พิศณุ นิลกลัด รอนด้า เร้าซี่ หวนคืนสังเวียนครั้งแรกในรอบ 13 เดือน

พิศณุ นิลกลัด

รอนด้า เร้าซี่ นักสู้ศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสาน หรือ Mix Martial Arts ที่โด่งดังที่สุดในโลก จะหวนคืนสังเวียนอีกครั้งคืนวันศุกร์ 30 ธันวาคม ที่ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา ตรงกับเช้าวันเสาร์ของประเทศไทย เพื่อชิงแชมป์รุ่นแบนตั้มเวต ของ UFC จาก อแมนด้า นูเนส (Amanda Nunes) เจ้าของตำแหน่งชาวบราซิล

รอนด้าสาวอเมริกันวัย 29 ปี บอกว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งท้ายๆ ก่อนที่เธอจะอำลาสังเวียน

แต่เธอก็ไม่ได้ระบุว่า จะสู้ต่ออีกกี่อีกครั้งก่อนจะเลิกอาชีพนี้

แฟน Mix Martial Arts ทั่วโลกเฝ้ารอที่จะเห็นรอนด้าขึ้นสังเวียนต่อสู้อีกครั้งหลังจากหายไปนานถึง 1 ปี 1 เดือนนับตั้งแต่แพ้ครั้งแรกในชีวิตการต่อสู้ Mix Martial Arts จากการถูก ฮอลลี่ ฮอล์ม (Holly Holm) เตะก้านคอสลบ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว เสียแชมป์รุ่นแบนตั้มเวต

ตอนที่รอนด้าแพ้ มีทั้งฝ่ายสงสารที่เห็นเธอแพ้น็อกแบบหมดสภาพ

และฝ่ายที่หมั่นไส้ มีอารมณ์สะใจที่เห็นเธอแพ้ เพราะบ่อยครั้งเธอทำตัวและพูดจาหยิ่ง จองหอง ว่าตัวเธอนั้นเก่งที่สุด ไม่มีนักสู้คนไหนเอาชนะเธอได้

รอนด้าเก็บตัวเงียบๆ พักร่างกายและจิตใจหลังจากพ่ายแพ้หมดรูปอยู่หลายเดือน

เธอบอกว่า หลังจากแพ้ใหม่ๆ เธอซึมเศร้ามาก คิดฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกตัวเองไร้ค่า ไม่มีใครให้ความสนใจอีกแล้ว

แต่เธอก็ผ่านพ้นช่วงเวลาร้ายๆ นั้นมาได้

 

รอนด้าเริ่มกลับมาฝึกซ้อมเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งก็ถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่างว่าอวบใหญ่กว่าตอนชกพอสมควร

รอนด้า เป็นนักสู้ในรุ่นแบนตั้มเวตน้ำหนักตัวไม่เกิน 61 กิโลกรัม สูง 170 เซนติเมตร เวลาที่ไม่ขึ้นสังเวียนชกจะปล่อยน้ำหนักตัวขึ้นไปที่ 68 กิโลกรัม ที่เธอเห็นว่าเหมาะกับตัวเธอ สามารถทานอาหารและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

ตอนที่รอนด้าเป็นนางแบบถ่ายชุดว่ายน้ำให้กับนิตยสาร สปอร์ต อิลลัสเทรเท็ด ฉบับชุดว่ายน้ำทั้งเล่มประจำปี 2016 (Sport Illustrated Swimsuit Edition) เธอปล่อยน้ำหนักขึ้นกว่าตอนชก MMA เพื่อรูปร่างจะได้มีส่วนเว้าส่วนโค้งแบบผู้หญิง ไม่ใช่กล้ามใหญ่ตัวบึกเหมือนผู้ชาย

ซึ่งรอนด้าบอกว่าเวลาที่เธอมีเนื้อมีหนังมีไขมันบ้างเป็นรูปร่างที่เธอเห็นว่าตัวเธอดูดึงดูดที่สุด

 

สมัยที่รอนด้าเป็นนักยูโดทีมชาติสหรัฐอเมริกา เธอลงแข่งขันโอลิมปิกปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ในรุ่นน้ำหนัก 70 กิโลกรัม เธอได้เหรียญทองแดงโอลิมปิก ซึ่งรอนด้าเปิดเผยว่า ตอนที่เก็บตัวเพื่อแข่งขันโอลิมปิกนั้น เธอเป็นโรครับประทานอาหารผิดปกติ หรือ Eating Disorder เพราะต้องควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินพิกัด 70 กิโลกรัม ต้องทานอาหารแล้วอาเจียนออก หรืออดอาหาร เพราะเวลาที่เธออิ่มจะรู้สึกผิด

รอนด้าเล่าว่าสมัยนั้น ไม่มีคนแนะนำเรื่องโภชนาการ มีแต่โดนตะคอกหากไม่สามารถทำน้ำหนักให้อยู่ในพิกัด

ในปัจจุบัน รอนด้ามีนักโภชนาการให้คำแนะนำเรื่องการทานอาหารทั้งเวลาพักและเวลาฟิตซ้อมเตรียมตัวแข่งขัน ซึ่งรอนด้าบอกการทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ของเธอนั้นไม่ยากต่อการทำตาม

เธอเน้นทานโปรตีนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

ที่น่าสนใจก็คือเวลาเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อม รอนด้าไม่ได้ยกน้ำหนักเล่นเวต เพราะโดยส่วนตัวเธอไม่ชอบการยกน้ำหนัก นอกจากนั้น เธอเห็นว่าการฝึกซ้อมชกมวย, มวยปล้ำและจิวจิตซุ (Jiu Jitsu) ก็สร้างกล้ามไปในตัวอยู่แล้ว

ดังนั้น กล้ามบนร่างกายของเธอไม่ได้มาจากการเล่นเวตยกน้ำหนัก แต่มาจากการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่างๆ ซึ่งรอนด้าบอกการยกน้ำหนัก ไม่ได้ช่วยในการฝึกคิดแก้เหลี่ยมมวยคู่มวยต่อสู้เวลาขึ้นสังเวียนจริง

 

นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม รอนด้าฝึกซ้อมวันละสองรอบ เปลี่ยนการซ้อมไปเรื่อย เพื่อจะได้ไม่เบื่อ และอยากที่จะซ้อมนานๆ ไม่รู้สึกจำเจ ซ้ำซาก

รอนด้าซ้อมสัปดาห์ละ 6 วัน แต่ที่ต้องทำทุกวันคือ ซิตอัพวันละ 2,000 ครั้ง เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับหน้าท้อง

รอนด้าพูดถึงเรื่องการควบคุมอาการ ออกกำลัง เพื่อให้ได้รูปร่างที่ต้องการว่าสมัยก่อนเธอคิดว่า หากจะลดน้ำหนักเท่านั้นเท่านี้ มีรูปร่างอย่างที่เธอตั้งเป้าไว้จะทำให้เธอมีความสุข

แต่พอมีรูปร่างดีอย่างที่เธอฝัน กลับไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขขึ้น

ต่อมาเธอจึงได้คิดว่า ต้องทำให้ตัวเองมีความสุขก่อน รูปร่างที่ดีถึงจะตามมา

สำหรับผู้หญิงที่อยากมีรูปร่างดี แต่ไม่สามารถฝึกซ้อมหนักออกกำลังกายได้อย่างรอนด้า

รอนด้าแนะนำว่า ดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะดื่มได้ตลอดทั้งวัน

หาการออกกำลังที่ตัวเองชอบ ทำแล้วรู้สึกสนุก ตื่นเต้น ไม่ใช่ทำแล้วรู้สึกเหมือนเป็นงาน

เรื่องโภชนาการ หาอาหารที่เป็นประโยชน์ที่ตัวเองชอบ แต่ก่อนนั้นรอนด้าชอบทานไอศกรีม Ben and Jerry”s มาก

แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกว่ามันเข้มข้นเกินไป ทานไม่ได้เหมือนก่อน ส่วนขนมปังเธอแทบจะไม่แตะ

ผลิตภัณฑ์จากนม เธอทานเฉพาะโยเกิร์ตกรีก และชีสนมแพะ แอลกอฮอล์แทบจะไม่ดื่มเลย หากดื่มก็เลือกไวน์ที่ทำจากองุ่น ปีโน่ต์ นัวร์ (Pinot Noir)

เช้าวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคมนี้ ตามเวลาเมืองไทย ติดตามว่า รอนด้า เร้าซี่ จะทวงเข็มขัดแชมป์ UFC คืนสำเร็จหรือไม่