ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 พฤษภาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ท่าอากาศยานต่างความคิด |
เผยแพร่ |
เมืองในหมอก (2)
เราอาจเรียกเขาว่า ก หรือ A หรืออะไรก็ได้ตามที่เราต้องการ
สำหรับลูกจ้างธรรมดาคนหนึ่งในลูกจ้างนับร้อยนับพันแห่งโรงงานผลิตหน้ากาก
โรงงานผลิตหน้ากากที่เราจะเรียกมันว่าโรงงาน ก หรือโรงงาน A หรืออะไรก็ได้
โรงงานธรรมดาโรงงานหนึ่งในโรงงานผลิตหน้ากากนับร้อยนับพัน
กระนั้น ในฐานะของการเล่าเรื่อง เราจำเป็นต้องมีสัญลักษณ์แทนตัวละคร เราจึงเรียกเขาว่านายหมอกสีเทา
นายหมอกสีเทาทำงานในโรงงานผลิตหน้ากากแห่งนี้มาเนิ่นนาน เขาเป็นคนงานรุ่นแรกที่ทำงานนี้ในฐานะลูกจ้างหรือคนงานธรรมดา
เขาเป็นคนงานรุ่นแรกที่ทำงานนี้ก่อนที่วิกฤตหมอกควันจะเข้าปกคลุมเมือง
ไม่น่าเชื่อว่าจากความรู้เพียงเล็กน้อยที่เขามีและไม่อาจหางานอื่นใดที่สำคัญได้
การทำงานในโรงงานคือทางเลือกสำหรับบุคคลที่ไม่ปรารถนาทำงานในเรือกสวน ไร่นา หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน
นั่นคือนิยามของคนในชั้นสังคมแบบเขา นายหมอกสีเทาเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงนับแต่วัยหนุ่ม
หลังผ่านพ้นการเกณฑ์ทหาร นายหมอกสีเทาพกพาความรู้ที่ติดตัวมาภายหลังเวลาสองปีในค่ายทหารอันได้แก่ ความสามารถในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลแบบเล็กๆ น้อยๆ ความสามารถในการขับรถแบบเล็กๆ น้อยๆ ความสามารถในการปกครองและเชื่อฟังคนแบบเล็กๆ น้อยๆ
ทั้งหมดนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นความเชี่ยวชาญใดๆ
กระนั้น สำหรับคนที่ไม่เรียกร้องสิ่งใดมาก
กระนั้น สำหรับคนที่สูญเสียพ่อแม่พี่น้องไปกับอัคคีภัยในช่วงเวลาที่เขาเป็นทหาร สำหรับคนที่ไร้ญาติขาดมิตรและไม่รู้จะทำเช่นใดดีกับซากปรักหักพังของบ้านและที่ดิน
นายหมอกสีเทาเลือกเส้นทางที่เรียบง่ายที่สุดคือการเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง
เขาทำงานครั้งแรกในโรงงานคัดแยกขยะ ขยะกองใหญ่ ปัญหาสำคัญของเมืองที่ไม่มีใครอยากขบคิดถึงมันอย่างจริงจัง
แต่สำหรับโรงงานคัดแยกขยะแล้ว พวกเขาเป็นดังผู้ปิดทองหลังพระที่แท้จริง จากขยะกองใหญ่ พวกเขาแบ่งแยกมันเป็นขยะขนาดย่อม จากขยะขนาดย่อม พวกเขาคัดสรรมันเป็นขยะที่ย่อยสลายกับไม่ย่อยสลาย
จากขยะที่ย่อยสลายกับไม่ย่อยสลาย พวกเขาคัดแยกมันเป็นขยะที่นำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบได้อีกกับไม่อาจนำมาใช้ได้อีกต่อไป หน้าที่ของโรงงานคัดแยกขยะแทบไม่ต่างจากรถยนต์ที่แล่นเข้าไปในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งจนกว่าจะพบกับทางตัน
หลังจากพบทางตันแล้ว คนขับรถยนต์จะดับเครื่องลง สำรวจทางตันนั้นแล้วเริ่มต้นทำงานด้วยการขับรถย้อนกลับมา
งานคัดแยกขยะเป็นงานชั้นเลวที่ฝึกฝนนายหมอกสีเทา ความสามารถในการสังเกตว่าสิ่งใดใช้ได้ ใช้ไม่ได้ สิ่งใดมีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ เพิ่มพูนตามอายุงานของเขา
จากหนึ่งปีเป็นสามปี เขาสามารถมองเห็นขยะที่อยู่บนสายพานได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวว่ามันควรเดินทางไปที่ใด
จากสามปีเป็นห้าปี เขาสามารถมองเห็นขยะที่ถูกส่งมาเป็นกองใหญ่ว่าแต่ละชิ้นจะต้องเดินทางไปที่ใด
จากห้าปีเป็นสิบปี แค่เพียงเดินผ่านกองขยะ เขาสามารถดมกลิ่นขยะนั้นได้ว่าขยะชิ้นใดควรเดินทางต่อหรือควรถูกย่อยสลายทิ้ง ณ จุดนั้นเลย
แต่แล้วหลังจากผ่านการดมกลิ่นขยะมานานนับสิบปี นายหมอกสีเทาพบตนเองว่าเขาควรได้รับอากาศบริสุทธิ์เสียที
ดังนั้น ในวันครบรอบการทำงานครบปีที่สิบ นายหมอกสีเทายื่นใบลาออกจากงานโดยไม่ลังเล เขาเดินออกจากโรงงานเก่าและมุ่งตรงไปที่โรงงานใหม่ที่เขาหมายตา
-โรงงานผลิตเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากกันมลพิษนั่นเอง-
แม้ว่าจะมีความรู้และความชำนาญมากมาย
แต่นายหมอกสีเทากลับต้องเริ่มต้นหน้าที่ของเขาจากศูนย์
โลกของมลพิษและขยะที่เขาคุ้นชินเปรียบเสมือนดังโลกมืด
ทว่าโลกของเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากกันมลพิษคือโลกของแสงสว่าง
ความรู้ในโลกมืดไม่อาจใช้ในโลกที่สว่างได้
แน่นอนมีองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกันระหว่างโลกทั้งสอง
กลิ่นแบบใดเล่าที่เราพึงปรารถนา
และกลิ่นแบบใดที่เราพึงหลีกเลี่ยง
ฝุ่นละอองแฝงในสิ่งใดมากที่สุดและไม่แฝงในสิ่งใดเลย
ปอดของมนุษย์ทำงานได้ดีเพียงใดในสถานการณ์ใดและทำงานได้ย่ำแย่เพียงใดในสถานการณ์ใด อายุขัยของปอดที่แข็งแรงและอายุขัยของปอดที่อ่อนแอเป็นเช่นใด
เรื่องราวพื้นฐานง่ายๆ แบบนี้ที่เขาเข้าใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่กระนั้นโลกของโรงงานเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากป้องกันมลพิษก็ยังแตกต่างจากโลกของโรงงานคัดแยกขยะอยู่ดี นักบุญอาจเข้าใจคนบาป คนบาปอาจเข้าใจนักบุญ
อย่างไรก็ตาม โลกของพวกเขาทั้งสองก็แตกต่างกันมากอยู่ดี
ความแตกต่างที่ว่ามีนับแต่เรื่องเล็กน้อยอย่างเครื่องแบบของพนักงานโรงงาน ในโรงงานคัดเลือกขยะ เครื่องแบบของลูกจ้างชั้นล่างสุดที่ต้องทำหน้าที่คัดแยกขยะมีสีดำสนิท
จนเมื่อเลื่อนตำแหน่งเครื่องแบบนั้นจึงเปลี่ยนเป็นสีเทาและสีน้ำเงินเข้ม
การต้องอยู่กับขยะที่เปรอะเปื้อนสกปรก ไม่มีสีใดทำหน้าที่รองรับมันได้ดีกว่าสีดำ
ทุกคราบเปรอะเปื้อนบนพื้นสีดำสามารถขจัดออกได้อย่างง่ายดาย
หรือหากมันไม่อาจทำเช่นนั้นได้ คุณก็เพียงแค่พ่นสีดำอีกรอบทับทาลงไป
หนทางแก้ปัญหาเรียบง่ายเช่นนั้นเอง ในโลกที่เป็นด้านมืด สีดำขจัดปัญหาและครอบครองทุกสิ่ง
แต่ในโลกของโรงงานผลิตเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากป้องกันมลพิษ ทุกสิ่งมีแต่สีขาวสะอาดตา
เครื่องแบบของพนักงานในโรงงานแห่งนี้ขาวจนเขาแสบตานับแต่แรกเห็น
ไม่นับถึงทุกสิ่งทุกอย่างในโรงงาน เสาสีขาว ผนังสีขาว หลังคาสีขาว จานข้าวสีขาว แก้วน้ำสีขาว แม้แต่ช้อนก็เป็นช้อนกระเบื้องสีขาว เครื่องดื่มชนิดเดียวที่อนุญาตให้ดื่มได้ที่นี่คือนมสีขาวบริสุทธิ์ (แม้ว่าเขาจะแอบพกน้ำดื่มไปในภาชนะส่วนตัว ซึ่งแน่ละมันคือกระติกน้ำสีขาว)
ความขาวสะอาดทำให้สิ่งสกปรกถูกตรวจพบอย่างรวดเร็ว
นั่นคือสภาพแวดล้อมทั่วไปของโรงงาน
แต่ในพื้นที่พิเศษ สีขาวและความขาวมีปริมาณและพลังมากกว่านั้นอีก
ในห้องทดลองจำลองสภาพโอโซน ทุกจุดมีแต่สีขาวและอากาศที่ปลอดโปร่ง
เขาไม่เคยรู้สึกเหมือนดังการได้กลับมาฟื้นฟูชีวิตให้กับปอดเท่ากับการเดินเข้าไปในห้องโอโซนนี้เลย
น่าเสียดายที่โอกาสดังกล่าวนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อย
มีแต่เพียงวาระที่เขาต้องเข้าไปร่วมตรวจสอบคุณภาพหน้ากากกับไส้กรองอากาศที่เขาทำหน้าที่ผลิตเท่านั้นที่เขาจะได้รับอนุญาตให้ย่างกรายเข้าไปในห้องโอโซนได้
ทว่าพ้นจากนั้นแล้วเขาก็เป็นเพียงพนักงานธรรมดาที่คอยดูแลหน้ากากและไส้กรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศที่เคลื่อนผ่านหน้าเข้าไปบนสายพาน
โลกใหม่เปลี่ยนเขาไปอย่างสิ้นเชิง จากการแต่งตัวที่แทบไม่แยแสสิ่งใดในฐานะพนักงานประจำโรงงานคัดแยกขยะ
เขามีเสื้อผ้าที่ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตและเสื้อยืดสีขาวเท่านั้น เสื้อสีอื่นถูกเขาขจัดทิ้งไปหมด
โชคดีที่เขาพบว่ากางเกงสีขาวไม่เหมาะกับเขานัก เขาจึงเลือกมีแต่กางเกงสีดำ และด้วยชุดแต่งกายที่ว่านี้เอง ขาวและดำ ทำให้เมื่อเขาปรากฏตัวในที่สาธารณะ เขารู้สึกไม่ต่างจากการเป็นยมทูตแห่งความตาย
ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือสภาวะแวดล้อมของเขา
นายหมอกสีเทาย้ายออกจากที่พักเดิมที่เป็นเพียงห้องเช่าธรรมดาซึ่งรกไปด้วยฝุ่นผงและสิ่งของไม่จำเป็น เขาทิ้งสิ่งของเหล่านั้นไปทีละชิ้น ทีละชิ้นเมื่อเริ่มต้นงานใหม่ที่โรงงานผลิตเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากป้องกันมลพิษ
หลังจากทิ้งทุกอย่างที่ไม่จำเป็นไปจนหมด เขาหอบข้าวของที่มีจำนวนเหลือจนนับตัวเลขได้สะดวกออกแสวงหาที่อยู่ใหม่
เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดเช่าซื้อห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งบนอาคารสูงใจกลางเมือง
จัดทุกอย่างเข้าที่ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
โลกของเขาสะอาดหมดจด แลดูเป็นระเบียบ จนเขาแทบไม่มีความกังวลใดๆ
เมื่อเขาทานอาหารเสร็จ เขาจะชำระล้างจานชามทันที
เมื่อกลับถึงที่พัก เขาจะทำความสะอาดเครื่องแต่งกายและร่างกายตนเองทันที
เขาเข้านอนเป็นเวลา ตื่นเป็นเวลา เลิกดื่มและสูบ กินอาหารเรียบง่าย ไม่สะสมสิ่งใด การเปลี่ยนชีวิตมาสู่โรงงานผลิตเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากป้องกันมลพิษทำให้ชีวิตของเขาเรียบง่ายไม่ต่างจากกระดาษเปล่าสีขาวแผ่นหนึ่ง
เพราะนอกจากสิ่งเหล่านั้น อีกสิ่งที่เขาแตกต่างไปจากเดิมคือการที่เขาใส่หน้ากากป้องกันมลพิษแทบทุกเวลาเว้นแต่เวลานอน
ในฐานะของพนักงานประจำโรงงาน เขามีสิทธิเบิกใช้หน้ากากเหล่านั้นมากเท่าใดก็ได้
คุณภาพเช่นใดก็ได้
ในส่วนหนึ่งมันคือกระบวนการทดสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
แต่ในอีกส่วนหนึ่งมันคือความเคยชิน
ในเมื่อต้องสวมใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลาแล้วเมื่ออยู่ในโรงงานที่สะอาดสะอ้าน แล้วทำไมเราจะทำร้ายปอดด้วยการไม่สวมใส่หน้ากากป้องกันมลพิษเมื่อต้องกลับมาสู่โลกภายนอกอันสกปรกและโสมม
นายหมอกสีขาวคิดเช่นนั้น ดังนั้น เมื่อมีใครที่เคยรู้จักเขาได้พบเห็นเขา พวกนั้นจะจดจำเขาได้ทันที ชายในเครื่องแบบขาวและดำไม่ต่างจากยมทูตแห่งความตายที่สวมใส่หน้ากากป้องกันมลพิษเดินไปมาในเมืองใหญ่
ดังนั้น ถ้าจะสรุปชีวิตของนายหมอกสีเทา เขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในเครื่องแบบสีขาวและดำ พักอาศัยอยู่ในที่พักขนาดเล็ก
เป็นคนไม่มีครอบครัวและสวมหน้ากากป้องกันมลพิษอยู่ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้คือชีวิตของนายหมอกสีเทา
ก่อนที่หมอกสีเทาจะปรากฏตัวขึ้นครอบคลุมเมือง