การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์/ My Brother’s Husband ด้วยสายใยรัก (2)

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

My Brother’s Husband ด้วยสายใยรัก (2)

 

“ไมค์กับคุณอาเรียวจิ ใครเป็นสามี ใครเป็นภรรยาเหรอคะ” คานะถาม

“อะ… นี่… คานะ! ไปถามอะไรแบบนั้น” พ่อยาอิจิอ้าปากหวอ

“ไม่มีภรรยาครับ เป็นฮัสแบนด์ทั้งคู่” ไมค์ คนแคนาดาตอบ

“เอ๊ะ แปลว่าเป็นสามีทั้งคู่หรอ” คานะถามซ้ำ

“ผู้หญิงเป็นภรรยาใช่มั้ยล่ะ” ไมค์ยิ้มแป้น ถามคานะ คานะตอบ “อืม”

“ผู้ชายเป็นสามีใช่มั้ยล่ะ” ไมค์ยิ้มแป้น ถามคานะ คานะตอบ “อืม”

“ผมกับเรียวจิเป็นผู้ชายทั้งคู่ใช่มั้ยล่ะ” ไมค์ยิ้มแป้น ถามคานะ คานะตอบ “อืม”

“เพราะฉะนั้น เรียวจิจึงเป็นสามีของผม และผมเป็นสามีของเรียวจิไง”

คืนนั้นคุณพ่อยาอิจินอนไม่หลับ เขาใคร่ครวญถึงเรื่องที่ไมค์พูด ตั้งแต่น้องชายฝาแฝดเรียวจิแต่งงานกับผู้ชายออกไป เขาเฝ้าแต่คิดว่าใครเป็นผู้ชายใครเป็นผู้หญิง ตนเองมีภาพจำแบบนั้นมาโดยตลอดว่าคนหนึ่งต้องเป็นผู้ชายและคนหนึ่งต้องเป็นผู้หญิง มาตรฐานเป็นแบบนั้น?

การ์ตูนขึ้นรูปอาดัมและอีฟในสวนอีเดนที่ฉากนี้! OMG

“เหมือนได้เปิดโลกทัศน์เลย” ยาอิจินอนคิด “ที่ผ่านมา เราไม่เข้าใจอะไรสักนิด”

 

วันถัดมา ยาอิจิชวนไมค์และคานะไปเดินเล่นตามสถานที่ที่สองพี่น้องยาอิจิและเรียวจิเติบโตมาด้วยกัน ยาอิจิเล่าว่า ตอนเล็กๆ สองคนวิ่งเล่นด้วยกันในทุกที่ หลังจากพ่อ-แม่ตาย สองคนอยู่มอปลาย วันหนึ่งเรียวจิก็บอกแก่พี่ชายว่าผมเป็นเกย์ ยาอิจิเล่าต่อไปว่า เขาแสดงท่าทางเพียงรับทราบ มิได้ว่าอะไร แล้วหันไปถามไมค์ว่ารู้เรื่องนี้มั้ย

ไมค์ว่าเรียวจิเคยเล่าให้ฟังว่าพี่ชายไม่ว่าอะไร แต่สังเกตว่าหลังจากวันนั้นพี่ชายพยายามไม่พูดเรื่องนี้อีก

ยาอิจิแก้ว่า สองคนโตขึ้นเข้ามหาวิทยาลัยมีชีวิตไปคนละทางจริงๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับที่เรียวจิว่า พอดีมีคุณไซโต้เดินผ่านมา คุณไซโต้ถามยาอิจิว่าฝรั่งตัวใหญ่นั่นใครกัน

ยาอิจิหันไปตอบว่า “เพื่อนของเรียวจิน่ะครับ”

 

หนังสือคั่นตอนนี้ด้วยชั่วโมงเล็กเชอร์วัฒนธรรมเกย์ของไมค์ ตอนที่ 2 ไมค์ชี้ให้ดูเครื่องหมายรูปสามเหลี่ยมกลับหัวสีชมพูบนเสื้อยืดที่ใส่ถ่ายรูปสามคนที่หน้าปกหนังสือ นี่คือ Pink Triangle สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิเกย์

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นักโทษชาวยิวถูกบังคับให้ติดดาวของเดวิด ในขณะที่เกย์ถูกบังคับให้ติดสามเหลี่ยมกลับหัวสีชมพู ประมาณว่านาซีสังหารเกย์ไประหว่าง 5,000-15,000 คนและเมื่อสิ้นสุดสงคราม เกย์ถูกปลดปล่อยแล้วจองจำซ้ำอีก เพราะเกย์เป็นเรื่องผิดกฎหมายเวลานั้น

วันนี้พวกเขาแปรสัญลักษณ์แห่งความอัปยศ ให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจ และย้ำเตือนให้ระลึกถึงความเจ็บปวดที่พวกเขาเคยได้รับ

 

วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดอีกหนึ่งวัน คานะตื่นมาไม่พบไมค์ก็ไม่พอใจนั่งหน้าบูดจนพ่อทักว่าเป็นอะไรไป คานะว่าวันนี้ตั้งใจจะเอาไมค์ไปอวดเพื่อนสองคน พ่อต้องบอกว่าคนไม่ใช่สิ่งของ เราไม่ใช้คำว่าอวด คานะจึงว่าก็จะเอาไปแนะนำนั่นแหละค่ะ หนังสือเล่มนี้มีฉากพ่อเลี้ยงเดี่ยวสอนลูกสาวเป็นระยะๆ ดูดีมากเลย

ไมค์ออกไปพบเพื่อนชาวอเมริกันที่มาอยู่ญี่ปุ่นนานมากแล้ว เขาเมากลับมาบ้านแล้วกอดยาอิจิร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหลับไป

ยาอิจิเห็นไมค์โศกเศร้าเช่นนั้นก็นึกถึงครั้งที่น้องชายเรียวจิร้องห่มร้องไห้เมื่อพ่อ-แม่จากไปในขณะที่ตัวเขาไม่ร้องไห้เลย

แม้กระทั่งน้องชายตายที่แคนาดาเขาก็ทราบข่าวโดยไม่เสียน้ำตาอีกเช่นกัน

เขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า

วันถัดมาคานะถามไมค์ว่าผู้หญิงแต่งงานกันได้ไหม เพราะเพื่อนๆ ฝากมาถาม คานะบอกเพื่อนๆ ไปตามความจริงว่าคุณอาแต่งงานกับผู้ชายแคนาดา เพื่อนๆ ของคานะจึงสงสัยถามเรื่องผู้หญิงบ้าง ไมค์ตอบว่า ผู้หญิงที่แคนาดาก็แต่งงานกันได้ ว่าแล้วเอารูปเพื่อนหญิงสองคนที่แต่งงานกันให้ดู

แต่ดูเหมือนหนังสือจะลืมบอกว่าผู้หญิงสองคนนี้ใครเป็นสามี ใครเป็นภรรยา หรือว่าเป็นภรรยาทั้งคู่

“สองคนมีลูกด้วยนะ” ไมค์เล่าต่อ

“หา! มีแม่สองคน” คานะร้องเสียงหลง

คานะไม่มีแม่สักคน เธอทิ้งตัวจมลงในโซฟา เธอบอกไมค์ว่าบางทีเธอก็อยากมีแม่เหมือนกัน แล้วกำชับว่าห้ามบอกพ่อนะเรื่องที่เธออยากมีแม่

ทันใดนั้นมีเสียงกริ่งที่หน้าประตู

“แม่” คานะร้องด้วยความดีใจ

ที่แท้พ่อไปพาแม่กลับมาบ้าน นักอ่านก็อุทานด้วยความแปลกใจเช่นกัน ด้วยหลงคิดว่าแม่ของคานะในกรอบรูปเมื่อตอนต้นเล่มตายไปแล้ว พ่อของคานะยังพูดว่าฝันถึงเธออีกแล้ว ที่แท้เธอยังไม่ตายและเพิ่งจะปรากฏตัว

หรือว่าเป็น “เขา”