วิเคราะห์ : #กกต.โป๊ะแตก สามัคคีบาทา กรรมการไร้มาตรฐาน เสกบัตรเสียเป็นบัตรดี?

หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นอกจากประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่คลุกฝุ่นและวุ่นวายแล้ว แต่มีประเด็นร้อนแรงกว่า

นั่นก็คือ เสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่บันทึกได้ทั้งภาพและเสียงกรณีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเสกบัตรเสียให้กลายเป็นบัตรดีได้

รายละเอียดในคลิปวิดีโอฟ้องด้วยภาพเห็นกันจะจะ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเขต 5 หน่วยที่ 2 โรงเรียนวัดอุทัยธาราม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ขานบัตรเสียของพรรคพลังประชารัฐเป็นบัตรดี ขณะที่บัตรเสียที่กาเหมือนๆ กันของพรรคอนาคตใหม่และพรรคเพื่อไทยเป็นบัตรเสีย

คลิปวิดีโอนี้มีที่มาจากทีมข่าวของมติชนทีวี ที่ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าววันเลือกตั้งครั้งสำคัญ และรายงานสดบรรยากาศการนับคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งใดก็ได้ ที่ใกล้กับพรรคการเมืองที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ไปติดตามรายงานข่าว

ช่วงบ่ายของวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ทีมข่าวได้มีการวางแผนประชุมและแบ่งงานเพื่อรายงานข่าวการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยส่งทีมข่าวไปประจำที่ 4 พรรคการเมืองสำคัญ ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคเพื่อไทย, พรรคอนาคตใหม่ และทีมที่ 5 ส่งไปรายงานผลคะแนนที่ กกต. ศูนย์ราชการ

ทีมข่าวที่ได้รับมอบหมายให้ไปพรรคอนาคตใหม่ และเป็นทีมข่าวที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เล่าว่า ทีมงานได้รับคำสั่งให้ไปเก็บภาพบรรยากาศคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งและการนับคะแนนในจุดที่ใกล้กับพรรคอนาคตใหม่โดยเลือกไปหน่วยเลือกตั้งใดก็ได้ แต่จะต้องใกล้กับพรรคอนาคตใหม่มากที่สุด เพื่อความสะดวกในการย้ายไปรายงานข่าวต่อที่พรรค

จากนั้นทีมข่าวจึงตัดสินใจเดินทางไปที่เขตเลือกตั้งที่ 5 โรงเรียนวัดอุทัยธาราม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวมีหน่วยเลือกตั้งรวมกัน 3 หน่วย มีผู้สมัคร ส.ส.เขตจำนวน 33 คน โดยมีตัวเต็งชิงเก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่ เช่น หมายเลข 2 น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต จากพรรคพลังประชารัฐ, หมายเลข 8 นายอดิศร โพธิ์อ่าน จากพรรคอนาคตใหม่, หมายเลข 9 นายธนา ชีรวินิจ จากพรรคประชาธิปัตย์ และหมายเลข 13 นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ จากพรรคเพื่อไทย

เมื่อเดินทางไปถึงหน่วยเลือกตั้ง เขต 5 ที่โรงเรียนวัดอุทัยธาราม ที่ประชุมข่าวด้านในได้แจ้งว่าให้รายงานบรรยากาศล่าสุดเพื่อมาออกอากาศสดในรายการพิเศษ เกาะติดผลการเลือกตั้ง ช่างภาพจึงได้ตั้งกล้องบันทึกภาพบรรยากาศการนับคะแนนแบบสดๆ โดยเลือกตั้งกล้องที่หน่วยเลือกตั้งที่อยู่ตรงกลางสนาม นั่นก็คือหน่วยเลือกตั้งที่ 2

ทีมข่าวได้เล่าบรรยากาศว่า หลังปิดหีบ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 2 โรงเรียนวัดอุทัยธารามไม่ได้เริ่มทำการนับคะแนนทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 2 ได้ทำการเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ก่อน และใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทำให้ผู้สังเกตการณ์ที่มารอติดตามผลคะแนนในบริเวณนั้นได้เข้าไปทักท้วงกับเจ้าหน้าที่ว่าทำผิดขั้นตอน จะต้องทำการนับคะแนนก่อน แล้วค่อยเก็บอุปกรณ์ทีหลัง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 2 จึงได้เริ่มทำการนับคะแนน ซึ่งช่างภาพวิดีโอได้ทำการบันทึกภาพและถ่ายทอดสดไปด้วย โดยมีชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นได้เดินทางมาดูการนับคะแนนและแจ้งกับทีมข่าวว่าสังเกตพบความผิดปกติ แต่ในขณะนั้นยังไม่มีการตรวจสอบ แต่ได้ทำการบันทึกภาพไว้มีความยาวกว่า 30 นาที

และยุติการบันทึกภาพเมื่อเวลาประมาณ 18.15 น. เนื่องจากทีมข่าวได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ต่อที่พรรคอนาคตใหม่

วันต่อมาทีมงานมติชนทีวีได้ทำการตรวจสอบภาพที่บันทึกมาทั้งหมด ปรากฏว่าภาพของทีมข่าวที่ไปติดตามผลการนับคะแนนที่เขตเลือกตั้งที่ 5 ที่โรงเรียนวัดอุทัยธาราม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พบปัญหาเนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 ได้ขานบัตรเสียเป็นบัตรดี

จากภาพที่บันทึกได้พบว่าบัตรเลือกตั้งใบดังกล่าว ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งคนหนึ่งได้กากบาททับไปที่หมายเลข 2 คือหมายเลขของพรรคพลังประชารัฐ แต่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งขานว่าเป็นบัตรดี และต่อมาก็พบบัตรเลือกตั้งที่กากบาทในลักษณะเดียวกันทับไปที่หมายเลข 8 คือพรรคอนาคตใหม่ และอีกใบหนึ่งทับไปที่หมายเลข 13 คือพรรคเพื่อไทย เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกลับขานว่าเป็นบัตรเสีย แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานในการนับคะแนนผลการเลือกตั้งของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย

เมื่อนำคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ออกไปตามช่องทางต่างๆ พบว่ามีผู้รับชมคลิปเกิน 8 ล้านครั้ง มีการแชร์ต่อออกไปกว่า 3 แสนครั้ง มีผู้แสดงความคิดเห็นกว่า 2 หมื่นรายการ

และนำไปสู่การส่งเรื่องถึง กกต. เพื่อขอตรวจสอบกรณีดังกล่าว

หลังเผยแพร่คลิปได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และตั้งคำถามถึงมาตรฐานในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าสื่อกระแสหลักและสื่อดิจิตอลได้นำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปนำเสนอ รวมไปถึงเพจล้อเลียนการเมืองชื่อดังอย่างเพจ “ไข่แมว” ก็ได้ทำการ์ตูนล้อเลียน ซึ่งเรื่องนี้ “ทีมข่าวยืนยันว่าการรายงานผลการนับคะแนนเป็นการรายงานข้อเท็จจริง ตามหน้าที่ของสื่อมวลชนที่พึงปฏิบัติ”

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดอุทัยธาราม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่ทำการนับคะแนนไม่ใช่บุคลากรหรือคุณครูของโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้รับหนังสือจาก กทม. เพียงแค่การขอใช้สถานที่จัดการเลือกตั้งเท่านั้น

ล่าสุด กกต.แก้ปัญหาดังกล่าวแค่เพียงชี้ว่า บัตรที่กาผิดเป็นบัตรเสีย แล้วจบเรื่องแบบง่ายๆ ท่ามกลางการคาใจของคนทั้งเมือง

นอกจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์การนับคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา กระแสวิจารณ์การทำงานของ กกต. ก็ร้อนแรงชนิดที่เรียกว่าชาวโซเชียลกระหน่ำติดแฮชแท็ก “กกต.โป๊ะแตก” จนขึ้นอันดับหนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ และยังมีอีกหลายแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับ กกต.

ตามด้วยประเด็นดราม่าติดๆ เรื่องการวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากประเทศนิวซีแลนด์ ประมาณ 1,542 ใบ ว่าเป็นบัตรที่นับคะแนนไม่ได้ เพราะเลยเวลานับคะแนนไปแล้ว แม้ไม่เรียกว่าบัตรเสีย แต่ก็ทำให้เสียงของคน 1,542 คนไร้ความหมาย

ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์นั้นก็มาจากโซเชียลที่ร่วมแรงร่วมใจกันกระหน่ำแชร์ภาพตัวเลขการนับคะแนนที่ดูเหมือนจะบวกกันเท่าไหร่ก็ไม่ลงตัว ซึ่งเรื่องนี้ กกต.ก็ได้ชี้แจงแล้วว่าเป็นผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ

ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าบัตรเลือกตั้งหายหรือบัตรเลือกตั้งเกินมาเป็นจำนวนมากนั้น กกต.ได้ชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเป็นข่าวที่มุ่งหวังก่อให้เกิดความวุ่นวายและสับสนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ

นอกจากนี้ กกต.ยังฝากเตือนอีกว่า หากมีการกระทำใส่ความในประการที่น่าจะทำให้ กกต.เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และหากมีการส่งต่อข้อมูลที่มีการบิดเบือน ใส่ร้าย ปลอมหรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ด้วย

นาทีนี้ กกต.อยู่ท่ามกลางวิกฤตศรัทธา อย่างแท้จริง