ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 เมษายน 2562 |
---|---|
เผยแพร่ |
โฟกัสพระเครื่อง/ โคมคำ [email protected]
ต้นตำรับตะกรุดโลกธาตุ
หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
อดีตพระเกจิเมืองกาญจน์
“หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ” หรือหลวงพ่อเฒ่ายิ้ม เป็นพระเถราจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว (วัดศรีอุปลาราม) ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่ผู้เลื่อมใสศรัทธามาก
เป็นพระเกจิต้นตำรับตะกรุดโลกธาตุอันลือเลื่อง และผู้สร้างพระปิดตา ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาวงการพระ
นอกจากนี้ วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังทุกประเภท ก็ล้วนเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่นิยมสะสมและแสวงหามาตั้งแต่อดีตสืบมาถึงปัจจุบัน แต่ก็หายากยิ่งนัก ว่ากันว่ามีดหมอประจำพระองค์กรมหลวงชุมพรฯ ก็เป็นของท่านด้วย
ยังมีเครื่องรางที่ได้รับความนิยมสูงสุดอีกประเภทหนึ่ง คือ ตะกรุดลูกอม ที่เรียกกันว่า “ตะกรุดโลกธาตุ” ซึ่งถือเป็นต้นตำรับการสร้างตะกรุดลูกอมโลกธาตุของเมืองไทย
ตะกรุดโลกธาตุ เป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้พกติดตัว หลวงปู่ยิ้มจะลงด้วยหัวใจโลกธาตุ “อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ อัตตะภาเทวนัง นาทุยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ” และกลึงปิดหัวท้ายพระยันต์ด้วยยันต์ใบพัด
วัสดุที่ใช้ทำจะเป็นโลหะ ทองคำ เงิน นาค หรือทองแดง ซึ่งต้องมีน้ำหนัก 1 สลึง ยาวขนาด 7 ใบมะขามเรียกว่า สัตตะโพชฌงค์ 7
เป็นที่กล่าวขานกันว่า เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เมื่อถึงคราวคับขันจวนตัวจะถูกทำร้าย ให้กลืนเข้าไปในท้อง จะสามารถล่องหนหายตัวและป้องกันอันตรายได้ทุกประการ
อีกทั้งตะกรุดนี้ เชื่อว่าสามารถออกมาจากร่างกายได้เอง โดยให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนอน รุ่งขึ้นตะกรุดจะออกมาปรากฏอยู่ข้างตัว โดยจะไม่ออกทางทวารเบื้องต่ำเด็ดขาด
บรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม มีจำนวนน้อยมากที่เรียนจบวิชาคาถาหัวใจโลกธาตุ เล่ากันว่าลูกศิษย์ที่เรียนวิชานี้จบครบสูตร และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป คือ พระราชมงคลวุฒาจารย์ หรือหลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ วัดเสด็จ จ.สมุทรสาคร
ซึ่งต่อมาก็ได้สร้างตะกรุดลูกอมเช่นเดียวกับหลวงปู่ยิ้ม ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และได้รับความนิยมสูงเช่นกัน
ชาติภูมิ หลวงปู่ยิ้ม เป็นชาววังด้ง จ.กาญจนบุรี เกิดปีมะโรง เดือนห้า วันอังคาร พ.ศ.2387 ครอบครัวประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ล่องไปขายที่ปากอ่าวแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม
เมื่อวัยเด็กมีอุปนิสัยใจคอเป็นคนเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ เป็นนักเลง พูดจริงทำจริง เด็กรุ่นเดียวกันหรือแก่กว่ายอมยกให้เป็นลูกพี่ ท่านเป็นกำลังช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ล่องไปขายทางปากอ่าว จนคุ้นเคยกับชาวแม่กลองเป็นอันดี
อุปสมบทที่วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี มีพระอาจารย์กลีบ วัดหนองบัว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์แดง วัดเหนือ และพระอาจารย์อินทร์ วัดทุ่งสมอ เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า จันทโชติ
เมื่อบวชเรียนแล้วเรียนอักษรขอม ภาษาบาลี มงคลทีปนี มูลกัจจายน์ พระมาลัย พระเจ้า 10 ชาติ ท่องสูตรสนธิจนช่ำชอง สามารถท่องจำพระปาฏิโมกข์สวดได้แต่พรรษาที่ 2
เรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ดีเชี่ยวชาญวิทยาคมหลายท่านด้วยกัน อาทิ หลวงพ่อพระปลัดทิม วัดบางนางลี่น้อย อ.อัมพวา, หลวงพ่อพ่วง วัดปากสมุทรสุดคงคา, หลวงพ่อกลัด วัดบางพรม อัมพวา และหลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่ อัมพวา
เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวต่อจากหลวงพ่อกลิ่น ท่านได้ปฏิบัติทางวิปัสนาธุระจนมีชื่อเสียง และเป็นอาจารย์สอนทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน
ต่อมาท่านได้สร้างเครื่องรางเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก หนึ่งในเครื่องรางที่มีชื่อเสียงของท่าน คือ ตะกรุดลูกอม หรือ “ตะกรุดโลกธาตุ” เป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้พกติดตัว เมื่อถึงคราวคับขันจวนตัวให้กลืนเข้าไปในท้อง จะเป็นล่องหนหายตัวป้องกันอันตรายได้ทุกประการ
ตะกรุดนี้เชื่อว่าสามารถออกมาจากร่างกายได้เอง โดยให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนอน รุ่งขึ้นตะกรุดก็จะออกมาปรากฏอยู่ข้างตัว โดยจะไม่ออกทางทวารเบื้องต่ำเด็ดขาด
จึงเรียกว่าตะกรุดลูกอม ลงด้วยหัวใจโลกธาตุ คือ “อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ อัตตะภาเวนัง นาทุยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ” เป็นคาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกรมในเมล็ดพันธุ์ผักกาด ทำด้วยทองคำ เงิน หรือทองแดง ต้องมีน้ำหนัก 1 สลึง ยาวขนาด 7 ใบมะขามเรียกว่า สัตตะโพชฌงค์ ตะกรุดโลกธาตุมีชื่อเสียงปรากฏทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังทำพระปิดตาและพระผงยืนห้ามญาติด้านหลังมียันต์อกเลา พระผงแบบนั่งสมาธิ สมเด็จเล็บมือ พระผงปางห้ามญาติ และเชือกคาดเอว
เกียรติคุณของหลวงปู่ยิ้มเป็นที่เลื่องลือไปหลายหัวเมือง ทั้งเจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ
แม้แต่หลวงปู่ศุข แห่งวัดมะขามเฒ่า ยังเคยธุดงค์มาอยู่จำพรรษาที่วัดหนองบัว เพื่อแลกเปลี่ยนสรรพวิชากัน
หลวงปู่ยิ้ม มีอุปนิสัยสันโดษ ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง ท่านเป็นเจ้าคณะตำบลและเป็นพระอุปัชฌาย์ มีคนบวชกับท่านเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญท่านได้ถ่ายทอดไสยเวทวิทยาคมให้กับลูกศิษย์ในยุคต่อมา จนกลายเป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อเหรียญ วัดหนองบัว, หลวงปู่ดี วัดเทวสังฆาราม, หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ, หลวงพ่อสอน วัดลาดหญ้า เป็นต้น
มรณภาพลงอย่างสงบ พ.ศ.2453 สิริอายุ 66 ปี พรรษา 46
ตำรับตำราต่างๆ เป็นมรดกตกทอดมาถึงเจ้าคุณพระโสภณสมาจาร (เหรียญ) วัดหนองบัว และสานุศิษย์ที่สืบทอดวิชาได้สร้างเครื่องราง เจริญรอยตามแบบท่านสืบมาจนถึงกาลปัจจุบัน