คุยกับทูต วาลเดอมาร์ ดูบันยอฟสกี้ 15 ปีแห่งความสำเร็จ ของโปแลนด์ในสหภาพยุโรป

“ปีค.ศ. 2004 สำหรับโปแลนด์และยุโรปนับว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.2004 สาธารณรัฐโปแลนด์พร้อมด้วยสาธารณรัฐเช็ก สโลวะเกีย ฮังการี ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย สโลวีเนีย ไซปรัส และมอลตา ได้เข้าเป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) อีกทั้งเป็นครั้งแรกของโปแลนด์ที่ได้รับการลงคะแนนเสียงให้มีผู้แทนในรัฐสภายุโรปหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งนับเป็นการขยายสมาชิกภาพครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรปที่ประกอบด้วยประเทศสมาชิกรวม 25 ประเทศ”

นายวาลเดอมาร์ ดูบันยอฟสกี้ (His Excellency Mr. Waldemar Dubaniowski) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวถึงสหภาพยุโรป ในโอกาสครบรอบ 15 ปีที่โปแลนด์เข้าเป็นสมาชิก

โดยเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองในวันที่ 23 พฤษภาคม อันใกล้จะถึงนี้

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปได้วางเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อรับประเทศต่างๆ เข้าร่วมในสหภาพ 3 เกณฑ์คือ

เกณฑ์ด้านการเมือง ประเทศที่จะเข้าร่วมในสหภาพยุโรปต้องมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีการเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและชนกลุ่มน้อย รวมทั้งยังต้องมีระบบศาลที่มีความสามารถและเป็นอิสระ

เกณฑ์ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ มีระบบการค้าอย่างเสรี และมีการแข่งขันอย่างเสรี และ

เกณฑ์ด้านสถาบัน ได้แก่ การที่ประเทศจะต้องนำข้อผูกพันหรือกฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรปไปปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายภายในประเทศ ซึ่งก็หมายความถึงการที่ต้องแก้ไขกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของสหภาพยุโรป และประเทศในยุโรปตะวันออกทั้ง 10 ประเทศดังกล่าวข้างต้นก็ได้ผ่านเกณฑ์เหล่านี้

“ขั้นตอนแรกในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1991 โปแลนด์ได้ลงนามในข้อตกลงยุโรประหว่างโปแลนด์และสหภาพยุโรป ช่วงเวลาอันเป็นสัญลักษณ์คือวันที่ 8 เมษายน ค.ศ.1994 ซึ่งรัฐบาลโปแลนด์ได้ยื่นใบสมัครขอเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ ณ กรุงเอเธนส์ และมีการออกเสียงประชามติในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2003 ผลปรากฏว่าชาวโปแลนด์ลงคะแนนสนับสนุนให้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปถึง 77.45 เปอร์เซ็นต์”

“โปแลนด์เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในแง่ของอาณาเขตที่ได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 และมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับหกในสหภาพยุโรปตามมูลค่า GDP ทั้งยังเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด”

โปแลนด์นับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในทางการเมืองและเศรษฐกิจภายหลังจากที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต จึงทำให้โปแลนด์เป็นจุดดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก โดยใช้เป็นฐานการผลิตและกระจายไปทั่วสหภาพยุโรป

“การเตรียมเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปทำให้โปแลนด์ต้องนำแบบอย่างทางเศรษฐกิจที่ดีมาใช้ มีการกำจัดความล่าช้าในหน่วยงาน และดำเนินการปฏิรูปภายในที่สำคัญ โปแลนด์สมัยใหม่จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย สถาบัน สังคม และเศรษฐกิจ การที่โปแลนด์ได้เข้าร่วมเป็นตลาดเดียว (Single Market) คือหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของสหภาพยุโรป”

“เพราะตลาดเดียวทำให้มีการเคลื่อนที่ของสินค้า บริการ เงินทุน และคนได้อย่างเสรี ทั้งยังช่วยให้ระบบเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และการศึกษาของโปแลนด์ได้มีความก้าวหน้าทันสมัย”

ท่านทูตดูบันยอฟสกี้ชี้แจงถึงข้อดีของการเป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป

“การเป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปของโปแลนด์ได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะของประเทศและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมอย่างมากมาย มีการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง โดยโปแลนด์เป็นประเทศผู้รับผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของกองทุนยุโรป และนำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทุนมนุษย์ (human capital) รวมทั้งการพัฒนาในระดับภูมิภาคและนวัตกรรม”

“ตั้งแต่วันแรกของการเป็นสมาชิก โปแลนด์ได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการริเริ่มเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยสารอันตราย โดยเฉพาะในยุโรปกลางโปแลนด์เป็นผู้นำในการจัดการป่าอย่างยั่งยืนหลายรูปแบบ และมากกว่า 15 ปีที่โปแลนด์ประสบความสำเร็จโดยจัดการประชุมสุดยอดสามภูมิอากาศ ได้แก่ Fourteenth session of the Conference of the Parties : COP 14 เมืองปอซนาน (Poznan) ปี ค.ศ.2008, COP19 ในกรุงวอร์ซอ (Warsaw) ปี ค.ศ.2013 และ COP24 ในเมืองคาโตไวซ์ (Katowice) ปี ค.ศ.2018 อันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งในการเจรจาตกลงเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของโปแลนด์”

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา โปแลนด์ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติในหลายโอกาส อาทิ งานเยาวชนโลก (World Youth Day) ที่เมืองคราโคว (Krakow) ระหว่างวันที่ 16-31 กรกฎาคม ปี ค.ศ.2016 ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้เสด็จร่วมงานด้วย และงาน World Games ที่เมืองรอตสวัฟ (Wroclaw) ระหว่างวันที่ 20-30 กรกฎาคม ค.ศ.2017

“ประชาชนโปแลนด์ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการเข้าเป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป และสหภาพยุโรปสำหรับชาวโปแลนด์นั้น หมายถึงความมีอิสรเสรีในการเดินทาง การท่องเที่ยว และการทำงานในรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตพิเศษ ส่วนนักเรียนโปแลนด์ต่างมีอิสระในการศึกษา และมากกว่า 180,000 คนได้รับทุนการศึกษาจากต่างประเทศ”

“ในขณะเดียวกันโปแลนด์ก็มีความพร้อมและยินดีต้อนรับนักศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 100,000 คน และในปี ค.ศ.2017 โปแลนด์ยังได้เป็นหนึ่งในสิบประเทศในยุโรปที่ดึงดูดนักเรียนต่างชาติมากที่สุด”

“นอกจากนี้ พลเมืองสหภาพยุโรปยังมีอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการวิจัยในทุกรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปซึ่งเอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งนวัตกรรมที่สำคัญของโปแลนด์ได้แก่ อุปกรณ์และต้นแบบของระบบอวกาศที่ใช้ในภารกิจอวกาศ แว่นตา HoloLens ยานสำรวจดาวอังคาร และยานพาหนะไฟฟ้า”

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับโปแลนด์ อุตสาหกรรมยานยนต์จัดเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รองจากอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกของประเทศ

ในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ของโปแลนด์อยู่ระหว่างการดำเนินตามนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามทิศทางที่สหภาพยุโรปได้วางไว้ โดยรัฐบาลโปแลนด์ ภายใต้ Responsible Development Plan ได้กำหนดแนวทางผลักดันและส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงกำหนดเป้าหมายว่า ภายในปี ค.ศ.2025 โปแลนด์จะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งอยู่บนท้องถนนถึงจำนวน 1 ล้านคัน

เป้าหมายดังกล่าวเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับโปแลนด์และนักลงทุนต่างชาติ โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนในสาขายานยนต์พลังงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นระบบ

“การปฏิรูปที่ดำเนินการระหว่างรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป ส่งผลให้สถานะทางเศรษฐกิจและการเงินของรัฐเข้มแข็งขึ้น ทั้งนี้ความช่วยเหลือจากโปแลนด์ (Polish Aid) จัดให้มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อผูกพันของเราในสหภาพยุโรป โดยมีสองเสาหลักที่คอยให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการพัฒนาและมนุษยธรรม”

“เราเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่ทำงานอย่างจริงจัง มีส่วนร่วมในการเจรจาที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องของอนาคต เรื่องการโยกย้ายถิ่นฐาน สภาพภูมิอากาศ และนโยบายเศรษฐกิจ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป โปแลนด์ได้มีบทบาทอย่างแข็งขันในกระบวนของการรวมยุโรป การกำหนดนโยบาย และการทำงานในระดับสูงในโครงสร้างของสหภาพยุโรป”

นายวาลเดอมาร์ ดูบันยอฟสกี้ เอกอัครราชทูตโปแลนด์ สรุปว่า

“ในการสำรวจความคิดเห็น มีชาวโปแลนด์มากถึง 87% ชื่นชมกันอย่างมากว่า ประเทศโปแลนด์ได้รับประโยชน์จากการเป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป โดยค่านี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป (67%) เห็นได้ชัดจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นโอกาสในการจ้างงาน และยกระดับมาตรฐานการครองชีพของโปแลนด์ จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า ช่วงเวลาของโปแลนด์กับสหภาพยุโรป เป็น 15 ปีที่ประสบความสำเร็จและเราจะฉลองร่วมกัน!”

ประวัติ เอกอัครราชทูตวาลเดอมาร์ ดูบันยอฟสกี้

CV of H.E. Waldemar Dubaniowski

EDUCATION

2004-2005 : Postgraduate Studies in Management of Companies in the EU, Warsaw School of Economics

1996-1997 : Postgraduate Studies in Foreign Trade Economics, Warsaw School of Economics

1991-1993 : Graduate of the Polish National School of Public Administration (KSAP), Equivalent of the prestigious French ENA (Ecole Nationale d”Administration)

1984-1991: Master Degree in Social Science Studies, University of Warsaw

1979-1983 : High School Diploma (Matura), Johann Wolfgang Goethe High School in Warsaw

LANGUAGE : Polish, English, German, Russian

BORN : 23 February 1964 in Warsaw, Poland

MARRIED : two children

PROFESSIONAL EXPERIENCE

June 2017 : Appointed by the President of the Republic of Poland as the Ambassador of Poland to Thailand, Myanmar, Cambodia and Laos

2014-2016 : Business Development Director, PwC Polska (PricewaterhouseCoopers)

2009-DEC 2013 : Ambassador of the Republic of Poland to Singapore

2006-2008 : Strategic Management, Media and Telecommunications Advisor and Consultant

2005 : Head of the Cabinet of the President of the Republic of Poland (Secretary of State)

2003-2005 : Vice President Strategy and Management, Exatel S.A. (PSE S.A. Capital Group)

1998-2003 : Member of the National Broadcasting Council (Secretary of State Level Office)

1996-1998 : Director of the Group of Cabinet of the President of the Republic of Poland, Chancellery of the President of the Republic of Poland

1995-1996 : Advisor to the Minister, Economic Committee of the Council of Ministers of the Republic of Poland

1993-1995 : Chief Specialist, Office of the Government Plenipotentiary for European Integration and Foreign Assistance

1993 : Assistance to the Undersecretary of State, Ministry of Industry and Trade of the Republic of Poland