ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 พฤษภาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร
ฝ่ามือกำสรด วิญญาณสลาย (192)
สถานการณ์ที่เอี้ยก่วยประมือกับลามะกิมลุ้นฮวบอ้วงโดยมีชีวิตของก๊วยเซียงเดิมพันครั้งนี้เป็นสถานการณ์อันรุนแรงและร้ายกาจ
แม้จะมี “ตัวช่วย” เป็นจำนวนมาก
นั่นก็คือ เซียวเล้งนึ่งกับพี่อินทรีเฝ้ารักษาที่ชั้นล่างผนึกกำลังกับจิวแป๊ะทง คอยขับไล่มือเกาทัณฑ์ฝ่ายมองโกล มิให้ยิงเข้าใส่ก๊วยเซียง
แต่จุดอ่อนอย่างสำคัญก็คือ จิตใจของเซียวเล้งนึ่งเอง
จิตหนึ่งใจเดียวของเซียวเล้งนึ่งล้วนจดจ่ออยู่ที่เอี้ยก่วย ขณะที่สะบัดกระบี่สังหารศัตรูมักช้อนตามองไปยังหอสูง พลันเห็นเอี้ยก่วยหลั่งโลหิตโซมกายหัวใจถึงกับสะท้านหวั่นไหว ขวัญวิญญาณแทบหลุดลอดออกจากร่าง
ยามนี้บันไดไม้ถูกเผาทำลาย ไม่สามารถบุกขึ้นหอไปช่วย
ในใจเซียวเล้งนึ่งเวิ้งว้าง เลื่อนลอย เพียงแต่สะบัดกระบี่ฆ่าฟัน ไม่ทราบว่าตัวเองอยู่แห่งหนใด ยามนี้กำลังทำอะไร
ยิ่งเอี้ยก่วยยิ่งอยู่ในสภาพร่อแร่ คับขัน
มีอยู่หลายครั้งมันคิดใช้ฝ่ามือ “กำสรดวิญญาณสลาย” ขยี้ทำลายศัตรู แต่เพลงฝ่ามือชุดนี้ต้องสัมพันธ์กับจิตใจ
นับแต่พบกับเซียวเล้งนึ่ง ในใจก็ปีติยินดี เปี่ยมด้วยความสุข
ไหนเลยจะมีความรู้สึกของ “กำสรดวิญญาณสลาย” ได้อีก มาตรแม้นอยู่ในห้วงอันตรายยังปราศจากความคับแค้นขมขื่น
ดังนั้น ตอนใช้ออกมักคลาดเคลื่อน มีอานุภาพจำกัด
สภาพที่เอี้ยก่วยบุกหอสูงต่อสู้ด้วยมือเปล่า หัวไหล่ข้อเท้ารับบาดเจ็บ ก๊วยเจ๋งและพวกล้วนแลเห็นเพียงแต่อยู่ห่างไกล
ไหนเลยติดปีกโบยบินขึ้นมาช่วยเหลือได้
อึ้งย้งพลันฉุกใจคิดชิงกระบี่จากมือเยลุกชี้โยนให้แก่ก๊วยเจ๋ง ร้องขึ้นว่า “ซัดขึ้นไปให้แก่ก่วยยี้”
ก๊วยเจ๋งรับกระบี่ นำเกาทัณฑ์ 2 คันมาประกบพาดด้ามกระบี่กับสายเกาทัณฑ์ มือซ้ายน้าวจนสุดล้า จากนั้นปล่อยออก
เสียงขวับดังเร่งร้อน กระบี่ยาวสะท้อนประกายขาวแหวกฝ่าอากาศไป
กระบี่เล่มนั้นพุ่งดังหวืดหวือ เอี้ยก่วยโบกแขนเสื้อข้างขวาม้วนกลับหลังห่อหุ้มตัวกระบี่ ประจวบกับกิมลุ้นฮวบอ้วงหวดจักรดีบุกมา เอี้ยก่วยใช้มือซ้ายรับกระบี่แทงผ่านหว่างกลางของจักรทั้งคู่ เพียงแต่ไหล่ซ้ายของมันบาดเจ็บเรี่ยวแรงอ่อนโทรมลง
กิมลุ้นฮวบอ้วงบิดจักรทั้งคู่ กระบี่หักสะบั้น
เอี้ยก่วยทราบว่าวันนี้ไม่มีทางรอด มิเพียงช่วยเหลือก๊วยเซียงไม่สำเร็จ แม้แต่ตัวมันเองก็ต้องทิ้งชีวิตอยู่บนหอ ดังนั้น กวาดมองเซียวเล้งนึ่งอย่างหดหู่แวบหนึ่ง ร้องขึ้นว่า
“เล้งยี้ ลาแล้ว ท่านเองถนอมตัว”
ยามนั้นจักรเหล็กของกิมลุ้นฮวบอ้วงกระแทกเข้าใส่ศีรษะเอี้ยก่วยเต็มแรง มันบังเกิดความท้อแท้ทอดอาลัย โบกแขนเสื้อม้วนออกฟาดใส่ 1 ฝ่ามือโดยไม่ลังเล
เสียงทึบเมื่อฝ่ามือนี้ฟาดถูกหัวไหล่กิมลุ้นฮวบอ้วง
เป็นอาการโต้กลับขณะที่เอี้ยก่วยงงงันอยู่วูบแล้วค่อยได้คิด ที่แท้มันสำนึกว่าต้องตาย ยามท้อแท้สิ้นหวัง สะบัดฟาดฝ่ามือออก พอดีใช้ด้วยกระบวนท่าเพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนาม “ยืดเย้อชวนรำคาญ” (ทัวนี้ตั่วจุ้ย)
กิมลุ้นฮวบอ้วงความจริงอยู่ในขั้นรุกและกำชัยอย่างต่อเนื่อง พลันถูกฝ่ามือฟาดใส่หัวไหล่ต้องส่ายร่างโงนเงน
ในใจทั้งแตกตื่นทั้งเดือดดาล
อันเพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนาม ยืดเยื้อชวนรำคาญนี้ เป็นกระบวนท่าใช้จิตบังคับแขน แขนบังคับฝ่ามือ
ล้วนขึ้นอยู่กับจิตสำนึก
เพียงมองเห็นจิวแป๊ะทงก็มองออก เนื่องจากวันที่อยู่ในหุบเขาหมื่นบุปผาไม่มีอารมณ์ความรู้สึกสิ้นหวังมาตรว่าพลังฝีมือสูงล้ำยังไม่รู้ซึ้งถึงเคล็ดความสำคัญ เอี้ยก่วยเมื่อพบพานเซียวเล้งนึ่งเพลงฝ่ามือชุดนี้ก็เสื่อมประสิทธิผล
จวบกระทั่งตกอยู่ในห้วงความเป็นความตาย ตระหนักว่ากำลังจะพรากจากเซียวเล้งนึ่งตลอดกาล ยามปวดร้าวรันทดค่อยเปล่งอานุภาพออกมา
นี่ย่อมเป็นจุดตัดอันส่งผลแพ้-ชนะในกระบวนการสัประยุทธ์