อนุสรณ์ ติปยานนท์ : เก็บรักเดินฝ่าฟัน

รัก/หลง/เมือง (17)

“รู้ดี ว่าฉันไม่ควรที่จะรักเธอ อีกต่อไป

เข้าใจ ความรักของเรามันได้จบลง

และฉันคงไม่อาจจะฉุดจะรั้งและดึงเธอไว้

ยังไงก็คงไม่อยู่ แต่สิ่งสุดท้ายที่อยากให้รู้

สิ่งเดียวที่ฉันต้องการ

 

เก็บรักฉันไว้ในใจเธอก่อน

ฉันยังไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่

เก็บรักฉันไว้ที่เดิมจะได้ไหม

แม้ในตอนนี้เธอจะไปรักใคร

 

เก็บรักฉันไว้ในใจเธอก่อนนะ

ฉันยังไม่พร้อมจะเอามันกลับมา

และหากวันใดที่ใจเธออ่อนล้า

ได้โปรดจงรู้ว่าเธอยังมีฉัน

อยู่ตรงนี้ที่เดิมในใจ”

เก็บรัก – Ammy The Bottom Blues

 

สถานการณ์แปรเปลี่ยน เรื่องราวพลิกผัน อีกครั้งที่สิ่งที่ไม่ควรจะเกิดได้เกิดขึ้น อีกครั้งที่สิ่งไม่สมจริงแลดูสมจริงอย่างยิ่ง เขาเดินตามรถเข็นของหญิงสาวผู้นั้นไปที่ห้องพักผู้ป่วย พยาบาลหญิงสองคนยกร่างของเธอจากรถเข็นขึ้นวางบนเตียง จัดแจงร่างของเธอให้อยู่ในภาวะที่สบายที่สุด พวกเขาไขหัวเตียงให้สูงขึ้นเล็กน้อย แขวนน้ำเกลือที่ไหลเข้าร่างเธอไว้บนเสาสเตนเลสข้างเตียง

การดูแลผู้ป่วยแบบมืออาชีพแม้จะเป็นเพียงโรงพยาบาลเล็กๆ ประจำอำเภอ ตลอดเวลามือซ้ายของหญิงสาวผู้นั้นกุมอยู่ที่มือขวาของเขา มันอบอุ่น มันเป็นสิ่งที่อบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวในห้องอันหนาวเย็นด้วยเครื่องปรับอากาศห้องนั้น

เขามีคำถามนับร้อยนับพันอยากถามเธอ

เขามีสิ่งนับร้อยนับพันอยากกระทำกับเธอ

ความสมหวังมีลักษณะเช่นนี้เอง

ความสมหวังมีหน้าตาและอาการเช่นนี้เอง

มันหมดจด งดงาม ตื้นตัน และไร้ซึ่งแรงปรารถนาอื่นอีก

เมื่อสมหวังเสียแล้ว ความต้องการอื่นย่อมจากไปโดยปริยาย ไม่มีความเร่าร้อน ไม่มีความกังวลใจ

เขารักเธอ

นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้ดีแก่ใจนับแต่ต้น และเมื่อมองเข้าไปในสายตาของเธอ เขาก็รู้ได้ดีว่าเธอก็รักเขา

ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดและแสนอัศจรรย์

ความรักจากคนสองคน ความรักจากใจสองใจ ช่างให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดที่มนุษย์เล็กๆ อย่างเขาได้สัมผัสถึง

ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เขาอยู่ร่วมกับหญิงสาวคนหนึ่ง สัมผัสเธอ ครอบครองเธอ หญิงสาวที่งดงามกว่าหญิงสาวที่เขารัก

แต่เขากลับไม่มีความรู้สึกหรือประจักษ์ถึงความรู้สึกเช่นนี้เลย

ความรักสร้างความแตกต่างได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความรักเป็นปัจจัยเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างได้อย่างใหญ่หลวงจนไม่อาจหยั่งถึง

 

เข็มนาฬิกาจากนาฬิกาติดผนังเคลื่อนที่ผ่านไป เขาหลงลืมไปแล้วว่ามาที่นี่ทำไม

สิ่งใดนำเขามาที่นี่ หญิงสาวแปลกหน้า หญิงสาวผู้อ้างว่าเป็นภรรยาของเขา หญิงสาวผู้ซ้อนท้ายอยู่ด้านหลังรถมอเตอร์ไซค์

หญิงสาวผู้นอนบาดเจ็บอย่างเดียวดายอยู่ในห้องฉุกเฉินถูกเขาลืมเลือนไปจากความทรงจำอย่างช้าๆ ไม่มีแล้วการพบกันที่วัดอุโมงค์ ไม่มีแล้วความหวังที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน การได้ความรักมาทำให้เขาหลงลืมทุกสิ่งที่เคยเป็น ที่เคยมี

และเขาคงลืมเธอไป ถ้าพยาบาลจะไม่นำเธอเข้ามาในห้องด้วยรถเข็นก่อนจะนำร่างอันบอบช้ำของเธอวางลงบนเตียงถัดไป

หญิงสาวผู้นั้นอยู่ในสภาพที่บอบช้ำเป็นที่สุด แขนสองข้างของเธออยู่ภายใต้เฝือกสีขาว ขาข้างหนึ่งของเธอก็อยู่ภายใต้เฝือกสีขาวเช่นกัน

ขาอีกข้างถูกห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผลที่มีคราบเลือดซึมออกมา

พยาบาลค่อย นำขาข้างที่ใส่เฝือกของเธอสอดเข้าไปในห่วงที่แขวนกับฝ้าเพดาน

ไม่นานขาข้างนั้นของเธอก็แขวนลอยอยู่กลางอากาศ ร่างของเธอไม่ต่างจากหุ่นกระบอกที่มีรูปทรง รูปทรงที่แน่นอน แจ่มชัด รูปทรงที่จับต้องได้แต่ปราศจากเสียซึ่งวิญญาณ

 

ดวงตาของหญิงสาวผู้นั้นเหม่อลอย เธอจ้องมองไปที่ฝ้าเพดาน เขามองดูเธอในนาทีนี้ วินาทีนี้ เธอช่างแตกต่างอย่างมากจากหญิงสาวผู้สดใส ร่าเริง

เมื่อยามเช้าของวันนี้ ร่างของเธอดูบอบบางอ่อนแรง ไม่มีพลัง แตกต่างอย่างมากจากร่างของหญิงสาวที่ว่ายน้ำกลับไปกลับมารอบแล้วรอบเล่าในสระว่ายน้ำเมื่อยามบ่าย

สิ่งใดกันเล่า เหตุใดเล่าที่สร้างความแปรเปลี่ยนให้กับเธอได้มากมายถึงเพียงนี้

อุบัติเหตุหรือ ไม่น่าเป็นไปได้ แม้เธอจะบาดเจ็บอย่างหนัก แต่เธอเองมิใช่หรือที่เป็นผู้เดินเท้ามายังโรงพยาบาลแห่งนี้

ร่างกายของเธอแสดงออกถึงความเข้มแข็งที่จะรับมือกับความบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทุกประการ

ดังนั้น สิ่งเดียวที่สร้างความแปรเปลี่ยนแก่เธอไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นจากภายนอก สิ่งเดียวที่สร้างความแปรเปลี่ยนแก่เธอย่อมเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องใน

จิตใจของเธอ หัวใจของเธอ

 

จิตใจของเธอ หัวใจของเธอนั่นเอง มีบางสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจของเธออย่างรุนแรง สิ่งนั้นได้ดูดดึงเอาพลังชีวิตทั้งหมดของเธอให้สูญสิ้นไป ให้ปลาสนาการไป เขาแน่ใจ

ตลอดเวลาที่เขาจ้องมองหญิงสาวผู้นั้น มือของเขายังคงเกาะกุมที่หญิงสาวผู้ที่เขารัก ดูเหมือนเธอจะหลับลงแล้วด้วยความรู้สึกปลอดภัย ดูเหมือนเธอจะหลับลงแล้วท่ามกลางความรัก ท่ามกลางความห่วงใยที่เขามอบให้เธอ

หญิงสาวผู้นั้นไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว หญิงสาวผู้นั้นไม่มีอะไรต้องไหวหวั่น เธอมีคนรักอันได้แก่เขาเคียงข้าง เธอมีคนรักที่เป็นดังเทพคุ้มครองเธอ

แต่ห่างออกไปเพียงระยะทางเล็กน้อย หญิงสาวอีกคนที่ปราศจากเทพคุ้มครอง หญิงสาวอีกคนที่เดียวดาย ไม่อาจหลับตาของเธอลงได้ เธอกลายเป็นใครสักคนที่เจ็บป่วย มีบาดแผล ทุพพลภาพอยู่เพียงลำพังในเมืองอันโดดเดี่ยว ห่างไกลจากความเจริญ

เธอกลายเป็นใครสักคนที่พร้อมจะจากโลกนี้ไปด้วยความอ่อนแอ พังทลาย อย่างไร้ความหมายใดๆ อย่างไร้ความหมายใดๆ โดยสิ้นเชิง

อะไรกันเล่าที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้ เขาขบคิดกับตนเอง

ความรักอีกหรือ การปราศจากความรัก การปราศจากคนรักทำให้เธอจบสิ้นเช่นนี้ ทำให้เธอลงเอยเช่นนี้

เขาไม่อาจหาเหตุผลอื่นได้เลย

เขาเคยปราศจากความรักและเขาได้มีความรัก ดังนั้น เขาจึงเข้าใจความแตกต่างที่ว่านี้ดี

เธอถูกทอดทิ้งจากสิ่งที่เรียกว่าความรัก เธอถูกความรักผละจากไป สภาพของเธอช่างไม่ต่างจากเด็กน้อยที่ถูกตัดสายรกขาดจากมารดาก่อนเวลาอันควร เธอกลายเป็นทารกผู้อ่อนแอโดยพลัน ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงและคงต้องสิ้นใจในไม่ช้า

ใครเล่าที่พรากความรักไปจากเธอ ใครเล่าที่นำพาความรักไปจากเธอ ใครเล่าที่ทอดทิ้งเธอ ใครเล่า

 

เขานั่นเอง จู่ๆ เขาก็คิดได้ถึงคำตอบนี้ เขามิใช่หรือที่เดินตามเธอมาตลอดทาง เขามิใช่หรือที่เฝ้ารอเธออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เขามิใช่หรือที่รอเธอออกมาจากห้องห้องนั้นด้วยความหวัง รอเธอกลับไปสร้างครอบครัวด้วยกัน ครอบครัวที่เขาใฝ่ฝันจะมี ครอบครัวที่เขาอยากมีกับหญิงสาวผู้นั้น เพื่อที่ทั้งคู่จะได้มีความสุขชั่วกัลปาวสาน

เขานั่นเองที่ทอดทิ้งเธอด้วยคำทักทายเพียงคำเดียว เขาทอดทิ้งเธอด้วยรอยยิ้มเดียวจากหญิงสาวที่เขารัก เขาทอดทิ้งเธอด้วยความรัก เขาทอดทิ้งเธอในนามของความรัก

เขาจ้องมองดูดวงตาอันเหม่ลอยของเธอ มันแห้งผากแต่กลับมีคราบน้ำตา เธอมีน้ำตาเอ่อล้น น้ำตาที่ไม่ไหลออกมาเบื้องนอก เธอเก็บบางสิ่งไว้ข้างใน

เธอเก็บบางสิ่งไว้ข้างในตัวเธอ

เธอเก็บบางสิ่งไว้ในหัวใจของเธอ หัวใจอันบอบช้ำของเธอ

-สิ่งที่เรียกว่าความรัก สิ่งที่มีนามว่าความรัก-