พี่มิ่ง-งูเห่า-ใบสารพัด

พรรคเศรษฐกิจใหม่ ของ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์”

เป็นพรรคแรก

ที่โชว์ “รูปธรรม” การต่อรองอันเข้มข้นของการจัดตั้งรัฐบาล

ด้วยแรกนั้น มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อุตส่าห์ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าไม่อาจร่วมงานกับขั้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่ได้หาเสียงมาตลอด

และแสดงเจตจำนงที่จะมายืนอยู่ข้างฝ่าย “ประชาธิปไตย”

ที่นัดหมายลงสัตยาบัน จัดตั้งรัฐบาลด้วยสามารถรวมเสียงแล้วมากกว่า 250 เสียง

แต่เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มีนาคม ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นที่นัดหมาย

ปรากฏตัวแทนแค่ 6 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย

ไร้เงาตัวแทนพรรคเศรษฐกิจใหม่

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องออกตัวแทนว่า นายมิ่งขวัญติดภารกิจ

แต่ยืนยันว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่มีจุดยืนร่วมด้วย

ไม่ทันสิ้นความ ก็มีข่าวจากขั้วพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา รวมพลังประชาชาติไทย ชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท และรักษ์ผืนป่าประเทศไทย

ว่ากำลังทาบทามพรรคเศรษฐกิจใหม่ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

“แม้ยังไม่ตอบรับ เนื่องจากติดเงื่อนไขบางประการ จากการไปแสดงจุดยืนผ่านเวทีและสื่อต่างๆ ว่าจะสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ถึงขั้นปฏิเสธ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจ”

กั๊กแบบออกหน้าไหนก็ได้แบบนี้

ข้างฝ่ายเพื่อไทยก็ต้องทำใจ “หนักหน่อย”

อะไรก็ผันแปรได้ เพราะฟากพลังประชารัฐ สู้ทุกรูปแบบแน่

ที่ต้องระวังก็คือ “งูเห่า” ที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละพรรค

และโหวตสวนทางกับมติพรรค ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

โดยต้องไม่ลืมว่ากฎหมายให้ความคุ้มครอง ส.ส.ในลักษณะฟรีโหวต

พรรคการเมืองต้นสังกัดไม่มีสิทธิขับ “งูเห่า” ออกจากพรรคด้วย

ยกเว้นหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว หากไปโหวตสวนทางกับมติพรรคในเรื่องอื่น พรรคต้นสังกัดมีสิทธิขับออกได้

แต่ก็ไม่พ้นสภาพ ส.ส. สามารถไปอยู่พรรคอื่นได้สบายๆ

“งูเห่า” จึงเป็นไม้เด็ดที่ฝ่ายต้องการชิง ส.ส.เตรียมการไว้

ขณะที่บางขั้วอาจหวังที่ “ตัวช่วยสำคัญ” นั่นคือ กกต.

ยังมีอำนาจสารพัด “ใบ” ที่พร้อมใช้เองหรือส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัย

ไม่ว่า ใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง และใบดำ

ที่อาจทำให้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคม

พลิกผันไปได้

ถามว่า แล้วใครควรระมัดระวัง “ตัวช่วย” เหล่านี้

คำตอบง่ายๆ 6 พรรคที่ลงสัตยาบันชิงตั้งรัฐบาลนั่นแหละ

เป้าหมายใหญ่