ฟ้า พูลวรลักษณ์ | วิบากกรรมของเมืองไทย – วิบากกรรมของอังกฤษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๒๗.๓)

ฉันไม่เข้าใจโลกนี้เลย เพราะสิ่งที่ฉันเห็นก็ชัดเจนอยู่ตรงหน้า แต่ทำไมไม่มีคนทำ

ยกตัวอย่างสองปัญหา

๑ การเมืองไทยที่ทุกคนบอกว่าตัน

๒ ปัญหา Brexit ที่ทำให้การเมืองอังกฤษไร้ทางออก

สําหรับการเมืองไทย ฉันก็มองเห็นชัดเจนว่า คือให้พรรค ปชป.กับภูมิใจไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคขนาดกลางหรือเล็กๆ อื่นๆ มาร่วมด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ถอยออกมาเป็นผู้ดู ส่วนพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับ ส.ว. ๒๕๐ คน ล้วนถูกปิดสวิตซ์ รวมทั้งนายกฯ ตู่ ก็พลอยโดนแขวนไปด้วย เท่ากับว่าการยิงกระสุนนัดเดียวนี้ ได้นกหมดทั้งฝูง ฝ่ายประชาธิปไตยชนะอย่างงดงาม

ให้พวกเขาบริหารประเทศอย่างน้อยหนึ่งปี

พอมาปีที่สอง ค่อยมาพิจารณาตามเนื้อผ้า

หนึ่งปีนี้คือการให้ประชาธิปไตยได้ทำงาน ได้เริ่มผลิใบออกดอกในเมืองไทยอีกครั้ง

ปัญหาอยู่ตรงไหนกัน มันชัดเจนอยู่ตรงหน้า ว่าต้องเดินทางนี้เท่านี้ นี้คือ No Option เพราะพ้นจากนี้ คือความวุ่นวาย คือชัยชนะของฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย คือความสับสน สิ่งที่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ซึ่งพวกเราไม่มีใครอยากให้เกิด

มันเสียหายตรงไหนที่จะให้ ปชป. เป็นรัฐบาล

มันเสียหายตรงไหน ที่จะให้ภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล

สําหรับอังกฤษ ทางออกก็แสนจะง่ายดาย

คือการทำประชามติใหม่

๑ หากฝ่าย Brexit ชนะอีก ทุกคนก็ต้องยอมรับ เพราะลองมาสองครั้งแล้ว คำตอบยังคงเดิม ถ้าเช่นนั้น ก็ถึงเวลาที่ฝ่ายยังคัดค้านต้องถอยออกมา แม้เส้นทางข้างหน้าจะลำบาก แต่นี่คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนก็พร้อมจะเดินหน้าไปด้วยกัน

๒ หากฝ่ายต้องการอยู่กับ EU ต่อชนะ ก็เท่ากับว่ากลับที่เดิม ปัญหาปั่นป่วนวุ่นวายก็จบลง เป็นเพียงหนึ่งฝันร้าย

อังกฤษตื่นจากฝันร้ายสักที

บางคนบอกว่า ทำประชามติไปแล้วหนึ่งครั้ง ก็พอแล้ว อันนี้ไม่จริง ในบางกรณีที่ซับซ้อน และมีผลพวงร้ายกาจ ก็สามารถทำซ้ำครั้งที่สองได้ เพราะทุกคนก็มีโอกาสชนะ ฝ่าย Brexit ก็มีโอกาสชนะ และชนะอย่างงดงาม หากพวกเขาชนะครั้งที่สอง แต่หากแพ้ ก็จบความวุ่นวายเสียที

ปัญหา brexit นี้ร้ายกาจกว่าที่คิด ยากลำบากกว่าที่คิด ซึ่งวันนี้ชาวอังกฤษจำนวนมากก็ได้รับรู้แล้ว ก่อนการทำประชามติครั้งแรกนั้น พวกเขายังไม่รู้เลย เพราะยังไม่ได้ข้อมูล ใครกันจะรู้เรื่องราวทางกฎหมายได้ละเอียดอ่อนปานนั้น ทุกคนมองในแง่อารมณ์

การทำประชามติครั้งที่สอง เป็นประชาธิปไตยอย่างที่สุด

เรื่องเรียบง่ายแบบนี้ ทำไมไม่ทำ ทำไมจึงมีแต่เสียงว่าไม่ยอมทำประชามติครั้งที่สอง มันเกิดอะไรขึ้นในจิตใจของฝ่ายบริหาร เหมือนซอมบี้บ้า จะดึงดังไปไหน

เหมือนเขาวงกตแห่งนี้ ทางออกมีทางเดียว และชัดเจน เหมือนมีเครื่องหมายดรรชนีชี้นำ แต่ก็ไม่มีคนออกไป ยังดึงดันจะวิ่งวนอยู่ในเขาวงกตแห่งนี้ต่อไป พยายามจะหาทางออกอื่น เพราะอะไร

ฉันคิดว่า ฉันคงเป็นคนไม่เข้าใจโลก

เพราะมันง่ายดายเหลือเกิน มีเพียง One Option เท่านั้นเอง มันตอบโจทย์หมด แก้ปัญหาทั้งหมด

บางคนบอกว่า มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น

คงมีแน่ ไม่เช่นนั้นก็คงทำไปแล้ว

แต่สิ่งนั้นคืออะไรเล่า ฉันพยายามถาม แต่แปลกที่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแต่คำตอบที่ขัดแย้งกันเองในตัว คำตอบที่คลุมเครือ จนฉันก็ไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นไปอีก ว่าสมองของฉันมีปัญหาอะไร จึงฟังคำอธิบายเหล่านั้นไม่เข้าใจ

บางคนบอกว่านี้คือวิบากกรรมของเมืองไทย และวิบากกรรมของอังกฤษ ฟังแล้วเข้าใจง่ายดี แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรอยู่ตามเดิม อะไรคือวิบากกรรมตัวนี้ล่ะ มันครอบจักรวาล มันอธิบายหมด แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรเลย

ถ้าเช่นนั้น เราไม่ต้องทำอะไรดีกว่าไหม นอนหลับดีกว่า

แล้วโลกก็หมุนไปเอง ทุกปัญหาจะจบเอง

ทุกนามธรรมจะสลายตัว กลายเป็นรูปธรรม แล้วมันก็จบงดงามโดยตัวมันเอง

ฟังดีทุกอย่าง เหมือนหนังการ์ตูนเลย

หากฉันผิด ต้องมีคำตอบที่เด่นชัดมาแสดง แต่มันก็ไม่มี

มีกฎหมายข้อใดห้ามพรรค ปชป. และภูมิใจไทย เป็นรัฐบาลหรือ

มีใครในสองพรรคนี้ที่ไม่พอใจหรือ

มีใครในสองพรรคนี้ที่ไม่เอาหรือ

ฉันนึกไม่ออกเลย

มีใครในพรรคเพื่อไทยหรืออนาคตใหม่ที่คัดค้านหรือ คัดค้านทำไม

ฉันรู้ว่า Teresa May มีความต้องการแน่วแน่ที่จะให้เกิด Brexit ไม่รู้เพราะอะไร ฉันก็หาคำตอบนั้นไม่ได้ เธอเหมือนซอมบี้เลย เหมือนคนคลั่งลัทธิ เหมือนคนที่ต้องการฆ่าตัวตาย แปลกมาก เกิดอะไรขึ้น อะไรทำให้เธอแน่วแน่ มุทะลุได้ถึงขนาดนั้น และทำไมเธอจึงทำไม่สำเร็จ แม้จะพยายามกี่ครั้ง ยิ่งวิ่ง ยิ่งวน กลับไปกลับมาในเขาวงกต

ก็มันเป็นเขาวงกต

ที่มีทางออกทางเดียวเท่านั้น

เมื่อปิดทางออกนั้น ก็ไร้ทางออก

แต่ทำไมต้องปิดมันด้วย

การเมืองอังกฤษ มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้นหรือ ฉันพยายามคิด แต่คิดไม่ออก

ฉันโทร.ไปถามเพื่อนที่อังกฤษ เธอก็ตอบไม่ได้ ได้แต่บ่นว่าเบื่อ

แน่ละ คงมี

การเมืองไทย คงมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น

คิด คิด คำตอบยังคงเหมือนเดิม มันคือวิบากกรรม

มันอาจเล็กกว่าวิบากกรรมเสียอีก เล็กกว่าอะตอม เล็กกว่าอนุภาคมูลฐาน

แต่ไม่ว่ามันจะเล็กเพียงไหน มันมีผลร้ายแรง

มันฉีกกระชาก มันทำลาย มันขวางกั้น มันทำได้หมดทุกอย่าง

แต่มันคืออะไรแน่นะ คิดดู มันก็คือความว่างเปล่า

แน่ละ ฉันเป็นคนไม่เข้าใจโลก

หรือไม่ ก็โลกนี้ไม่เข้าใจตัวมันเอง

มันต้องการอยู่ในเขาวงกต มันต้องการอยู่ในทุกข์