สนาม กทม.คราวนี้เดือด!

สนามเล็ก

การเมืองสนามใหญ่

เปิดกว้างให้พรรคพลังประชารัฐ แทบจะทันที

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์

หลักเกณฑ์วิธีการคำนวณและคิดอัตราส่วนของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มาตรา 128 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91

ผลการวินิจฉัยดังกล่าว ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โล่งอก

และคงยึดเป็นแนวเดินตาม

ซึ่งก็คือสูตรของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ไม่ยอมให้หนึ่งเสียงตกน้ำนั่นเอง

ทำให้พรรคเล็กมีโอกาสรับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อรวมกับพรรคใหญ่ไม่น้อยกว่า 27 พรรค

ส่งผลให้การจับขั้วการเมืองพลิกจากขั้วเพื่อไทย-อนาคตใหม่

ไปเป็นขั้วพรรคพลังประชารัฐ บวกพรรคเล็ก

การไปต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนาทีนี้จึงสดใส

เมื่อ “สนามใหญ่” ฝุ่นจางลง

โฟกัสก็เริ่มจับไปที่การเมืองสนามเล็ก

ซึ่งอย่าคิดว่าเวลาเหลืออีกเยอะ

เพราะจากเอกสารของ กกต.ที่ว่อนในสังคมโซเชียลของสมาคมข้าราชการองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.)

“ไทม์ไลน์” ถูกกำหนดไว้คร่าวๆ แล้วว่า

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)

อาจจะมีขึ้นประมาณวันที่ 18 สิงหาคม

หรือประมาณอีก 3 เดือนข้างหน้า

ซึ่งไม่มากเลย

โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ที่ตั้งเป้าจะลุยการเมืองท้องถิ่น

คงต้องเตรียมตัวแล้ว

ส่วนสนามที่ทุกคนจับตามอง คงไม่พ้นสนาม กทม.

ที่เจ้าของพื้นที่เดิม ทั้งประชาธิปัตย์ และเพื่อไทย คงต้องขอชิงแชมป์คืน

ประชาธิปัตย์ยังไม่ชัดว่าจะเป็นใครที่จะลงชิงชัย

ส่วนเพื่อไทย ชื่อของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ถูกขานมาแต่ไก่โห่ ซึ่งจะว่าดีก็ดี คือ มีคนพร้อมและเหมาะสมตั้งแต่เริ่ม

แต่ไม่ดีก็คือ ผู้ว่าฯ กทม. มักจะอยู่กับกระแส

การเปิดตัวเร็วทำให้ไม่ตื่นเต้น หรือมีแรงเฉื่อยได้

จังหวะก้าวและการเล่นกับกระแส จึงสำคัญ

ซึ่งตอนนี้ที่คนสนใจก็คือ พรรคอนาคตใหม่ จะเอาใคร ใหม่ สด และเป็นคนรุ่นใหม่แค่ไหน

เลือกตั้งคราวนี้ หากลุยคงต้องปะทะศึกหนักกับเพื่อไทย อย่างเลี่ยงไม่ได้

เช่นเดียวกับต้องชนคนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นตัวเก็งเสมอในสนามเลือกตั้งนี้

ที่ไม่อาจมองข้าม คือพรรคพลังประชารัฐ

ในฐานะ “ผู้สืบทอด” จะเข้ามาเล่นหรือไม่

ถ้าเล่นจะเอาใคร

จะใช้บริการ “อัศวิน ขวัญเมือง” เจ้าของเก้าอี้เดิม

หรือใช้บริการ นายสกลธี ภัททิยกุล ที่ส่งเข้าไปเรียนงานในฐานะรองผู้ว่าฯ กทม. มาร่วม 2 ปี

หรือจะเป็นคนอื่น

ซึ่งไม่ว่าใคร

สนาม กทม.คราวนี้เดือด