เทศมองไทย : “ซีสเตด” นอกฝั่งภูเก็ต แนวคิดใหม่ เสรี-ไร้รัฐ

หลังผ่านมหาสงกรานต์เทศกาลใหญ่ เรื่อง “ซีสเตด” เหนือท้องทะเลอันดามันบริเวณใกล้กับเกาะราชาใหญ่ ไม่ไกลจากจังหวัดภูเก็ตทางใต้ของไทยก็โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยหลายเหตุผลด้วยกัน

อย่างหนึ่งเป็นเพราะทั้งเอพีและเอเอฟพี หยิบเรื่องนี้บอกเล่าต่อไปทั่วโลก

ต่อจากนั้นอีกหลายเว็บไซต์ข่าวและวิเคราะห์ข่าว อย่างการ์เดียน และเอเชียไทม์ส ออนไลน์ นำเสนอรายละเอียดต่อเนื่องในช่วงวันที่ 18-19 เมษายนที่ผ่านมา

อีกอย่างหนึ่งนั้นเป็นเพราะกรณีนี้เป็น “กรณีตัวอย่าง” ในทางปฏิบัติของ “แนวความคิดใหม่” ที่ดึงดูดความสนใจหลายต่อหลายคนกันอยู่ก่อนแล้ว

คนอย่าง “แชด เอลวอร์ทอว์สกี้” กับ “สุปราณี เทพเดช” สามารถเรียกได้ว่าเป็น “ผู้บุกเบิก” การใช้ชีวิตอิสระตามแนวความคิดใหม่นี้ได้พอๆ กับที่เป็น “เครื่องมือในการโฆษณาประชาสัมพันธ์” เพื่อการ “ดำเนินการในเชิงพาณิชย์” ของแนวความคิด “ซีสเตด” นี้ก็ได้อีกเช่นเดียวกัน

ฮันนาห์ เอลลิส-ปีเตอร์เซน ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของการ์เดียน บอกเล่าถึงแนวความคิด “ซีสเตด” เอาไว้อย่างนี้ครับ

 

“เอลวอร์ทอว์สกี้ กับสุปราณี (ที่แชดเรียกขานในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “นาเดีย”) คือผู้บุกเบิกของขบวนการ “ซีสเตดดิง” ที่มีแนวคิดในจินตนาการว่าจะสร้างบ้านลอยน้ำและเมืองลอยน้ำขึ้นในทะเล นอกเขตอำนาจศาลของประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งทำให้พวกเขาไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐใดๆ และไม่ต้องชำระภาษีให้กับรัฐใดอีกด้วย”

เจ้าของแนวความคิดนี้คือกลุ่มนักลงทุนที่เรียกตัวเองว่า “โอเชียน บิลเดอร์ส” มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เผยแพร่แนวความคิดนี้ออกมาพักใหญ่แล้วครับ

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า จุดเริ่มต้นทำความคิดนี้ให้เป็นรูปธรรมจะอยู่ที่เมืองไทยเรานี่เอง

“แชด” กับ “นาเดีย” เป็นคู่รักกัน คนแรกเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ชาวอเมริกัน เคย “รับจ้าง” เป็นคู่สัญญาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ออกรบในสงครามอัฟกัน สงครามอิรัก เคยไปประจำอยู่ในฐานทัพสหรัฐอเมริกาทั้ง ในเยอรมนี และเกาหลีใต้

อีกคนเป็นคนไทย บรรยายถึงตัวเองไว้บนเฟซบุ๊กว่า เป็น “ผู้เชี่ยวชาญบิตคอยน์, เทรดเดอร์, เชฟ, นักบุกเบิกซีสเตด, อาสาสมัครอนุรักษ์ธรรมชาติ”

ทั้งคู่เป็น “เจ้าของ” ซีสเตดหลังแรกของโลก ที่มีคนอื่นลงทุนสร้างแล้วมอบให้ทั้งคู่ได้อยู่อาศัย ทั้งสองจึงเหมือนกับ “มีส่วนร่วม” อยู่ใน “โอเชียนบิลเดอร์ส” อยู่ด้วยแม้จะไม่ได้เป็น “นักลงทุน” ก็ตามที

 

ริชาร์ด เออร์ลิค ผู้สื่อข่าวอเมริกันมือเก๋า ซึ่งมีโอกาสได้โทรศัพท์พูดคุยกับแชด แล้วนำมาบอกเล่าเอาไว้ในเอเชียไทม์สว่า แชดกับนาเดียเคยไปใช้ชีวิตอยู่บน “ซีสเตด” ที่ได้รับมอบมา 10-20 วัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นทั้งคู่มาใช้บ้านในจังหวัดภูเก็ตเป็นที่พักอาศัย ในขณะที่เว็บไซต์โอเชียนบิลเดอร์ส ระบุเอาไว้ว่า แชดและนาเดียคือ “ซีสเตดเดอร์” คู่แรกของโลก และประกาศขายโครงการ “บ้านลอยน้ำ” ทั้งที่เป็น “บ้านเปล่า” ในสนนราคา 150,000 ดอลลาร์ กับที่เป็น “ซีสเตด” ที่ตกแต่งครบครัน มีทั้งห้องครัวชั้นดี, น้ำ, ระบบไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ฯลฯ ในสนนราคา 200,000 ดอลลาร์ หรือราว 6.4 ล้านบาท

แล้วก็บอกไว้ด้วยว่า ใครอยากรู้วิธีบริหารจัดการซีสเตด ก็สามารถเรียนรู้ได้จากแชดกับนาเดียเลย

ฮันนาห์บอกเอาไว้ว่า มีคนสนใจจะ “ลงทุน” กับโอเชียนบิลเดอร์สแล้ว 70 ราย เออร์ลิคบอกว่า โอเชียนบิลเดอร์สกำหนดจะเปิดตัวโครงการในวันที่ 15 เมษายน แต่แล้วก็เกิดกรณีขึ้นกับทางการไทย

โอเชียนบิลเดอร์สบอกว่า “ซีสเตด” ของตนจะตั้งอยู่ห่างจากเกาะของไทยที่ใกล้ที่สุด 13 ไมล์ทะเล ซึ่งอยู่นอกเหนือพื้นที่ทะเลอาณาเขตของไทย ซึ่งจำกัดอยู่ที่ 12 ไมล์ทะเล

 

แต่ทางการไทยไม่เห็นด้วย และเชื่อว่าที่ตั้งของซีสเตดของแชดและนาเดียอยู่ภายในทะเลอาณาเขตของไทย เมื่อไม่ได้ขออนุญาต จึงเท่ากับเป็นการกระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของไทยตามประมวลกฎหมายอาญา ที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิตไปจนถึงประหารชีวิต

แชด เอลวอร์ทอว์สกี้ ถูกถอนวีซ่า ชื่อถูกบรรจุไว้ในบัญชีดำของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ห้ามพำนักอยู่และห้ามเดินทางกลับเข้าประเทศไทยอีก ในขณะที่แชดบอกกับเออร์ลิคว่า อยากเข้าไปหลบภัยในสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อจดทะเบียนกับนาเดียแล้วจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วยกัน

หลังสุดทางการไทยเรียกร้องให้ทั้งสองออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นไปตามนั้น

เรื่องนี้ดูเหมือนยังไม่จบ และยังคงน่าสนใจอย่างยิ่งว่า นอกเหนือจากไทยแล้ว ประเทศทั้งหลายจะรับมือกับบรรดา “ซีสเตดเดอร์” เหล่านี้กันยังไง?