จริงตนาการ : บอลโลกหนที่ 7 ของ “ฟอร์มิก้า” แชมป์เวิลด์คัพที่ยังไม่มาของ “บราซิล”

ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกวนกลับมาถึงรอบที่จะต้องหาแชมป์ครั้งใหม่กันอีกแล้ว

ครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม หลายชาติทยอยประกาศรายชื่อนักเตะ 23 คนสุดท้ายออกมาแล้ว อาจจะไม่น่าตื่นเต้นเท่าทีมชาย

แต่ก็มีหลายคนที่น่าจับตามอง

หนึ่งในนั้นคือ ทีมชาติบราซิลที่เรียกนักเตะวัยเก๋าติดทีมไปถ้วนหน้า

“ฟอร์มิก้า” ในวัย 41 ปี ถูกวาเดา กุนซือแซมบ้าทีมหญิงเรียกติดธงไปฟุตบอลโลกอีกครั้ง

และนับเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกฝ่ายหญิง ที่สำคัญในฟุตบอลทั้งชายและหญิง ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนที่จะได้ร่วมฟาดแข้งในฟุตบอลโลกได้มากเท่าเธออีกแล้ว

เพราะฟอร์มิก้าลงแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว

 

นักเตะที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุด 5 สมัย มี “โลธ่าร์ มัตเธอุส” ทีมชาติเยอรมนี, “ราฟาเอล มาร์เกซ” กองหลังเม็กซิโก และ “อันโตนิโอ คาร์บาฮาล” ผู้รักษาประตูเม็กซิกัน ส่วนผู้หญิงที่ไปฟุตบอลโลกมา 6 ครั้ง มีฟอร์มิก้าและ “โฮมาเระ ซาวะ” อดีตกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น แชมป์โลกปี 2011 แต่ซาวะได้แขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้จะอยู่ในวัย 40 บวกแล้ว แต่ฟอร์มิก้ายังคงเล่นฟุตบอลอาชีพระดับสูงอยู่กับปารีส แซงต์แชร์แมง ยอดทีมในฝรั่งเศส เริ่มต้นอาชีพนักเตะกับเซาเปาโลในบ้านเกิด พเนจรไปในหลายทวีป มัลโม่ในสวีเดน, นิวเจอร์ซีย์ ไวลด์แคตส์, ชิคาโก เรดสตาร์ส ที่สหรัฐอเมริกา วนไปวนมาในบ้านเกิดกับซาด, โบตูคาตู, เซาโชเซ่ กว่าจะมาเล่นในยุโรปกับเปแอสเชก็ปาเข้าไป 39 ปีแล้ว

ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 7 ครั้งที่ผ่านมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บราซิลชาติที่คลั่งไคล้ฟุตบอลที่สุดชาติหนึ่งของโลก ยังไม่เคยสัมผัสกับแชมป์ ต่างจากฝ่ายชายที่ได้มาแล้วถึง 5 ครั้ง

ทีมหญิงของบราซิลทำได้ดีที่สุดคือรองแชมป์เมื่อปี 2007 แพ้เยอรมนีในรอบชิงชนะเลิศ

 

“วาเดา” เรียกนักเตะประสบการณ์สูงติดทีมไปถ้วนหน้า นอกจากฟอร์มิก้าแล้ว “มาร์ต้า” นักเตะหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลบราซิล เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของโลก 6 สมัย คว้าแชมป์กับสโมสรต่างๆ มาไม่น้อย เป็นแชมป์แพนอเมริกา 3 สมัย แต่ยังไม่เคยได้แชมป์โลกและเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์

นอกจากนั้นยังมี “บาร์บาร่า” ผู้รักษาประตูวัย 30 “คริสเตียเน่” กองหน้าวัย 33 ที่เป็นแกนหลักให้ทีม ยังคงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

บาร์บาร่าบอกว่า รู้ดีว่าครั้งนี้อาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของใครหลายคน โดยเฉพาะมาร์ต้า, คริสเตียเน่, ฟอร์มิก้า หลังจากนี้ก็จะมีโอลิมปิกเกมส์ แล้วก็จะหมดวงรอบของมัน มาร์ต้าบอกทุกคนว่าจะทุ่มเทอย่างที่สุดเพื่อบราซิล เพราะเธอยังคงมีความแข็งแกร่งในสนามอยู่ อยากให้ทุกคนช่วยกันเพื่อมาร์ต้าด้วย

บราซิลอาจจะยังเป็นหนึ่งในทีมที่น่ากลัวเพราะความบ้าบอล แต่ถ้าย้อนผลงาน 9 นัดหลังสุด ทีมของวาเดาแพ้คู่แข่งทั้งหมด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วมาจนถึงตอนนี้ แต่มันก็เป็นแค่แมตช์อุ่นเครื่องหรือรายการพิเศษเท่านั้น

ส่วนรอบคัดเลือกของฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อเมริกาใต้ “โกปา อเมริกา” ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญและเป็นรายการคัดเลือกทีมไปแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 เมื่อปีที่แล้วนั้น บราซิลชนะรวด 7 นัด คว้าแชมป์มาครอง เสียไปเพียง 2 ประตู ยิงรวมไปถึง 31 ประตู

บราซิลอยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับอิตาลี, จาเมกา, ออสเตรเลีย ถือว่าไม่หนักสำหรับสาวแซมบ้า แต่ก็ยังน่าห่วงว่า การแพ้รวม 9 นัดก่อนหน้านี้ จนอันดับโลกร่วงลงมาอยู่ที่ 10 ของโลก เป็นอันดับที่แย่ที่สุดของบราซิลตั้งแต่มีการจัดอันดับโลก จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ทันเวลาจนกลับมาฟอร์มดีเหมือนในโกปา อเมริกาได้หรือไม่

ไม่ใช่แค่การสู้กับตัวเองเท่านั้นที่จะทำให้บรรดาแข้งแซมบ้าสมหวังในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะสหรัฐอเมริกา แชมป์เก่าหนที่แล้ว และญี่ปุ่น แชมป์ปี 2011 ก็ยังคงมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง

ไม่นับรวม “เจ้าภาพ” ฝรั่งเศส ที่มีนักเตะดีๆ และได้เล่นในบ้าน นอร์เวย์, เยอรมนี อดีตแชมป์โลก อังกฤษ อันดับ 3 เมื่อครั้งที่แล้วก็ยังมากันพร้อมหน้า

การเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกไม่ใช่แค่มีนักเตะเก่งอยู่ล้นทีม

แต่ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ต้องมาพร้อมกัน บราซิลทีมชายห่างหายจากแชมป์โลกมาเกือบ 20 ปีแล้ว ทั้งๆ ที่มีนักเตะพรสวรรค์สูงล้นทีม

 

ฟอร์มิก้าจะผิดหวังในฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกันหรือไม่ ก็คงไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องกังวล

เพราะการได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลรายการใหญ่ของโลกระดับนี้มากกว่าคนอื่นก็ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดแล้ว

ที่เหลือก็แค่ทุ่มเททุกอย่างที่มี เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเพื่อนร่วมทีม แบบที่มาร์ต้าทำมาตลอด

ก็ถือว่าการทำหน้าที่สมบูรณ์แบบแล้ว