“จีน 5.0” ในวันนี้ที่น่าทึ่ง! ทำไมถึงมาไกลขนาดนี้ได้ ไปหาคำตอบ

“จีน 5.0”

เมืองชาวประมงแห่งหนึ่งในประเทศจีน

ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

ตั้งอยู่ทางตอนใต้ มีประชากรไม่มาก

วันหนึ่ง มีผู้นำประเทศคิดการใหญ่

อยากจะสร้างให้เป็นเขตทำมาหากินพิเศษ

มีหลายคนท้วงติง

ทำเพื่ออะไร จะได้ประโยชน์อะไร

แต่ผู้นำบอกว่า ทำเถอะ

ทดลองดู

ถ้าทำแล้วไม่ได้ดังใจหวัง

เราก็แค่เลิกทำ

เมืองประมงเล็กๆ ที่มีผู้คนไม่มาก

ตั้งอยู่ใกล้ทะเล มีอากาศอบอ้าวแห่งนี้

มีชื่อว่า…

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสไปร่วมสัมมนาวิชาการครับ

จัดโดยบริษัทที่สอนเรื่อง “ทักษะในศตวรรษที่ 21” ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ

มีชื่อว่า “สคูลดิโอ (Skooldio)”

ดร.ต้า วิโรจน์ ผู้ก่อตั้งบริษัท

จบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก

“เอ็มไอที (MIT)”

และเป็นอดีตนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ที่บริษัทเฟซบุ๊ก (Facebook) ประเทศอเมริกา

เขาเชิญผู้คร่ำหวอดในวงการเทคโนโลยีและการบริหารงานในยุคใหม่มาสิบกว่าท่าน

หนึ่งในนั้นคือ “ดร.อาร์ม” อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

มาบรรยายในหัวข้อ “จีน 5.0”

ล้ำกว่า “ไทยแลนด์ 4.0” ไป 1.0

หนึ่งในก้าวที่สำคัญของจีนในการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี

เกิดจากเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว

เรียกว่า “ปรากฏการณ์สปุตนิก” ของจีน

เอ๊ะ มันคืออะไรกัน

ใครพอจะคุ้นๆ ชื่อสปุตนิกบ้างครับ

คนได้คะแนนวิชาวิทยาศาสตร์เยอะ น่าจะพอจำได้iางๆ

ในปี 1957

สปุตนิก คือดาวเทียมดวงแรกของโลก

ที่ประเทศรัสเซียสามารถส่งไปโคจรในชั้นบรรยากาศได้สำเร็จ

ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริการู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

เก่งทุกอย่าง สงครามชนะทุกประเทศ

แต่แพ้ด้านเทคโนโลยีให้กับรัสเซีย

ปี 1961 จอห์น เอฟ. เคoเนดี้ ออกมาประกาศกร้าว

ขอเงินทุนสภาคองเกรสก้อนใหญ่

ก่อตั้งโครงการ “อพอลโลj”

เพื่อส่งคนขึ้นไปบน “ดวงจันทร์”

และพาเขากลับมาอย่างปลอดภัย

นาซjาได้ถูกก่อตั้ง

โครงการอวกาศนั้นได้เป็นที่มาของเทคโนโลยีมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอวกาศ หรือแม้แต่อินเตอร์เน็ตที่เราใช้กันทุกวันนี้ก็ตาม

เหตุการณ์สปุตนิกของประเทศจีนเกิดขึ้น

ในวันที่อัลฟาโกะ (Alpha Go) ของบริษัท “ดีพไมด์ (DeepMind)” ที่ได้เงินลงทุนจากบริษัท “กูเกิล”

คอมพิวเตอร์ที่เล่นโกะได้ราวกับมนุษย์

ท้าชิงแชมป์กับบุรุษชาวเกาหลี ที่ฝีมือโกะเป็นอันดับหนึ่งของโลก

นาม “ลี เซ โด”

วันที่ 15 พฤษภาคม ปี 2016

ลี เซ โด พ่ายแพ้ให้กับอัลฟาโกะอย่างราบคาบ

4 ต่อ 1 กระดาน

วันที่สายตาชาวจีนกว่า 280 ล้านคู่ จ้องมองที่จอทีวี

เฝ้าดูศาสตร์ของประเทศบ้านเกิด ที่มีมายาวนานกว่าพันปี

ศาสตร์ที่คนจีนเชื่อว่า ซับซ้อน มีจิตวิญญาณ

จนคอมพิวเตอร์ไม่สามารถจะเรียนรู้ เข้าถึงได้

วันนั้นคือปรากฏการณ์สปุตนิกของชาวจีน

ว่า ฉันจะต้องลุกขึ้นสู้

สร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)” ให้เป็นพันธกิจของประเทศ

ตั้งแต่วันนั้นมา

ประเทศจีนก็ออกมาประกาศวิสัยทัศน์ปี 2030

ว่าจะต้องเป็นมหาอำนาจทางด้าน “ปัญญาประดิษฐ์” ให้จงได้

ไม่ใช่แค่ภาครัฐที่ออกมาประกาศตัว

แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็น อาลีบาบา เท็นเซ็นต์ หรือไป่ตู้

ก็ล้วนให้ความสำคัญกับปัญญาประดิษฐ์ทั้งสิ้น

และด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาลที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตในโลกดิจิตอลของประชากร 2 พันล้านคนในประเทศจีน

ทำให้เด็กชายเอไอในประเทศจีนโตเร็วทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วในวันนี้

เมือง “ฉงอัน” ในมณฑลเหอเป่ย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ห่างไกลความเจริญ

ได้ถูกเลือกโดย “สี จิ้น ผิง”

สร้างให้เป็น “เมืองอัจฉริยะ” ใหม่ทั้งหมด

สร้างถนนที่เหมาะกับรถยนต์ขับเองได้

กล้องวงจรปิดที่จับทุกการเคลื่อนไหวของมนุษย์ เพื่อลดอาชญากรรม

ข้อมูลที่จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ให้ชีวิตผู้คนในเมืองดีขึ้น

เป็นตัวอย่าง “ความโหด” ของประเทศจีน

ซึ่งถ้าเอาจริง ก็ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มที่

ในขณะที่อเมริกายังหาเมืองที่ทดสอบ “รถยนต์ขับเองได้” ยังไม่ค่อยจะได้

เมืองจีนกลับจะสร้างเมืองใหม่ เพื่อทดสอบเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง

และยังมีอีกมากมายที่ยังไม่ได้เปิดเผย

แต่รับรองว่า เปลี่ยนโลกแบบ 5.0

เมืองชาวประมงที่ว่า

ถูกเปลี่ยนเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ชายแดนติดประเทศฮ่องกง

40 ปีต่อมาได้แปรเปลี่ยนเป็นซิลิคอน วัลเลย์ ของจีน

สวรรค์ของบริษัท “สตาร์ตอัพ” จากทั่วโลกที่อยากจะสร้างของที่เป็น “ฮาร์ดแวร์” จับต้องได้

เมืองแห่งนี้มีชื่อว่า “เซินเจิ้น”