ค่ายมือถือแข่งดุ ชิงลูกค้าส่งท้ายปี “ดีแทค” คืนเวที แลกหมัด “เอไอเอส-ทรู”

ศึกชิงลูกค้าในสมรภูมิธุรกิจโทรศัพท์มือถือร้อนแรงต่อเนื่องมาโดยตลอด ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา และเพิ่มดีกรีดุขึ้นมาอีกในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมือวางอันดับ 2 อย่าง “ดีแทค” ได้กลับเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมา ปล่อยให้เบอร์ 3 (ทรูมูฟ เอช) ซัดกับเบอร์หนึ่ง (เอไอเอส) ไล่เก็บฐานลูกค้ากันไปมา เริ่มจากการหั่นราคาเครื่องบิ๊กแบรนด์อย่าง “ไอโฟน” แบบยกแผง ไม่เฉพาะรุ่นเก่าๆ แต่รวมถึงรุ่นใหม่เอี่ยมอย่าง “ไอโฟน 7” ด้วย

นาทีนี้คงต้องบอกว่า “เอไอเอส-ดีแทค-ทรูมูฟ เอช” ไม่มีใครยอมใคร

 

ไล่เรียงมาตั้งแต่ พี่ใหญ่เจ้าของตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่ง “เอไอเอส” ด้วยจำนวนฐานลูกค้า (ณ ไตรมาส 3/2559) ที่ 39.9 ล้านเลขหมาย

มาพร้อมโปรโมชั่น “AIS Hot Deal” ลดราคาเครื่องไอโฟน 7 ตั้งแต่ 3,000-8,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่, เปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน และลูกค้าปัจจุบันในระบบรายเดือน

เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าเป็นลูกค้าที่เปลี่ยนใจมาจากคู่แข่ง โดยใช้สิทธิย้ายค่ายเบอร์เดิม “เอไอเอส” ลดราคาเพิ่มให้อีก 1,000 บาท เป็น 9,000 บาท

ส่วนต่างของค่าเครื่องที่ลดลงระหว่าง 3,000-9,000 บาท มาจากแพ็กเกจค่าบริการรายเดือนที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เอง เช่น ถ้าเลือกแพ็กเกจ 599 บาท/เดือน จะลดราคาให้ 3,000 บาท

เช่น ไอโฟน 7 (32GB) ปกติ 26,500 บาท ลดเหลือ 23,500 บาท (ต้องชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท และได้หักเป็นส่วนลดค่าบริการ นาน 10 เดือน) หรือถ้าเลือกแพ็กเกจ 899 บาท/เดือน จะได้ส่วนลดค่าเครื่อง 6,000 บาท เป็นต้น

ประมาณว่า ถ้ายอมจ่ายค่าบริการรายเดือนแพงก็จะได้ซื้อเครื่องราคาถูกกว่า

ฟาก “ดีแทค” ก็ทำนองเดียวกัน มีส่วนลดค่าเครื่องตั้งแต่ 1,600-6,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่, เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน และลูกค้าปัจจุบันในแบบรายเดือน แต่ถ้าย้ายค่ายเบอร์เดิมมาจะได้ส่วนลดเพิ่มถึง 1,500 บาท เช่น ไอโฟน 7 (32GB) ราคาปกติ 26,500 บาท ลดเหลือ 24,500 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ 999 บาท/เดือน ไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า แต่ถ้าเลือกจ่ายค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท จะลดค่าเครื่องให้ 6,000 บาท เหลือ 20,500 บาท เป็นต้น

สำหรับ “ทรูมูฟ เอช” ลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่, เปลี่ยนจากเติมเงินมาเป็นรายเดือน และลูกค้าปัจจุบันแบบรายเดือน จะมีส่วนลดค่าเครื่องไอโฟน 7 เริ่มต้นที่ 3,000 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจรายเดือน 699 บาท สูงสุด 8,000 บาท จาก 26,500 บาท (32GB) เหลือ 18,500 บาท เมื่อชำระค่าเครื่องล่วงหน้า 4,000 บาท และซื้อพร้อมแพ็กเกจ 1,099 บาท/เดือน

และถ้าย้ายค่ายมาจากคู่แข่ง ลดเพิ่มให้อีก 1,000 บาท

 

เทียบกันเฉพาะส่วนลดค่าเครื่อง “เอไอเอส และทรูมูฟ เอช” จะให้ส่วนลดสูงสุดเท่ากันที่ 8,000 บาท ในลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่ และใช้บริการอยู่เดิม ทั้งเพิ่มเติมอีก 1,000 บาทเหมือนกันในลูกค้าที่ย้ายค่ายมา ขณะที่ “ดีแทค” ลดค่าเครื่องให้สูงสุดที่ 6,000 บาท แต่เพิ่มเติมส่วนลดให้ลูกค้าที่ย้ายค่ายมากกว่า

อย่างไรก็ตาม เทียบแค่ส่วนลดค่าเครื่องอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะแพ็กเกจรายเดือนที่แต่ละค่ายนำมาขายคู่กับเครื่องที่ลดราคามีความแตกต่างกัน เช่น แพ็กเกจรายเดือนขั้นต่ำของเอไอเอสจะอยู่ที่ 599 บาท แต่ทรูมูฟ เอช เริ่มที่ 699 บาท เป็นต้น

แต่สิ่งที่ “ดีแทค” มีต่างไปจากค่ายอื่น คือ มีสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เรียกว่า “UP” เมื่อใช้งานครบ 1 ปี จะได้รับ “ไอโฟน” เครื่องใหม่ให้ฟรีๆ มูลค่า 26,500 บาท หรือเลือกรับส่วนลด 13,250 บาท

ไม่ใช่แค่นั้น พลันที่รัฐบาลมีโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ดีแทคเป็นค่ายแรกที่ประกาศตัวเข้าร่วมก่อนใครเพื่อน

โดย นางสาวปริศนา รัตนสุวรรณศรี ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคต้องการตอบสนองนโยบายรัฐบาลเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปีในแคมเปญ “ช็อปช่วยชาติ” จึงมีสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าเพื่อเข้าร่วมในโครงการนี้ โดยสามารถลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ถึง 15,000 บาท ด้วยการนำสมาร์ตโฟนแบรนด์ดังหลายรุ่นมาลดราคาสูงสุดถึง 10,000 บาท

“ลูกค้าสามารถรับใบกำกับภาษีได้ทันที ณ จุดขาย ทั้งลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่จะได้รับเน็ต 4G เพิ่มฟรี 48GB เมื่อสมัครแพ็กเกจรายเดือน Super NON-STOP, เต็ม MAX หรือ Tablet NON-STOP ตั้งแต่ 599 บาทเป็นต้นไป และเลือกชำระด้วยเงินผ่อน ผ่านบัตรเครดิต 0% ได้นานสูงสุด 24 เดือนอีกด้วย”

สำหรับสมาร์ตโฟนราคาพิเศษที่ดีแทคจัดไว้ให้เข้าร่วมในโครงการนี้ นอกไปจากไอโฟนแล้วก็มีแบรนด์อื่นๆ ด้วย อาทิ ซัมซุง แกแล็คซี่ S7, S7 Edge, Note 5 (64GB), A9 Pro มีส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท, หัวเว่ย Mate 9, P9, P9 Plus รับส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท, โซนี่ Xperia, X Performance, XA Ultra, X Compact รับส่วนลดสูงสุด 10,500 บาท เป็นต้น

 

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า การแข่งขันด้านราคาจะยังคงรุนแรงไปอีกสักระยะ

แต่เมื่อเครือข่าย 4G ของเอไอเอสมีพื้นที่ครอบคลุม 98% ของประชากรในสิ้นปีนี้ เชื่อว่าดีกรีการแข่งขันด้านราคาจะลดลง

เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับการที่เอไอเอสประมูลคลื่น 900MHz รอบแรกไม่ได้ทำให้การขยายเครือข่ายล่าช้าออกไป

แม้จะประมูลคลื่นในรอบถัดมาได้ก็เป็นช่องโหว่ให้คู่แข่งที่มีความพร้อมมากกว่าใช้กลยุทธ์ด้านราคาออกมาดึงลูกค้า

“ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายของเอไอเอส หลังจากสัมปทานคลื่น 900 หมดอายุ และเราไม่สามารถชนะประมูลคลื่นในรอบแรกเพื่อนำมาให้บริการต่อได้จึงทำให้มีปัญหาตามมามากมาย แม้ในภายหลังจะชนะประมูลรอบใหม่ได้คลื่นมาก็ตาม แต่ก็เป็นช่องโหว่ให้คู่แข่งเข้ามาได้ แต่เมื่อเครือข่าย 4G ของเราครอบคลุม 98% เท่ากับ 3G แล้ว เชื่อว่า การแข่งขันด้านราคาน่าจะลดความรุนแรงลง เนื่องจาก ไม่มีช่องว่างให้คู่แข่งแย่งลูกค้าไปได้ เพราะราคาค่าบริการ ไม่ใช่สิ่งที่แต่ละค่ายมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าค่าบริการโมบายอินเตอร์เน็ตโดยเฉลี่ย ได้มีการปรับลดราคาลงกว่า 30-40%”

ในปีหน้า สมรภูมิมือถือจะลดดีกรีแข่งดุ ด้าน “ราคา” ลงอย่างที่พี่ใหญ่ “เอไอเอส” คาดการณ์ไว้หรือไม่ คงต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อนถึงจะรู้

แต่ถ้าดูจากอดีตที่ผ่านมา ไม่ใครก็ใครต้องมีสักรายเริ่มเปิดเกมก่อนแล้วรายอื่นๆ ก็จะตามๆ กันมาทุกครั้งไป