เอ็มจี “ZS” อินเตอร์เน็ตเอสยูวี “รถอัจฉริยะ” สุดล้ำ-รุ่นแรกของโลก

สันติ จิรพรพนิต
AFP PHOTO / TANG CHHIN SOTHY

ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ…บอกเลย

กับการก้าวล้ำไปอีกขึ้นของแบรนด์ “เอ็มจี” (Morris Garages) ยอดรถจากแดนผู้ดี อังกฤษ ซึ่งอยู่ใต้ร่มเงาของ “บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น” (เอสเอไอซี) ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน

คนไทยเราคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ดี เนื่องจากเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนกับ “เครือซีพี” ตั้งบริษัท “เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี” และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

เอ็มจี ทำคลอดรถหลากเซ็กเมนต์ทำตลาดในเมืองไทยหลายรุ่น ที่คุ้นหน้าคุ้นตาและเป็นรถธงไม่พ้น “เอ็มจี 3” เก๋งเล็ก หรือ “เอ็มจี 5” ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย และ “เอ็มจี จีเอส” สปอร์ตเอสยูวี

ล่าสุดเพิ่งอวดโฉม “เอ็มจี จีเอส” เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ในราคาที่ถือว่าน่าคบหาทีเดียว

“เอ็มจี” สร้างความมั่นใจให้คนไทยด้วยการตั้งโรงงานผลิตขนาดใหญ่เบิ้มที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.ชลบุรี ผลิตรถป้อนตลาดไทยและอาเซียน

ขณะที่เอสเอไอซี ยังถือว่าเป็นขาใหญ่ของวงการรถยนต์แดนมังกร มีโรงงานผลิตรถขนาดใหญ่หลายแห่ง และร่วมทุนกับยอดรถจากอเมริกาอย่าง “เจเนอรัล มอเตอร์” หรือจีเอ็ม

ตลาดในจีนนั้น โรงงาน “เอสเอไอซี-จีเอ็ม” ผลิตรถเกือบทุกแบรนด์ของจีเอ็ม ไม่ว่าจะเป็นเชฟโรเลต, บิวอิคก์, คาดิลแลค, ฮัมเมอร์ ฯลฯ

นอกจากนี้ เมื่อซื้อแบรนด์ “เอ็มจี” มาจากอังกฤษก็เริ่มทำตลาดหนักขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการพัฒนารถให้ร่วมสมัยมากขึ้น

รถโฉมใหม่ของเอ็มจี ที่เปิดตัวในงาน “กวางโจว มอเตอร์โชว์” ที่ผ่านมา และสร้างกระแสได้ไม่น้อยคือ “MG ZS” ที่ประกาศว่าเป็น “อินเตอร์เน็ตเอสยูวี” รุ่นแรกของโลก

mg

“MG ZS” ออกแบบภายนอกที่เน้นความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว เปิดตัวคอนเซ็ปต์การออกแบบใหม่ “การออกแบบที่สื่อถึงอารมณ์และความรู้สึก” (sensibility design) ผสานแนวคิดการออกแบบตามความนิยมในปัจจุบัน ทำให้ MG ZS มาพร้อมสไตล์ที่เป็นสากลสำหรับคนเจเนอเรชั่นใหม่

ออกแบบที่สอดคล้องกับสไตล์ยุโรปคลาสสิค เส้นสายเน้นความสง่างามและหรูหรา

กระจังหน้าขนาดใหญ่สะดุดตา กรอบไฟที่ได้แรงบันดาลใจจากชิงช้ายักษ์ ลอนดอน อาย (London eyes) กรอบไฟท้ายขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากไฟประภาคาร

ส่วนท้ายรถมีความแข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยพละกำลัง การออกแบบด้านข้างด้วยเส้นสายที่ชัดเจนและลื่นไหลให้ความรู้สึกที่ปราดเปรียว

แนวกระจกด้านท้ายรถที่ลาดเอียง จะเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของรถยนต์เอ็มจีในอนาคต

หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ที่มีขนาดกว้าง 870 ม.ม. ยาว 1,365 ม.ม. มีพื้นที่เปิดกว้างถึง 0.83 ตารางเมตร โดยระยะการเปิดอยู่ที่ 695 ม.ม. ซึ่งกว้างที่สุดในเซ็กเมนต์เดียวกัน

ใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีใหม่จาก “เอสเอไอซี เน็ตบลู” (Net Blue) มีให้เลือก 2 ขนาด คือ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 125 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุดถึง 168 แรงม้า ระบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

mg2

ส่วนจุดเด่นที่สุดไม่พ้นฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูง

ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตอัจฉริยะ ผู้ใช้แต่ละคนสามารถล็อกอินเพื่อใช้งานรถอินเตอร์เน็ตได้อย่างเป็นอิสระ สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวรถ อย่างการปลดล็อกด้วยรีโมตคอนโทรล และการเปิดระบบปรับอากาศ รวมถึงฟังก์ชั่นความสะดวกสบายอื่นๆ ที่เป็นการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และรถยนต์

ผู้ขับขี่ยังสามารถสั่งการด้วยเสียงเพื่อสั่งเปิดและปิดซันรูฟ ปรับควบคุมอุณหภูมิภายในรถ เลือกเล่นเพลง ในขณะที่มือยังคงวางอยู่บนพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ฟังก์ชั่นการเดินทางอัจฉริยะหลากหลายแบบ ระบบนำทางที่มีประสิทธิภาพสูงบนพื้นฐานของการคัดกรองข้อมูลขนาดใหญ่ แผนที่ออนไลน์แบบเรียลไทม์ที่มีการอัพเดตข้อมูลตลอดเวลา และยังสามารถแนะนำเส้นทางเสมือนมนุษย์มากที่สุด

ระบบนี้ยังสามารถวางแผนการเดินแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย โดยแผนที่เส้นทางจะถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นตามความเร็วที่ใช้และตามสภาพถนนเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สังเกตเห็นแผนที่อย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน “MG ZS” สามารถล็อกตำแหน่งจุดหมายปลายทางไว้ในกรณีที่สัญญาณขาดหาย แล้วใช้เครือข่าย 4G ในตัวรถแทน

เรียกว่าเป็นรถที่เหนือไปอีกขั้นในเรื่องเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

อย่างไรก็ตาม “MG ZS” ยังคงไม่มาให้คนไทยสัมผัสในเวลาอันสั้น

แต่ก็มีเอสยูวีอีกรุ่นที่น่าสนใจคือ “MG GS” 1.5 ลิตร เทอร์โบ ซึ่งก่อนหน้านี้อวดโฉมให้เห็นกันแล้วแต่มาเปิดราคาในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

รูปร่างหน้าตาถือว่าเฉี่ยวสุดๆ มองคล้ายคลึงกับรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบ กระจังหน้าขนดาเล็กดูแปลกตา ตรงกลางเป็นสัญลักษณ์เอ็มจี มีเสื้อเชื่อมต่อไปยังดวงตาทั้ง 2 ข้าง เป็นแบบโปรเจ็กเตอร์ HID

ต่ำลงมาเป็นกรอบสีเงินฝังไฟตัดหมอก และไฟ Daytime Running หรือไฟส่องสว่างตอนกลางวัน

กระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวเพิ่มความปลอดภัย

ไฟท้ายทรงรีแบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

หลังคาติดตั้งซันรูฟ ติดตั้งราวหลังคาเพิ่มความเข้มและล้ำสมัยด้วยเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ภายในหรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ช่องแอร์ออกแบบเป็นเหลี่ยมๆ ดูแปลกตา พวงมาลัยพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบควบคุมความเร็ว

ตรงกลางติดตั้งจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว แสดงภาพจากกล้องมองหลังขณะถอย และระบบนำทาง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ความบันเทิงครบครัน ใส่ลำโพงมารอบคันถึง 8 ตัว

เบาะนั่งหุ้มหนังดูไฮโซขึ้นไปอีก ที่นั่งตอนหลังพับได้ 60-40

แต่ที่เป็นจุดเด่นไม่พ้นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ TGI-TECH ระบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น 167 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับเชื้อเพลิง E85

นอกจากนี้ ยังปรับจูนระบบส่งกำลังและระบบช่วงล่างต่างๆ เพื่อรองรับกับเครื่องยนต์ใหม่

มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบถ้วนไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ

รวมถึงระบบ “อินคาเน็ต” การเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เอกสิทธิ์เฉพาะของเอ็มจี เพียบพร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบาย

“MG GS” 1.5 ลิตร เทอร์โบ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ “1.5 D” ราคา 890,000 บาท และ “1.5 X” ราคา 990,000 บาท