บนเวทีประกวดนางงามหลายเวที นอกจากความสวยของนางงามแล้ว ความคิดอ่านของนางงามก็มีส่วนในการตัดสิน

มิกิ ทาคาราอิชิ (มิเรอิ คิริทานิ) ผู้ชนะเลิศการเข้าประกวดนางงาม เมื่อเธอต้องกล่าวขอบคุณในฐานะผู้ชนะที่สวยที่สุด มิกิกลับพูดยกย่องตัวเองและดูถูกผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ แทนที่จะได้รับเสียงตบมือด้วยความยินดี จึงมีแต่เสียงโห่ไล่ จนงานกร่อย

ยูกะ ไซโตะ (โช คิโยฮาระ) แฟนหนุ่มที่มาร่วมยินดี เป็นทายาทนักการเมือง ครอบครัวเป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง มิกิฝันหวานและคาดหวังว่าจะได้แต่งงานกับยูกะ

หากสิ่งที่มิกิคาดหวัง กับความเป็นจริงกลายเป็นคนละเรื่องกัน ยูกะทายาทนักการเมืองนิสัยไม่ดี คงเหมือนทายาทนักการเมืองที่เราพบเห็นในเมืองไทย แถมยังเจ้าชู้มีผู้หญิงหลายคน และผู้หญิงบางคนท้องกับยูกะ โดยที่เขาไม่สนใจ

มิกิผู้ทะนงตน ภูมิใจในความสวยของตัวเองอย่างมาก ไม่คิดว่าจะโดนเทแบบนี้

การแก้แค้นเอาคืนได้สำหรับมิกิสาวมั่นคนนี้ มีเพียงหนทางเดียว คือการลงสมัครเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีเพื่อแข่งขันกับยูกะ ไซโตะไอ้คนเลว!

 

คนธรรมดา อยู่ๆ จะมาเล่นการเมืองเพื่อเป็นนักการเมือง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีพี่เลี้ยง (Coach) เหมือนพี่เลี้ยงนางงาม มิกิจึงขอความช่วยเหลือจากนากิโกะ คิซารากิ (ยูกิ ไซโตะ)

ผู้บริหาร หรือซีอีโอหลายท่านยังต้องมีพี่เลี้ยงที่เรียกว่า “Life Coach” เป็นผู้ชี้แนะให้คำปรึกษาหรือแนวทางในการแก้ปัญหา

สำหรับนักการเมือง ยังต้องฝึกหลักสูตรการรับใช้มวลชนที่เรียกว่า “Servant Leadership” เพื่อให้เป็นผู้นำที่มีจิตวิญญาณของการรับใช้และบริการ หากเป้าหมายที่แท้จริง คือเป็นผู้นำผู้สั่งการ แต่ด้วยการใช้ใจสั่งการ!

นากิโกะผู้มากความสามารถ บุคลิกดี เป็นทีมงานของชิกิรุ ไซโตะ (ชินยะ โอวาดะ) นักการเมืองรุ่นเก๋าพ่อของยูกะ ไซโตะ แต่เพราะเอือมระอากับพฤติกรรมของพ่อลูกคู่นี้ จึงคิดว่ามาช่วยมิกิน่าจะดีกว่า อย่างน้อยมิกิยังเป็นผ้าขาว ซึ่งน่าจะจัดแต่งแต้มได้งดงามกว่า

นักการเมืองต้องมีวินัยและเชื่อพี่เลี้ยง ก่อนจะพูดหรือให้สัมภาษณ์ต่อสื่อสาธารณะ ไม่ว่าที่ไหนเมื่อใด ต้องมีการเตรียมพร้อม ไม่ใช่ใช้อารมณ์พูด หรือพูดผิดเป็นประจำ พูดไปแล้วค่อยมาขอโทษ หรือใช้คนอื่นขอโทษ ถ้าต้องขอโทษกันบ่อยๆ คำพูดนั้นๆ คงไม่มีความหมาย และหมดความเชื่อถือ

นากิโกะมอบหมายให้โทชิยะ คาโดวากิ (โนบุยูกิ ซูสุกิ นักแสดงหนึ่งในกลุ่ม Gekidan EXILE) มาคอยดูแลมิกิในทุกๆ เรื่อง

 

แรกๆ โทชิยะไม่มีความเชื่อถือมิกิ และไม่คิดว่ามิกิจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้ แต่เมื่อเขาให้มิกิทำในสิ่งที่เขาแนะนำ มิกิจะตั้งใจทำ แม้แต่การโพสต์สื่อโซเชียลเพื่อทำให้มียอดผู้ติดตามเป็นหลักแสน มิกิก็ทำได้สำเร็จ

นักการเมืองฝึกหัดอย่างมิกิ ต้องพบปะผู้คนมากมาย ทั้งเด็กๆ จนถึงคนแก่ เดิมทีมิกิคงเพียงคิดแก้แค้น แต่เมื่อได้ไปสัมผัสผู้คนและปัญหาต่างๆ ที่พบเจอ กลายเป็นว่าสิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมความคิดของเธอให้ตกตะกอน จนเข้าใจชีวิตและมวลชน

สิ่งที่เธอทำจึงออกมาจากใจจริง ไม่ได้เสแสร้ง

เพราะมิกิเป็นนักการเมืองมือใหม่ จึงคงถูกยูกะหลอกลวงได้ซ้ำๆ อีก การไปพบปะกันเอง โดยไม่บอกโทชิยะ จึงสร้างปัญหาให้เธอกับทีมงานต้องตามแก้ปัญหา และวางกลยุทธ์ใหม่เพื่อปูทางให้มิกิชนะการเลือกตั้งให้ได้

นักการเมืองมือใหม่ ย่อมตามไม่ทันเล่ห์กลของนักการเมืองเลวในสายเลือด อย่างที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆ สามารถทำอะไรก็ได้ พูดในสิ่งที่บิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างภาพให้ตัวเอง หรือสาดโคลนคู่แข่งขันเพื่อสร้างคะแนนให้ตัวเอง

สร้างความเชื่อถือเหมือนสุภาพบุรุษ แต่เบื้องหลังกลับดูถูกเย้ยหยันในความจริงใจของคู่แข่ง

 

Revenge Girl ภาพยนตร์ญี่ปุ่นฉายปี 2017 สร้างจากหนังสือนิยายเรื่อง “Ribenji Girl” ของนักเขียนอิริกะ โยชิดะ และโทโทฮิเดะ คิโยชิ สำนักพิมพ์โคโดคาวะ กำกับฯ โดยโคอิชิโระ มิกิ

มิเรอิ คิริทานิ นางเอกหุ่นบอบบาง ดูราวจะปลิวไปกับสายลม แรกๆ ดูขัดๆ แต่เมื่อดูๆ ไป เธอมีพัฒนาการที่ดี มีมาดดีและบุคลิกที่พร้อมจะเป็นนักการเมืองได้

ชอบพระเอกเท่มาดนิ่งโนบุยูกิ ซูสุกิ เหมาะกับบทพี่เลี้ยงนักการเมือง เป็นติวเตอร์สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ซึ่งต้องทำงานการเมืองเพื่อประชาชนอย่างจริงใจและจริงจัง

ภาพยนตร์เหมือนดูแค่สนุกให้ความบันเทิง หากให้มองเห็นภาพของนักการเมือง กับสภาพการแข่งขันการเลือกตั้ง ซึ่งแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น ก็ดูไม่แตกต่างกับประเทศไทย

อย่างไรก็ดี คนญี่ปุ่นยังได้เลือกตั้ง และนักการเมืองต้องสมัครลงแข่งขันเลือกตั้ง ไม่ใช่จับสลากหรือถูกเชิญเข้ามา แล้วมาชี้หน้าด่าคนไปทั่ว!!!