อนุสรณ์ ติปยานนท์ : พร่ามัวจนเบื่อหน่าย

เมืองในหมอก (3)

เธอลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ในวันนั้น อ่อนเพลีย โศกเศร้าและไร้เรี่ยวแรง

แต่มีวันใดบ้างเล่าที่เธอไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น

เธอรู้สึกเช่นนั้นทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี

เธอรู้สึกเช่นนั้นทุกวันนับตั้งแต่หมอกสีเทาทึมเข้าปกครองเมืองแห่งนี้

ความแจ่มใสคือสิ่งใด ความสดใสมีหน้าตาเช่นใด เธอพยายามขบคิดถึงมันแต่ทุกอย่างกลับเลือนราง

เธอไม่ได้พบความสดใสมาเนิ่นนานแล้ว

เธอไม่ได้พบกับความแจ่มใสมาเนิ่นนานแล้ว

ทุกเช้าที่เธอตื่นขึ้นมีแต่ความอ่อนเพลีย โศกเศร้าและไร้เรี่ยวแรง

แต่เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ มีชีวิตอยู่ในเมืองในหมอกแห่งนี้

เธอแน่ใจว่าผู้คนมากมายในเมืองแห่งนี้มักครุ่นคิดถึงความตาย

พวกเขาคิดถึงความตายทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี พวกเขาครุ่นคิดถึงความตายทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที

พวกเขาท้อแท้ พวกเขาสิ้นหวัง แต่พวกเขาไม่อาจตาย

พวกเขาทุกคนล้วนอยู่ด้วยความหวัง ความหวังอันน้อยนิดที่เชื่อว่าสักวันหนึ่งหมอกสีเทาทึมจะถูกขจัดให้พ้นจากเมืองแห่งนี้ไป

และด้วยความหวังของผู้คนเหล่านี้เองที่ทำให้เธอยังมีชีวิตอยู่

ต้องมีชีวิตอยู่ เธอคือคนน้อยแสนน้อยที่กำลังทำหน้าที่สำคัญ

เธอคือคนน้อยแสนน้อยที่กำลังค้นหาวิธีขจัดหมอกควันสีเทา

 

การอยู่ในโครงการที่ว่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอได้กลายเป็นอภิสิทธิ์ชน

เธอสามารถมีหน้ากากป้องกันฝุ่นควันได้มากมายเท่าที่เธอต้องการ

โรงงานผลิตหน้ากากป้องกันมลพิษส่งหน้ากากของพวกเขามาให้เหล่านักวิจัยทดลองใช้ หน้ากากที่ได้รับคำรับรอง หน้ากากที่ผ่านการตรวจสอบและทดลองใช้จากเหล่านักวิจัยจะถูกนำออกสู่ตลาด

ยิ่งหน้ากากเหล่านั้นได้รับการรับรองจากนักวิจัยหลายกลุ่มมากเพียงใด โอกาสที่มันจะประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายก็มากขึ้นตามนั้น

ทุกเช้าที่เธอเดินเข้าสำนักงาน (แน่นอนภายใต้หน้ากากป้องกันมลพิษจากโรงงานใดโรงงานหนึ่ง)

เธอจะพบกับกองหน้ากากจำนวนมากที่รอให้พวกเธอได้ทดลองใช้

น่าเศร้าที่สิ่งของที่มีราคาแพงในท้องตลาดเช่นนี้ถูกวางกองเยี่ยงสิ่งไร้ค่าในพื้นที่ของเธอ

ความน่าเบื่อหน่ายต่อการต้องทดลองหน้ากากใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้เหล่านักวิจัยมักละเลยและจงใจหลงลืมหน้ากากรุ่นใหม่

พวกเขาจะหยิบมันขึ้นดู หยักไหล่ใส่มัน ก่อนจะโยนมันทิ้งไป และกลับไปหาหน้ากากที่ได้รับความนิยมและเป็นหน้ากากที่คุ้นเคย

การทดลองหน้ากากใหม่คือความเสี่ยง วิธีง่ายที่สุดคือสวมใส่มันแล้วออกไปเดินในที่สาธารณะ

หากมันใช้ได้ผล มันจะถูกคัดออกไปรอการตีตรารับรองโดยหน่วยงานประเมินมาตรฐานคุณภาพชีวิต

แต่หากมันใช้ไม่ได้ คำสั่งยุติการผลิตจะถูกส่งไปยังโรงงานเหล่านั้นทันที

และหากคำสั่งยุติการผลิตเกิดขึ้นจากเหล่านักวิจัยเกินสามกลุ่ม นั่นคือคำสั่งประหารชีวิต โรงงานแห่งนั้นจะยุติการผลิต ยกเลิกเครื่องจักร ไล่ออกคนงานที่ข้องเกี่ยวกับหน้ากากรุ่นนั้น

ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจฟังดูมากมายสำหรับโรงงาน

แต่หากเทียบกับความเสียหายที่เกิดจากหน้ากากซึ่งไม่ได้มาตรฐานแล้ว มันไม่อาจเทียบเคียงได้เลย

 

กระนั้นก็มีหน้ากากถูกหยิบยกขึ้นทดสอบน้อยเต็มที ไม่มีนักวิจัยคนใดอยากเสี่ยง ไม่มีนักวิจัยคนใดอยากสิ้นชีวิตลงก่อนเวลาอันควร

การใส่หน้ากากที่ไม่ได้มาตรฐานออกไปเผชิญหมอกควันไม่ต่างจากการว่ายน้ำตัวเปล่าในมหาสมุทรที่เนืองแน่นไปด้วยฝูงฉลาม

แม้ว่าอาจไม่มีฉลามตัวใจสนใจคุณ นั้นก็ถือว่าเป็นเพียงแค่โชคดี

เพราะว่าหากมันสนใจคุณและคุณไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตน กว่าคุณจะรู้สึกตัว แขนและขาของคุณก็ขาดออกจากร่างแล้วด้วยการขบกัดของสัตว์ร้ายนั้น

ด้วยเหตุนี้เองหน้ากากที่ถูกส่งมาทดสอบจึงมีจำนวนที่ผ่านการทดสอบน้อยเต็มที

อาจมีบางครั้งที่โชคชะตาพลิกผัน นักวิจัยบางคนผลุนผลันกลับบ้านโดยลืมหน้ากากของตน ก่อนจะพบว่าในกระเป๋าสัมภาระของเขามีหน้ากากที่ถูกส่งมาทดสอบบางอัน

พวกเขาจำใจใช้มันแทนที่จะหายใจแบบเปล่าเปลือย

การณ์กลับเป็นว่าหน้ากากชิ้นนั้นทำงานได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้

พวกเขากลับมายังที่ทำทำงานในวันรุ่งขึ้น ร้องตะโกนดังลั่นไม่ต่างจากอาร์คีเมดีสที่ค้นพบเรื่องความถ่วงจำเพาะ น้ำตาไหลพรากระหว่างการร้องตะโกน

“เรามีทางเลือกอีกทางแล้ว”

เสียงกู่ร้องดังไปทั่ว จากห้องวิจัยสู่อาคารวิจัย จากหนึ่งคนเป็นสิบคน จากสิบคนเป็นร้อยคน

โรงงานที่ผลิตหน้ากากป้องกันมลพิษแห่งนั้นเมื่อทราบข่าว จะพากันเฉลิมฉลอง หุ้นของโรงงานพุ่งพรวดในหนึ่งวัน

ป้ายประกาศรับสมัครงานถูกติดไปทั่วเมือง (ซึ่งแน่นอนว่าน้อยคนจะได้เห็นอันเป็นผลจากหมอก)

ข้อความรับสมัครงานถูกเผยแพร่ตามทุกช่องทาง การได้รับคำยืนยันว่าหน้ากากป้องกันมลพิษที่พวกเขาทำการผลิตนั้นใช้การได้ไม่ต่างจากการขุดลงไปในสายแร่แล้วค้นพบทองคำ

มันคือตาน้ำที่มีให้ดื่มกินไม่สิ้นสุด อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาที่หมอกสีเทายังคงทรงอิทธิพลของมันอยู่

คำถามมีขึ้นเสมอว่า ทำไมหน้ากากป้องกันมลพิษจึงผ่านการทดสอบได้ยากเย็นเช่นนี้

แค่เพียงผู้ผลิตจำลองอากาศจากภายนอกไว้ในห้องทดลองใดห้องทดลองหนึ่งแล้วปล่อยให้อาสาสมัครผู้กล้าสวมใส่หน้ากากที่ว่าเข้าไปในห้องห้องนั้น เรื่องราวเพียงเท่านี้ ทำไมจึงกลายเป็นเรื่องที่จัดการแก้ปัญหาได้ยากเย็น

คำตอบก็คือไม่มีโรงงานใดต้องการสร้างห้องจำลองเกี่ยวกับหมอก การเลียนแบบไรฝุ่น ควัน ละอองผงที่ไม่พึงปรารถนา

แม้จะกระทำได้ไม่ยากเย็น แต่การรวมเอาสิ่งเหล่านี้ไว้ในห้องห้องหนึ่งในโรงงานเพื่อใช้ในกระบวนการพิสูจน์ไม่ต่างจากการขังสัตว์ร้ายไว้ใกล้ตัวหรือไม่ต่างจากการใช้ระเบิดปรมาณูหนุนหัวต่างหมอน

ไม่มีใครแน่ใจได้ว่าสัตว์ร้ายเหล่านั้นจะแหกกรงขังอันเกิดจากความน่าเบื่อหน่ายของมันในวันใด หรือไม่มีใครรับประกันได้ว่าระเบิดปรมาณูจะทำงานขึ้นในวันใด

ทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น แม้ว่าโรงงานจะลงทุนมากเพียงใดกับการผลิตเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากป้องกันมลพิษ

แต่พวกเขาจะไม่ยอมลงทุนกับการสร้างพื้นที่ที่มีหมอกเช่นนั้นไว้ในโรงงานเป็นอันขาด

มันอันตรายมาก มันอันตรายมากมายเกินไป

 

เมื่อโรงงานไม่ยินยอมสร้างห้องจำลองดังกล่าว

หน่วยงานวิจัยยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องกระทำเช่นนั้น พวกเขามีเครื่องมือทันสมัย มีรูปแบบการตรวจสอบหมอกจำนวนมากมายหลายวิธี

ดังนั้น เมื่อหมอกไม่อาจถูกจำลองขึ้นทั้งในโรงงานและในหน่วยงานวิจัย จึงไม่มีใครเคยเห็นหมอกจริงๆ พวกเขาเดินฝ่าหมอกควันทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ก็เป็นไปแบบรีบเร่ง ไม่มีใครอ้อยอิ่ง เชื่องช้าในโลกของหมอก พวกเขารู้ว่าหมอกสีเทามึนซึมมีอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นตัวตนจริงๆ ของมันด้วยตาเปล่า

มีความพยายามที่จะเก็บตัวอย่างของหมอกมาวิเคราะห์อย่างจริงจัง แต่ผู้ที่รับผิดชอบงานดังกล่าวล้วนเสียชีวิตไปหมดแล้ว มีความพยายามที่จะรับสมัครอาสาสมัครและผู้คนใหม่ๆ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ

ไม่มีใครโง่พอที่จะรับเงินเพื่อการว่ายน้ำท่ามกลางฝูงฉลาม

 

เธออาบน้ำชำระร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่คล่องตัวสำหรับการออกเดินไปในที่สาธารณะเพื่อไปยังหน่วยงานของเธอ

ที่นั่น โครงการวิจัยการขจัดหมอกด้วยการเปลี่ยนมันเป็นขนมสีดำที่กัดกินได้

เธอจะเปลี่ยนชุดของเธออีกครั้ง ที่นั่นโครงการวิจัยที่ถูกล้อเลียนจากนักวิจัยในโครงการอื่นว่าหากพวกเขาทำการวิจัยจนได้ผลลัพธ์และวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง โรคต่อไปที่เขาต้องต่อสู้ต่อจากโรคทางเดินหายใจคือโรคเบาหวานนั่นเอง

นักวิจัยในโครงการนี้มีคุณสมบัติที่พิเศษเฉพาะอยู่หนึ่งข้อ นอกจากความรอบรู้ ความช่างสังเกตสังกา ความสามารถในการคิดคำนวณและทำงานหนักแล้ว

พวกเขายังต้องเป็นบุคคลที่ชอบและหลงใหลในของหวาน

เครื่องมือที่ใช้ต่อสู้กับหมอกในรูปของขนมเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน

บางวันมีรสชาติที่น่าพึงพอใจ แต่หลายวันก็เป็นรสชาติที่แทบต้องคายทิ้งโดยทันทีเมื่อขนมนั้นผ่านเข้าปาก

พวกเขากัดกินขนมในรูปลักษณ์ต่างๆ อย่างน้อยวันละห้าถึงหกชิ้น

ทั้งรูปแบบของขนมเค้ก รูปแบบของขนมปังกรอบ ขนมขบเคี้ยว ขนมโบราณ ขนมทันสมัย

สูตรแต่ละสูตรถูกคิดค้น นำเสนอ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

องค์ประกอบที่เชื่อว่าสามารถใช้ต่อสู้กับหมอกได้ถูกแต่งเติมลงไป ผงถ่านที่เชื่อว่าดูดกลิ่นและสร้างรสชาติใหม่ๆ ถูกเติมลงไป

วุ้นกะทิที่เชื่อว่าสามารถขังฝุ่นผงจากหมอกไว้ข้างในได้ถูกแต่งเติมลงไป

วานิลลาที่มีกำเนิดจากกล้วยไม้และเชื่อว่าสามารถย่อยหมอกควันให้เป็นอาหารของตัวมันเองถูกเติมลงไป

กระนั้นทุกอย่างที่ถูกผลิตขึ้นในโครงการวิจัยของเธอล้วนยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าความสำเร็จเอาเลย

มีบางอย่างขาดหาย มีบางอย่างที่สามารถขจัดหมอกและกินได้ที่ขาดหายไป

พวกเขาส่งนักวิจัยออกไปตามที่ต่างๆ ค้นพบวัตถุดิบและรูปลักษณ์ที่หลากหลาย

แต่กระนั้นสิ่งที่ได้ก็หาได้ใกล้เคียงกับคำว่าความสำเร็จ

โครงการวิจัยยังเดินหน้าต่อไป มันได้รับการสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัท ทั้งบริษัทที่ผลิตน้ำตาล บริษัทที่ผลิตแป้ง ผลิตแม่พิมพ์แบบต่างๆ

บริษัทเหล่านี้รอเก็บเกี่ยวผลกำไรที่จะเกิดขึ้นอย่างอดทน

ลองนึกภาพสิว่าแทนการใส่หน้ากากที่อึดอัด คุณสามารถเลือกกัดกินขนมรสเลิศที่จะดูดซึมเอาฝุ่นผงทั้งหมด

ในตัวคุณและขับถ่ายมันออกมาในวันรุ่งขึ้น ผู้คนย่อมเลือกพกพามันไว้ในกระเป๋าไม่ต่างจากถุงยางอนามัยหรือยาคุมกำเนิด

เมื่อรู้ตัวว่าถูกหมอกเล่นงาน คุณเพียงแต่เปิดห่อขนมออก กัดกินมันในปริมาณที่เหมาะสมและเฝ้ารอการขับถ่ายในเวลาต่อไป วิธีการที่เป็นธรรมชาติ วิธีการที่ชาญฉลาด

เพียงแต่ว่ามันเป็นวิธีการที่ยังไม่เข้าใกล้คำว่าความสำเร็จเลย

 

หลังแต่งกายเรียบร้อย เธอก็ออกจากที่พัก ห้องพักขนาดเล็ก ไม่มีสัมภาระใดนอกจากตำราด้านวิทยาศาสตร์

เธอออกเดินตรงไปยังสถานที่ทำงาน ไม่มีรถยนต์อีกต่อไป หรือถึงมีก็ในปริมาณที่น้อยเต็มที ผู้คนขายรถยนต์เปลี่ยนมันเป็นเงินตราเพื่อใช้ซื้อหน้ากากป้องกันมลพิษอันเป็นสิ่งของที่เขาเชื่อว่าคู่ควรกว่า

อีกทั้งไอเสียจากรถยนต์ก็ยังเชื่อว่ามันมีส่วนในการเสริมอานุภาพทำลายล้างของหมอกสีเทา

ด้วยเหตุผลทั้งสองข้อนั้นเองที่ทำให้รถยนต์หายไปจากถนนมีเพียงคนที่เดินไปมาภายใต้หน้ากากเท่านั้นเอง

เรื่องราวในวันนั้นเกิดขึ้นเพราะรถยนต์คันหนึ่ง

รถยนต์ที่แทบไม่มีใครได้พบเห็นมันอีกแล้วเลี้ยวออกมาจากตรอกเล็กๆ มันเฉี่ยวชนกับเธอจนเสียหลัก ก่อนจะขับหนีหายไปในท่ามกลางหมอกควันหนาทึบ

บางทีคนขับอาจไม่ได้ตั้งใจ บางทีมันอาจเป็นเพียงอุบัติเหตุ

กระนั้นผลลัพธ์ที่ได้คือทำให้หน้ากากของเธอหลุดออก ถูกล้อทับบี้แบนจนสิ้นสภาพ

เหตุการณ์ที่ว่านี้ทำให้เธอต้องหาหน้ากากอีกอันโดยด่วน เธอเชื่อว่ามีร้านขายหน้ากากอยู่ในบริเวณนั้น แต่หมอกควันอันหนาทึบทำให้เธอไม่อาจแน่ใจในทิศทาง

เธอสอดมือลงไปในกระเป๋าถือ ก่อนจะพบว่ามีหน้ากากอันหนึ่งอยู่ในนั้น เป็นหน้ากากสีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกส่งมาให้โครงการวิจัยของเธอทดสอบ

เป็นหน้ากากสีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกผลิตโดยโรงงานผลิตหน้ากากป้องกันมลพิษและเครื่องฟอกอากาศของนายหมอกสีเทา