ตรวจรายชื่อ 250 ส.ว. พรรคสภาสูง เพื่อนคู่ใจ “ประยุทธ์”

ภายหลังรายชื่อ 250 ส.ว.ถูกเผยแพร่

ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

แม้จะไม่เกินความคาดหมาย เพราะต่างเห็นสัญญาณเช่นนี้มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว

ภายหลัง 15 รัฐมนตรีได้ลาออกจาก ครม. และ 4 รองหัวหน้า คสช. ที่ขอลาออกด้วย

อีกทั้งกระแสข่าวมี 60 สนช.ขอลาออกจากตำแหน่ง สนช. และลาออกจากบอร์ดรัฐวิสาหกิจและเอกชน

ทำให้เป็นที่จับตาทันทีว่าจะมาเป็น ส.ว.

แต่ชื่อที่เป็นกระแสต้นๆ คือชื่อ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายนายกฯ อดีต สนช.-ปลัดกลาโหม ได้ยอมรับตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่าได้ลาออกจาก สนช.จริง เพื่อมาเป็น ส.ว.

ทำให้เกิดแรงเสียดทานที่หวังให้สะเทือนถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมาทันที

ว่าจะกลายเป็น “สภาพี่น้อง” จริงหรือไม่ ที่เปรียบเป็น “สภาผัวเมีย” ในยุคก่อนหน้านี้

ทำให้มีการมองว่าชื่อ “บิ๊กติ๊ก” จะถูกดึงออกหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ยังคงอยู่ที่เดิม

อีกทั้งฟากฝั่ง “วงษ์สุวรรณ” ก็หนีไม่พ้น

มีการเปิดเผยว่ามีชื่อน้องชาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่จะได้เป็น ส.ว.ถึง 2 คน

ได้แก่ “บิ๊กปุ้ม” พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ และ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ที่ต่างเป็นอดีต สนช.

แต่สุดท้ายก็มีเพียงชื่อ พล.ร.อ.ศิษฐวัชรเท่านั้น ไม่มีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท

อีก 2 ชื่อที่เป็นกระแสวิจารณ์หนัก ได้แก่ชื่อ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม น้องชายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายสม จาตุศรีพิทักษ์ พี่ชายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยิ่งตอกย้ำความเป็น “สภาพี่น้อง” มากขึ้น

รวมทั้งชื่อนายสัญชัย จุลมนต์ น้องชายนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา มาเป็น ส.ว.ด้วย

แต่ ส.ว.ชุดนี้ มีทั้งพี่น้องโดยสายเลือดและพี่น้องในสายงาน ยังไม่นับรวมรายชื่ออื่นๆ อีก ที่หากดูแล้ว เรียกได้ว่าเป็น “สภาเพื่อนพ้องน้องพี่”

ซึ่งรายชื่อส่วนใหญ่มาจากอดีต สนช. และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปทั้ง 2 สภา ที่สิ้นสภาพไปแล้ว

โดยรัฐมนตรีทหารที่ลาออกเพื่อไปเป็น ส.ว. ได้แก่ “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีตรองนายกฯ “บิ๊กเต่า” พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ อดีต รมว.ทรัพยากรฯ เพื่อนนายกฯ ตท.12-จปร.23 “บิ๊กโย่ง” พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ตท.15-จปร.26 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา น้องชายนายกฯ และ “บิ๊กน้อย” พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาฯ ตท.14-จปร.25

รวมทั้ง 4 รองหัวหน้า คสช. ที่ได้ลาออกจาก คสช. ไปเป็น ส.ว.เช่นกัน ได้แก่ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร อดีต ผบ.ทหารสูงสุด “บิ๊กเข้” พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย อดีต ผบ.ทร. “บิ๊กจิน” พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง อดีต ผบ.ทอ. และ “บิ๊กอู๋” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร.

โดยทั้ง 4 คนเป็นอดีต ผบ.เหล่าทัพ ช่วงเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

และมีชื่อเป็นคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ด้วย จึงทำให้มีกระแสโจมตีกลับไม่น้อย

อีกทั้งมีเพื่อน ตท.6 ของ พล.อ.ประวิตรมาเป็น ส.ว. ได้แก่ พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์, พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย, “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา อดีต สนช. “บิ๊กสร้าง” พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด, พล.อ.อู้ด เบื้องบน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีต สนช., พล.อ.จิรพงศ์ วรรณรัตน์ อดีตที่ปรึกษา ทบ.

นอกจากนั้นยังมีเพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ เช่น พล.ต.ตรีกลชัย สุวรรณบูรณ์, พล.ท.จเรศักณิ์ อานุภาพ, พล.อ.ประสาท สุขเกษตร, พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ, พล.อ.โปฎก บุนนาค, พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์, พล.อ.ดนัย มีชูเวท

พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร, พล.ร.อ.นพดล โชคระดา, พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ, พล.อ.ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุทธิ์, พล.ท.อำพน ชูประทุม

แต่ชื่อที่ได้รับความสนใจไม่น้อยคือ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เพื่อนนายกฯ ตท.12 อดีต สนช. ก็ได้นั่ง 250 ส.ว. หลังชื่อ พล.อ.อกนิษฐ์ไปติดโผรัฐมนตรีใน ครม.ชุดใหม่ด้วย โดยเป็นโควต้าในฝั่งพรรคพลังประชารัฐ

เพราะมีการมองว่า พล.อ.อกนิษฐ์มีบทบาทไม่น้อยกับ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อน ตท.12 ที่ลาออกไปสู่ถนนการเมืองมาแล้วกว่า 30 ปี ในพื้นที่ จ.สงขลา และเป็นอดีต สปท.

ล่าสุดก็ได้มาทำพรรคพลังประชารัฐ ในการเป็นแม่ทัพคุมพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ ก็ทำให้ได้รับชัยชนะ ส.ส.ภาคใต้มากว่า 13 ที่นั่ง

อีกทั้งมีกระแสงัดข้อเกิดขึ้นในการทวงสิทธิ์เก้าอี้รัฐมนตรี ที่เคยมีชื่อ พล.อ.อกนิษฐ์ แล้วถูกไปเป็น ส.ว. ว่าควรให้ พ.อ.สุชาติ หรือไม่

ส่วนชื่อรุ่นน้อง ตท.อื่นๆ ที่สำคัญ เช่น “บิ๊กสน” พล.อ.สนธยา ศรีเจริญ อดีตแม่ทัพน้อยที่ 2 และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก (ตท.19) สายตรง พล.อ.ประวิตร ที่ลาออกจากราชการมาหลายเดือน ก็ได้เป็น ส.ว.เช่นกัน

ซึ่ง พล.อ.สนธยาถูกจับตาก่อนหน้านี้มีส่วนในการเป็น “พลังดูด” ส.ส.มาร่วมพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ภาคอีสาน

รวมทั้ง “บิ๊กอ้น” พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา รุ่นน้องสายทหารเสือฯ (ตท.19) ของ พล.อ.ประยุทธ์ อดีต สนช.-รอง เสธ.ทบ. ก็ได้กลับมาเป็น ส.ว.ด้วย

ซึ่ง พล.อ.กนิษฐ์ก็ถูกจับตาว่ามีบทบาทไปเป็นเบื้องหลังพรรคพลังประชารัฐ ในการปูทางการเมืองให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง พล.อ.กนิษฐ์ก็มีสายสัมพันธ์กับคนในพรรคพลังประชารัฐไม่น้อย

รายชื่ออื่นๆ เช่น “บิ๊กโบ้” พล.อ.อักษรา เกิดผล อดีตหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต. “บิ๊กเมา” พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขฯ คนปัจจุบัน

บิ๊กตี๋” พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร เพื่อน ตท.12 ของนายกฯ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ

“บิ๊กเบี้ยว” พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข อดีต เสธ.ทบ. รุ่นน้อง ตท.15 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ไว้วางใจมอบหมายงานให้จำนวนมาก ที่ผ่านการเป็น สนช. ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ประธานกรรมการ บมจ.อสมท.

และ “บิ๊กเข้” พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ อดีต สนช.-ปลัดกลาโหม น้องรักทหารเสือฯ ซึ่ง “บิ๊กเข้” มาเกษียณที่กลาโหม เพราะเกษียณพร้อม “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เมื่อกันยายน 2561

รวมทั้งมีนายทหารสายบ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้แก่ “เสธ.ณุ” พล.อ.พิษณุ พุทธวงศ์ หน.สำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายทหารคนสนิทของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เป็นอดีต สนช.

และ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิทของ “ป๋าเปรม” ก็มาเป็น ส.ว.ด้วย

ส่วนกลุ่มอดีต สนช., สปช. และ สปท. อาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีต ปธ.สนช. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรอง ปธ.สนช. นายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตรอง ปธ.สนช. หรือแม้แต่ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ อดีตประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็กลับมานั่ง ส.ว.ด้วย

แม้แต่ชื่อนายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ อดีต สนช. พี่ชาย “โหร คมช.” หรือโหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ที่บุคคลใน คสช.ให้ความเคารพนับถือก็กลับมาเป็น ส.ว.ด้วย

รวมทั้งบรรดา “เหล้าเก่าในขวดใหม่” อื่นๆ อีก เช่น นายสมชาย แสวงการ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายคํานูณ สิทธิสมาน เป็นต้น

อีกทั้ง 6 ที่นั่ง ส.ว. ที่เป็นโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกลาโหมและ ผบ.เหล่าทัพ ได้แก่ “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม (ตท.20) เกษียณปี 2564 “บิ๊กกบ” พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด (ตท.18) เกษียณปี 2563 “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. (ตท.20) เกษียณปี 2563 “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. (ตท.18) เกษียณปี 2563 “บิ๊กต่าย” พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. (ตท.18) เกษียณปี 2562 ถือว่าเป็น ส.ว.เพียง 4 เดือนเท่านั้น และ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เกษียณปี 2563

ซึ่งทั้ง 6 คนต่างก็เป็นสมาชิก คสช. โดยตำแหน่งด้วย

ทั้งหมดนี้หากยึดแนวคิด “คุมได้” รายชื่อที่ออกมาจึงไม่น่าแปลกใจ

เพราะก่อนหน้านี้มีการมองว่าระวังจะมี “งูเห่า” เกิดขึ้นใน ส.ว. ทำให้ “บิ๊กป้อม” เคยระบุว่า ตั้งมาก็ต้องคุมได้ จึงทำให้เริ่มเห็นเค้าโครงตั้ง ส.ว.ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ส.ส.มาแล้ว

“เราตั้ง เราก็ต้องคุมเขาให้ได้” พล.อ.ประวิตรกล่าวเมื่อ 13 มีนาคม 2562

ฟากฝั่งพรรคอนาคตใหม่ก็ยังคงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรพรรคขั้วต้าน คสช. และพรรคตัวแปรอื่นๆ มา “ปิดสวิตช์ 250 ส.ว.” ไม่ให้มาโหวตเลือกนายกฯ เพราะ ส.ว. 250 คน ผ่านมือ คสช.มา

แน่นอนว่า ส.ว.ชุดนี้จึงถูกมองว่า “สืบทอดอำนาจ” หรือ “สภาร้อยนายพล-ขุนพล คสช.”