อุรุดา โควินท์ / อาหารไม่เคยโดดเดี่ยว : ใดๆ ในโลกยอมแพ้น้ำพริก

อากาศร้อนจัดจ้านขนาดนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน แม่กับพ่อคงนัดเพื่อน พาลูกไปเที่ยวน้ำตก เชียงรายสามสิบกว่าปีก่อนไม่มีห้าง บ้านเราไม่ติดแอร์ กับความร้อน เราอยู่ได้ เปิดพัดลมนอน หลังสามทุ่มก็เริ่มสบาย ฉันยังสงสัย-อากาศร้อนขึ้น หรือตัวฉันเองทนร้อนได้น้อยลง ในฤดูร้อนฉันจึงขาดแอร์ไม่ได้เลย

น้ำก็ขาดไม่ได้เช่นกัน

ทุกปี ก่อนสงกรานต์ ฝนจะตกหนักหลายวัน แต่ปีนี้ รอกระทั่งต้นพฤษภาคม ฝนอย่างที่ต้องการก็ยังไม่มา ฉันรอฝน รอจนหงุดหงิด จะอะไรนักหนากับฝน เราคงสั่งดินฟ้าไม่ได้ ที่ทำได้คือมีเงินจ่ายค่าแอร์ และพาตัวเองไปหาน้ำ

อยากรู้-น้ำตกจะมีน้ำมากแค่ไหน ขณะที่น้ำบ่อบ้านเราแทบไม่เหลือให้ใช้

ตอนเป็นเด็ก เราไปกันทีสองคันรถปิกอัพ เสียงเด็กคุยกันลั่นตั้งแต่ขึ้นรถ หนึ่งในสามของท้ายรถ คืออาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่แม่ของแต่ละบ้านจัดเตรียมมา

พอไปถึงน้ำตก เด็กๆ กระโดดน้ำตูม บนฝั่ง บรรดาแม่ช่วยกันจัดสำรับ ซึ่งมากมายละลานตา ชนิดไม่รู้จะลงจานไหนก่อน ส่วนบรรดาพ่อก็หาที่ปูเสื่อ ยกกระติกน้ำแข็งลงมา เริ่มชงเครื่องดื่ม และถามหากับแกล้ม

มีอาหารให้กินอย่างไม่หมด เหมือนปาร์ตี้ที่ไม่มีวันเลิก อยากกินเท่าไรก็ได้กิน อยากกินตอนไหนก็ย่อมได้ เล่นน้ำเหนื่อย ขึ้นมากินทั้งตัวเปียกๆ ลงไปเล่นน้ำต่อ ขึ้นมากินขนม แล้วต่อด้วยข้าวอีกมื้อ กินยังไงก็ไม่อิ่ม เล่นน้ำเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ

ล้อมวงกินข้าวบนพื้น คลอเสียงน้ำตก เราต่างกินมากเป็นพิเศษ ข้าวเหนียวหนึ่งกระติกหมดแบบไม่รู้ตัว แต่ไม่ต้องห่วง กระติกต่อไปรออยู่

บางแม่ถึงกับเอาเขียงมาทำลาบริมน้ำตก บางแม่ตำส้มตำ บางแม่มีเตาถ่านมาย่างหมู และบางแม่ก็เอาปลามาย่างกับหมู จึงมีอีกบางแม่คิดทำน้ำพริกปลาย่างขึ้น

มีครก มีเตา มีปลาย่าง หอมกระเทียมฉกเอาแถวนั้น ผักขโมยจากจานลาบ ลวกบ้าง กินดิบบ้าง ได้น้ำพริกปลาย่างหนึ่งถ้วยกินกับผัก โดยไม่ได้วางแผน

 

“เราจะทำน้ำพริกปลาย่าง” ฉันบอกเพื่อนทางโทรศัพท์ เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป ความหลังครั้งยังเป็นเด็กประถมกินข้าวข้างน้ำตกก็พรั่งพรู

ฉันจำได้มากอย่างนี้เชียวหรือ จำได้กระทั่งว่า เมื่อมีน้ำพริกปลา ฉันไม่แตะอาหารชนิดอื่นเลย ปั้นข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกอย่างเดียว

เพื่อนว่า ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินน้ำพริกปลาย่างนานแล้ว ลูกๆ ของเธอก็ไม่เคยกิน แต่นั่นล่ะ ไม่รู้จะกินหรือเปล่า และเธอเองยังไม่แน่ใจ ว่าลูกจะไปน้ำตกกับเรามั้ย

“เด็กๆ มันชอบแอร์” เพื่อนบอก

ข้อนี้ฉันไม่เถียง เพราะฉันก็ชอบ แต่ความเย็นของน้ำตกเป็นสิ่งที่แอร์ให้ไม่ได้ “บอกลูกสิ แช่น้ำก็เย็น” ฉันพูด แล้วนึกขึ้นได้ หมู่บ้านของเธอมีสระว่ายน้ำ ทำไมเด็กๆ ต้องไปน้ำตกกับเราด้วยล่ะ

ไปประสาเราก็แล้วกัน ไม่ถึงกับต้องเอาเตาขึ้นรถไปย่างปลาที่นั่นหรอก แค่ห่อข้าวไปกิน แช่เครื่องดื่มเย็นๆ ในกระติกน้ำแข็งก็พอ

น้ำพริกปลาเป็นพี่น้องกับน้ำพริกหนุ่ม แต่มีรสชาติกว่า มีเนื้อมีหนังกว่า เผ็ดน้อยกว่า กินก็เพลิดเพลินกว่า ดังนั้น ฉันต้องทำให้เยอะเข้าไว้ เพราะเพื่อนและสามีเพื่อนจัดเป็นคนชอบน้ำพริก

จำเป็นมากที่เราต้องย่าง ทั้งปลา พริก หัวหอม และกระเทียมให้สุก ใช้ปลาอะไรก็ได้ แต่ฉันชอบปลาน้ำจืด อย่างปลาดุกหรือปลาช่อน ย่างให้สุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อรอไว้

หอมกับกระเทียม ฉันหมกใต้เตา พอย่างปลาเสร็จ ต่อด้วยย่างพริก หอมกับกระเทียมก็สุกพอดี ใช้พริกหนุ่ม โดยแอบใส่พริกขี้หนูเพื่อความจี๊ด

ทิ้งทุกอย่างให้เย็น แล้วลอกเปลือกออก ฮืม…แค่ได้กลิ่นพริกย่าง หอมย่าง กระเทียมย่าง น้ำย่อยก็ทำงานแล้ว

 

ตํากระเทียมกับหัวหอมก่อน ใส่ในปริมาณพอๆ กัน ปรุงด้วยเกลือทะเลนิดหน่อย พอละเอียดดีค่อยใส่พริก เนื้อปลาย่างลงครกเป็นอย่างสุดท้าย โดยระวังอย่าให้เยอะไป

ตำต่อให้เนียน แล้วค่อยชิม ถ้ายังไม่เค็ม ฉันจะเติมเกลือ ใครชอบผงชูรสก็ใส่ได้ แต่ฉันไม่มีติดบ้านเลย ทั้งแน่ใจว่าหอมแดงกับกระเทียม เป็นเครื่องชูรสที่เพียงพอแล้ว

ไม่น้ำตาล ไม่น้ำปลา เกลือเท่านั้น ได้รสที่ชอบ ฉันตักน้ำพริกห่อตอง แบ่งเป็นสองห่อ

รื้อผักในตู้เย็นออกมานึ่ง พบว่ามีแต่ผักสีเขียว นึ่งให้สุก แล้วห่อตองเหมือนกัน แวะซื้อข้าวเหนียวหนึ่งกิโล แคบหมูครึ่งกิโล หมูยอสองห่อใหญ่ แล้วฉันก็ไปรับเพื่อนกับสามีของเธอ

ดูเป็นการเที่ยวแบบย้อนยุคยังไงก็ไม่รู้ แต่เราอยากไปจริงๆ แล้วน้ำตกน่ะ แสนจะเย็นสบาย ในวงเล็บว่า เราต้องทนเดินร้อนๆ มาให้ถึงเสียก่อน

หาที่ปูเสื่อได้ เราแกะอาหาร ไม่ได้กระโดดน้ำตูมเหมือนแต่ก่อน และฉันยังไม่แน่ใจ ว่าเราจะลงน้ำหรือเปล่า เอาเข้าจริง เราแค่อยากได้ยินเสียงน้ำตก มารับไอเย็นจากละอองน้ำ ได้ออกจากห้องแอร์บ้าง และสำคัญที่สุด คือได้กินข้าวใกล้น้ำตก

เพื่อนทำลาบอีสานมาจากบ้าน เป็นกับแกล้มชั้นดี มีหมูย่าง ซึ่งกินกับน้ำพริกปลาย่างก็อร่อย ที่เราเอามาตรงกันคือมะม่วงน้ำปลาหวาน ของโปรดเราทั้งคู่

“ไม่เป็นไร น้ำปลาหวานเราใช้น้ำตาล ของเธอใช้น้ำอ้อย ต่างกันนิดหน่อย” เธอว่า ตอนที่เราแกะมะม่วงน้ำปลาหวานมาจ๊ะเอ๋กัน

ครั้นฉันแกะน้ำพริกปลาย่าง เธอก็ทำตาโต “โห น่ากิน เอาข้าวมาเลย อย่างอื่นเอาไว้ทีหลัง” เธอหันไม่บอกสามี

แกะแคบหมูวางบนใบตอง แกะหมูย่าง แล้วฉันก็ส่งข้าวเหนียวในใบตองตึงให้เธอ

“อะไรจะสู้น้ำพริกปลาย่างอีกล่ะ ไม่มีแล้ว” เธอรับข้าวไปจากฉัน

ฉันเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่น้ำพริกปลาจะอร่อยได้อีก ถ้ามีแคบหมูดีๆ มีผักนึ่ง และมีน้ำตก บังเอิญวันนี้เรามีทุกองค์ประกอบครบครัน กินให้อิ่ม แล้วนอนกลางวันสักตื่นเถอะ