ย้อนสัมพันธ์พี่-น้อง “บิ๊กป้อม-พี่แป๊ะ-น้องโจ๊ก” เปิดบันทึก “หวานเจี๊ยบ” ก่อนมรสุมกระหน่ำ “สุรเชษฐ์ หักพาล”

หมายเหตุ : บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19/04/2019

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 5 ปี ในของรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ภายใต้ภาพเต็มของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

อดีตนายตำรวจ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” คือจิ๊กซอว์ตัวสำคัญ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “โจ๊ก” มีบทบาทนายตำรวจประกบติดกาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอิทธิพลและบารมีคับ คสช. หัวหน้ารัฐบาลยังเกรงใจ

ทำให้ พล.ต.ท.สรุเชษฐ์มีบทบาทสำคัญ ยิ่งใหญ่ในแวดวงตำรวจ และเป็นคีย์แมนในเรื่องการเมือง!!

ผลกระทบจาก “คำสั่งย้าย” ดั่งฟ้าฟาด “บิ๊กโจ๊ก” ต้องระเห็จพ้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นข้าราชการพลเรือน สิ้นสภาพข้าราชการตำรวจ ถูกปลดจากทุกตำแหน่งที่เคยยิ่งใหญ่

ยุติบทบาทที่มีโอกาสได้โชว์ผลงานดั่งสมัยชีวิตขาขึ้น ย่อมทำให้บุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ “บิ๊กโจ๊ก” หายใจไม่ทั่วท้อง

ตราบใดที่ปมใหญ่ ซึ่งทำให้นายตำรวจเคยรุ่งดั่งดาวฤกษ์ผู้นี้ชะตาพลิกผันราวกับดาวตกจากฟ้า ยังไม่ถูกคลี่ออกมา ระหว่างนี้หลายคนคงนอนไม่หลับ

คําสั่งย้ายพ้นทัพตำรวจ พ่วงด้วยสั่งให้ตรวจสอบตามนัยคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 ทำให้สารพัดข่าวลือ สารพัดปมปัญหา ถูกกระพือในวงกว้าง หลายเรื่องที่เคยลือ ที่เคยอ้างว่ามีบิ๊กโจ๊กเข้าไปเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพล

ที่แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธเสียงแข็ง ก็ถูกหยิบตั้งเป็นขอสันนิษฐาน ทั้งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตลอดในยุคที่ พล.อ.ประวิตรกำกับดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีตัวละครสำคัญมากมายเกี่ยวข้อง เหล่าสีกากีจึงกำลังจับตาว่าจะนำไปสู่การรื้อคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย ล้างบาง เยียวยาครั้งใหญ่หรือไม่

รวมไปถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ที่เริ่มมีรายงานว่ามีการเตรียมการด้านเอกสารและข้อกฎหมายไว้แล้ว

หรือแม้แต่เรื่องการเข้าเป็นแบ๊กอัพในเรื่องการเมือง น่าจับตาสถานการณ์มีโอกาสเปลี่ยน

ห้วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีเสียงซุบซิบหนาหูในรั้วปทุมวัน มี พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ.

ต่อมาก็มี พล.ต.ท. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. พุ่งเป้ามาที่ “บิ๊กโจ๊ก” ผู้ยศน้อยแต่บารมีมาก

ซึ่งมีบิ๊กป้อมเป็นแบ๊กอัพ อีกเป้าคือ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร)

เรื่องนี้ในช่วงแรกๆ บิ๊กโจ๊กผู้น้องออกมาปฏิเสธ ยืนยันออกสื่ออย่างถ่อมตัว ตนไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่สำหรับบิ๊กแป๊ะออกอาการหงุดหงิดไม่น้อยกับเสียงซุบซิบนี้!!

เทียบรุ่นกันแล้ว “บิ๊กแป๊ะ” เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 36 รุ่นพี่ของบิ๊กโจ๊ก ห่าง 11 รุ่น เพราะบิ๊กโจ๊ก นรต.47 ความสัมพันธ์พี่แป๊ะกับน้องโจ๊ก ไม่ใช่แค่เพียงรุ่นพี่รุ่นน้อง นรต. แต่มากกว่านั้น อย่างหนึ่งคือค่ายเดียวกัน บิ๊กแป๊ะ บิ๊กโจ๊ก ต่างก็เป็นน้องรักบิ๊กป้อม บิ๊กแป๊ะคือ ผบ.ตร.ที่บิ๊กป้อมเลือกและผลักดัน บิ๊กโจ๊กคือนายตำรวจทีใกล้ชิดบิ๊กป้อม เชื่อ ไว้วางใจ และให้โอกาสมากมาย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อ “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ออร่าจับ เรียกว่าบารมีท็อปฟอร์มที่สุดในวงการตำรวจ “โจ๊ก” คือผู้ยิ่งใหญ่

แต่ก่อนจะยิ่งใหญ่ได้ใกล้ชิดบิ๊กป้อมด้วยพี่ชักนำ พี่น้องแป๊ะกับโจ๊ก ช่วยเหลือดูแลกันมา

โดยเฉพาะในสมัยบิ๊กแป๊ะต้องย้ายจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไปอยู่สงขลา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตอนนั้นเกือบวิกฤต

แต่แว่วกันว่าโจ๊กนี่แหละคือคีย์แมนที่มีส่วนช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ ตอบแทนดูแลกันมา

บิ๊กแป๊ะแต่งตั้งโจ๊กเป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่ วางหมากไว้ให้อย่างดี ดันขึ้นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ส่งต่อให้รับงานที่ได้โอกาส ดันอีกจนโจ๊กมีโอกาสติดยศนายพล ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้พี่แป๊ะ

เมื่อน้องเติบใหญ่ ในบารมีในความสัมพันธ์ก็เริ่มมีข่าวลือ “ร้าว” แต่ว่ากันว่าก็มีบิ๊กป้อมเป็นตัวประสาน

กลางเดือนธันวาคม 2561 “บิ๊กแป๊ะ” ควงคู่ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว กลับไปถิ่นเก่า จ.สงขลา ร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกสมเด็จพะโคะ (หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) รุ่นมหาลาภ แคล้วคลาด ปราบไพรี ทวียศ ณ วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา

ตอนนั้นมีภาพถ่ายงานพิธีออกมา ตำรวจกางร่มให้บิ๊กโจ๊กเดิน ส่วนบิ๊กแป๊ะเดินตากฝนปรอยๆ ไม่มีร่มให้กาง

สีกากีหยิบไปพูดอำต่อกันเป็นประเด็น “ใครใหญ่กว่าใคร” แต่หากใครที่รู้จักบิ๊กแป๊ะดี จะรู้นายตำรวจคนนี้ไม่ใช่เจ้ายศเจ้าอย่างและลุยมาก เรื่องกางร่ม ไม่กางร่ม ไม่ใช่ประเด็นเลย

แต่คงเพราะเรื่องนี้ “ปมเทียบบารมี” ถูกหยิบมาขยายอีกครั้ง ช่วงเย็นวันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กส่วนตัวของบิ๊กโจ๊ก “สุรเชษฐ์ หักพาล” ซึ่งถูกปิดไปพร้อมกับการปิดฉากของบิ๊กโจ๊กเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 ตอนนั้นมีการโพสต์ภาพและข้อความถึงนายตำรวจรุ่นพี่

“ถึง…พี่แป๊ะ

ชื่นชมในความเป็นพี่ ยกย่องในหน้าที่ผู้บังคับบัญชา

ครับ…คงทราบกันว่าข่าวคราวที่ออกมาเมื่อปีก่อน พูดกันถึงตำรวจยศ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ซึ่งแน่นอนว่า สื่อหลายสำนักชี้นำว่า พล.ต.ต. คนนั้นคือผม เพราะภาพที่เผยแพร่ออกสู่สายตาประชาชนมันสร้างความเข้าใจไปในทิศทางนั้น

พี่แป๊ะ หรือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คือรุ่นพี่ที่ผมเคารพรัก และเป็นต้นแบบตำรวจที่เพียบพร้อมหลายๆ ด้าน ใจถึงพึ่งได้ ทำงานเก่ง สมเป็นผู้บังคับบัญชาอีก 1 ท่าน ที่น่ายกย่อง

พี่แป๊ะดำรงตำแหน่งที่สำคัญในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมามากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นตำแหน่งหลักที่มุ่งพัฒนา บำบัดทุกข์ บำรุงสุขสู่ประชาชน

ณ วันนี้ กับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นความรับผิดชอบที่เหมาะสมลงตัว ด้วยนโยบายการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างเข้มข้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่แปลกอะไรที่ตำรวจไทยขยันขันแข็ง ลงพื้นที่กวาดล้างอาชญกรรม ขับเคลื่อนงานสุดขีดความสามารถ

“ภาพที่ไม่ต้องสร้าง” เรื่องจริงที่ต่างรู้กันอยู่แก่ใจ ความเคารพในฐานะผู้บังคับบัญชา และฐานะน้องร่วมสถาบัน ข่าวลือที่แพร่สะพัด จึงไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ใดๆ

ด้วยความเคารพรักอย่างสูง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. (น้องโจ๊ก)”

คือบันทึกข้อความหวานเจี๊ยบของ “น้องโจ๊ก” ในตอนนั้น

แต่ไม่มีใครการันตียืนยันความสัมพันธ์น้องพี่นั้นลึกๆ แล้วยังดีและซึ้งอยู่หรือไม่ เรื่องนี้อยู่ในใจ 2 นายตำรวจ

จากวันนั้นผ่านมาไม่ถึง 4 เดือน มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากมาย จนวันที่ 5 เมษายน 2562 บิ๊กแป๊ะเซ็นย้ายบิ๊กโจ๊กเข้ากรุ ศปก.ตร. ก่อนโดน ม.44 ย้ายพ้นจากความเป็นตำรวจ

กลายเป็นมรสุมลูกใหญ่ที่โถมใส่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล