฉันเอง ฉันคิดว่ามิตรภาพไม่ได้ถูกเลือกโดยโรงเรียน คณะที่เราเรียน แต่มันถูกเลือกโดยวิถีชีวิตและวิถีคิด

เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน วันหนึ่งก็ต้องห่างกันไป เราไม่ได้หัวเราะในเรื่องเดียวกัน สนใจเรื่องเดียวกัน ตื่นเต้นต่อเรื่องเดียวกัน ปีหนึ่ง เรากินข้าวด้วยกันมื้อสองมื้อ ในนามศิษย์เก่าสามัคคี เรามักคุยเรื่องความหลัง ไม่ว่าเจอกี่ครั้ง บทสนทนาของเพื่อนเก่าก็วนเวียนอยู่ในอดีตกาล ราวกับว่า เราไม่ใช่คนที่มีอนาคตร่วมกัน

ไม่ถึงกับปฏิเสธงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อนเก่า แต่ฉันไม่เคยโหยหา ถ้าว่างและอยู่เชียงรายในวันนั้น ฉันก็ไป ไปเพื่อจะพบว่า เราเป็นเพื่อนเก่าอย่างแท้จริง เพื่อนที่จะเก็บไว้ในความทรงจำ เพื่อนซึ่งไม่ได้ใช้ชีวิตปัจจุบันสอดคล้องกัน

 

ฉันเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง เมื่อฉันชวนพี่เอกกับน้องนิวมากินมื้อเย็นกับเรา พวกเขาคือคนที่เรานึกถึงเมื่อทำเมี่ยงก๋วยเตี๋ยว คนที่เราแน่ใจว่าจะมา คนที่เรามีเรื่องคุยไม่รู้จบ

ทั้งสองไม่ใช่เพื่อนร่วมสถาบัน คนหนึ่งอายุมากกว่าเราห้าปี อีกคนอายุน้อยกว่าเราเกือบยี่สิบปี แต่นั่นล่ะ เราคุยกันสนุก เราอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน ชอบกินเผ็ดเหมือนกัน ชอบต้นไม้เหมือนกัน และทำงานอิสระเหมือนกัน

อาหารประเภทเมี่ยงเหมาะกับมื้อเย็นในฤดูร้อน เหมาะกับเครื่องดื่ม เหมาะกับการสังสรรค์ และเราได้บทเรียนจากการทำเมี่ยงก๋วยเตี๋ยวครั้งก่อนหน้า ว่าเราไม่มีทางกินสองคนหมด ทั้งเราแน่ใจว่ามันจะอร่อยขึ้นอีก ถ้ามีคนมาร่วมโต๊ะ

“มันคือก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมั้ยพี่” นิวถาม

นิวมาถึงก่อน นิวถือโอกาสเอางานมานั่งทำ และนิวชอบตามฉันเข้าครัว

“ไม่ใช่เลย อร่อยกว่ามากๆ ดูเผินๆ ก็เกือบใช่นะ แต่รสไม่ใช่ และเมี่ยงคือสิ่งที่กินทีละคำอ่ะ อร่อยตรงนั้น”

“อา…น่าสนใจ เผื่อผมทำขาย” นิวพูดอย่างนี้ทุกครั้งที่ฉันทำเมนูใหม่ให้เขาชิม คนทำอาชีพอิสระอย่างเรา ย่อมต้องหาเงินเข้ากระเป๋าหลายๆ ทาง มันดูอบอุ่นใจกว่า ปลอดภัยกว่า และทำให้เรารู้สึกมั่นคงขึ้นมาบ้าง

“ไม่คิดว่าพี่จะทำขายก่อนเหรอ” ฉันว่า

นิวหัวเราะก๊าก “พี่ไม่มีเวลาเหลือแล้ว เลี้ยงหมาน้อยอยู่ด้วย เสร็จผม เมนูนี้”

“งั้นเริ่มต้นด้วยการล้างผัก” ฉันส่งตะกร้าผักให้เขา

“โห หมดนี้เลยเหรอ”

“ผักบุ้ง กุยช่าย ผักกระเฉด เราจะลวก ผักชีซอยละเอียดใส่น้ำจิ้ม ยิ่งเยอะยิ่งอร่อย ผักกาดหอมใช้ห่อร่วมกับก๋วยเตี๋ยว”

 

ปล่อยผักให้อยู่ในความรับผิดชอบของนิว ฉันหันมาทำน้ำจิ้ม ซึ่งเป็นหัวใจของเมี่ยง น้ำจิ้มของเมี่ยงก๋วยเตี๋ยวคือพริกน้ำปลาที่มีความหวาน ฉันตวงน้ำปลาครึ่งถ้วยตวง น้ำตาลทรายครึ่งถ้วยตวงแบบหย่อนๆ ตั้งไฟอ่อนพอให้น้ำตาลละลาย แล้วปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น ค่อยซอยพริกขี้หนูสวนอย่างละเอียดใส่ลงไปเยอะๆ บีบมะนาวสักหน่อย โรยด้วยผักชีซอยจำนวนมาก

ผักกระเฉดเด็ดให้สั้นแล้วลวก กุยช่ายหั่นเป็นท่อน-ลวก ถั่วงอก-ลวกเช่นกัน ผักทั้งสามชนิดเป็นส่วนหนึ่งของไส้เมี่ยง

นอกจากผัก ไส้เมี่ยงก๋วยเตี๋ยวยังมีกุ้งแห้งซึ่งฉันล้างจนสะอาด รอนึ่งพร้อมก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวซื้อจากตลาดเป็นพับ เอามาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม กะว่าห่อแล้วได้คำใหญ่เต็มคำ ควรนึ่งให้สุกอีกครั้ง ก่อนจะเสิร์ฟ ไหนๆ นึ่งก๋วยเตี๋ยวแล้ว เอากุ้งแห้งใส่ถ้วยลงไปนึ่งเสียด้วย ไม่เปลืองไฟ

ต้องมีเนื้อสัตว์อีกอย่างเป็นไส้ จะใช้ไก่ต้มหรือปลาทูก็ได้ วันนี้ฉันเลือกปลาทู ทอดให้หอม แกะเอาแต่เนื้อใส่จานไว้

ยัง ยังไม่หมด มีถั่วลิสงคั่วด้วย ควรคั่วเอง คั่วใหม่ๆ เพื่อความอร่อย นิวล้างผักเสร็จแล้ว ฉันให้เขาคั่วถั่วต่อ ใช้ไฟอ่อน คนไปเรื่อยๆ จะคิดถึงแฟนไปพลาง หรือไถมือถือไปด้วย ก็ไม่ผิดกติกา (ตราบใดที่ถั่วไม่ไหม้) คั่วจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเอาเปลือกออก แน่นอน-เป็นหน้าที่ของนิว

“ถ้าทำขาย ผมต้องคั่วถั่วเองใช่มั้ย”

ฉันยิ้ม “ถ้าเราขี้เกียจ มันก็อร่อยน้อยลง และคนซื้อเขาก็รู้อ่ะ”

 

ฉันหยิบกระทะเทฟล่อนขึ้นมาทำไข่กรอก ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบของไส้เมี่ยง ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ใช้น้ำมันแค่พอเคลือบกระทะ เทไข่ที่ตีแล้วลงไปตอนกระทะเริ่มร้อน ไข่กรอกที่ดีไม่ควรบางหรือหนาไป ไม่ควรฟู และไม่ควรกรอบ เราจำเป็นต้องรักษาระดับความร้อน ซึ่งถ้าทำได้ ไข่กรอกก็ไม่ใช่เรื่องยาก พอไข่สุกก็เอาไข่ออกจากกระทะ ม้วนให้เป็นแท่ง แล้วตัดเป็นเส้นหนาราวครึ่งเซนติเมตร

จัดไข่กรอก ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้งนึ่ง ปลาทูทอดไว้จานหนึ่ง บรรดาผักลวกจานหนึ่ง ผักกาดหอมกับก๋วยเตี๋ยวไว้จานหนึ่ง โดยมีน้ำจิ้มถ้วยใหญ่ตั้งกลางโต๊ะ

“รอพี่เอกคนเดียวเลย” นิวว่า

รอทำไมเล่า เราเป็นแม่ครัวกับพ่อครัว ต้องกินก่อนอยู่แล้ว ฉันหยิบก๋วยเตี๋ยวหนึ่งแผ่น รองด้วยผักกาดหอมนิดหน่อย ใส่ไส้ครบทุกอย่าง หยอดน้ำจิ้ม พับเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่งให้นิว “ช่วยไม่ได้นะนิว ยังไงก็ต้องใช้มือ ลองชิมดู คำต่อไปค่อยห่อเอง”

คำแรกของนิวหมดอย่างรวดเร็ว คำที่สองตามมาทันที ฉันสังเกตว่านิวชอบไข่กรอกกับกุ้งแห้งเป็นพิเศษ และนี่คือเสน่ห์ของเมี่ยง แต่ละคำของแต่ละคน เราจะใส่อะไรมากน้อยแค่ไหนก็ได้ หรือจะไม่ใส่บางอย่างก็ได้

พี่เอกมาพร้อมกับเครื่องดื่ม ตอนนั้นล่ะ ที่วงเมี่ยงแห่งความสามัคคีเริ่มต้น ทุกคนชอบเมี่ยง กินกันแบบไม่เหลือ แถมนัดกินครั้งต่อไป

ใช่เลย พวกเขาคือเพื่อนของเรา