ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/เจาะรถเด่น ‘มอเตอร์โชว์’ 2019 (จบ) ศึกเอสยูวี ‘เบนซ์-บีเอ็มฯ-อาวดี้’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

เจาะรถเด่น ‘มอเตอร์โชว์’ 2019 (จบ)

ศึกเอสยูวี ‘เบนซ์-บีเอ็มฯ-อาวดี้’

 

ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้วค้างไว้กับรถใหม่ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019

ฉบับนี้เป็นคิวของรถจากเมืองเบียร์ “เยอรมนี”

แน่นอนว่าประเดิมกันด้วยเจ้าตลาดรถหรูเมืองไทยอย่าง “เมอร์เซเดส-เบนซ์”

งานนี้เปิดตัว 2 รุ่นบิ๊กเบิ้ม

เริ่มจาก “Mercedes-Benz G63” เอสยูวีพี่บิ๊กที่รูปร่างใหญ่โตดูบึกบึน ดูละม้ายคล้ายค่าย “จี๊ป” เพราะออกแบบทรงกล่องเหมือนกัน

กระจังหน้า AMG มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ไฟหน้าทรงกลมติดตั้งไฟเดย์ไทม์เป็นวงกลมรอบไฟหน้า

ห้องโดยสารเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยไปจากรุ่นเดิม ติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมกับระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว

พวงมาลัยไฟฟ้าของ G63 AMG ปรับความรู้สึกได้สองรูปแบบคือ Comfort และ Sport+

ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 577 แรงม้า แรงบิด 627 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด สามารถทำความสูงสุดได้ถึง 239 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อีกรุ่นที่จัดมาแบบรักษ์โลกคือ “S560E Plug in Hybrid” เก๋งหรูรูปร่างหน้าตาและออปชั่นต่างๆ จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสัมผัส เรือนไมล์จอดิจิตอลและจออินโฟเทนเมนต์ 12.3 นิ้ว ระบบควบคุมเครื่องเสียงแบบใหม่ พร้อมลำโพง 3 มิติ

ใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดถึง 476 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด แบตเตอรี่ 13.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง วิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง

สามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียววิ่งได้ไกลถึง 50 กิโลเมตร

 

ค่ายคู่แข่งสำคัญ “บีเอ็มดับเบิลยู” มีหลายรุ่น อาทิ Z4 Roadster (Z4 M40i), Z4 s Drive30i M Sport, New 320d Sport / New 330i M Sport

แต่ที่เป็นตัวกลั่นยกให้ “X7 M50d ใหม่” เอสยูวีตัวใหญ่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ใหญ่ที่สุดของตระกูล X แต่เส้นสายการออกแบบนั้นถ่ายทอดออกมาในสไตล์ที่ปราดเปรียวและคล่องตัว

กระจังหน้าทรงไตคู่ทรงแนวตั้งขนาดใหญ่ รวมไปถึงระบบไฟหน้า BMW Laserlight และใช้ล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ลาย Y-spoke

ใช้เครื่องยนต์ตัวแรงดีเซล 6 สูบ พร้อมเสริมพลังด้วยเทอร์โบ 4 ตัว ซึ่งประกอบด้วยชุดเทอร์โบแบบความดันต่ำ 2 ตัว และชุดเทอร์โบแบบความดันสูงอีก 2 ตัว ทำให้เรียกพละกำลังได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ

พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ คล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive

ส่วนค่ายในเครือ “มินิ” ฉลองครบรอบ 60 ปี ด้วย “มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์” รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี (MINI Cooper S Hatch 60 Years Edition)

มาพร้อมกับดีไซน์สุดคลาสสิค ตามสไตล์มินิแบบเรโทรที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร

ใช้สี British Racing Green ตัดขอบด้วยสีดำ Piano Black พร้อมด้วยหลังคาและที่ครอบกระจกสีดำ โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ 60 ปี

ตกแต่งเส้นสายบนฝากระโปรงหน้าด้านซ้าย กรอบไฟเลี้ยวด้านข้าง รวมถึงไฟ LED ฉายสัญลักษณ์ 60 ปี จากประตูคนขับ

นอกจากนี้ ยังสร้างเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลาย 60 ปี 2 สีสุดพิเศษ ไฟท้าย LED ลายธงยูเนี่ยนแจ๊กเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมินิ

ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัตช์คู่ 7 จังหวะ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

“อาวดี้” ที่มาแรงเหลือเกินในบ้านเรา เพราะยอดขายที่ผ่านมาทะลักทลาย ขอรักษ์โลกแบบสุดๆ ด้วย “Audi e-tron” เอสยูวีไฟฟ้า 100% เปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน

กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวสีเทาอ่อน ไฟหน้าเรียว ดุดัน ไฟท้ายแนวกว้างเชื่อมต่อกันจากซ้าย-ขวา และแน่นอน ไม่มีท่อไอเสียให้เกะกะสายตา โครงสร้างตัวถัง มีส่วนประกอบจากอะลูมิเนียมจำนวนมาก ร่วมกับเหล็กแรงดึงสูง ช่วยลดน้ำหนักไปได้อย่างมาก

“Audi e-tron” มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย 600 ลิตร และสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 1,725 ลิตร เมื่อพับเบาะด้านหลังลง ระบบ MMI Touch Response หน้าจอดิสเพลย์ MMI แบบทัชสกรีน ขนาด 8.6 และ 10.1 นิ้ว มีฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียง เพิ่มความสะดวกและเพลิดเพลินในการใช้งาน

กล้องแสดงภาพด้านข้าง (Virtual exterior mirrors) ติดตั้งแทนกระจกมองข้างแบบปกติ นวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย ประสบการณ์ใหม่จากกล้องแสดงภาพด้านข้างที่จะแสดงผลบนหน้าจอ OLED ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นควบคุมแบบสัมผัส ที่ติดตั้งบริเวณแผงประตูซ้าย-ขวา

ให้ผู้ขับขี่ได้มองเห็นภาพด้านข้างตัวรถที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้อยู่ในสภาวะการเดินทางที่ไม่เอื้ออำนวย ระบบนำทางแสดงภาพคมชัด ติดตั้งระบบอาวดี้ คอนเน็กต์ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยการขับขี่ในเมือง ระบบช่วยจอด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ควบคุมการทำงานทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ส่งกำลังโดยตรงไปยังล้อทั้ง 4 ทำให้มีความฉับไวในการถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ (single gear) ออกตัวได้รวดเร็ว มีอัตราเร่งที่น่าพอใจ

มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ quattro ที่ประกอบด้วยโหมด Auto, Dynamic และ Off-road

สามารถเดินทางได้ถึง 417 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

การชาร์จไฟ ทำได้ทั้งการชาร์จด้วยไฟบ้านสูงสุด 11 กิโลวัตต์ และมีออปชั่นเพิ่มเป็น 22 กิโลวัตต์ โดยระยะเวลาในการชาร์จ 16 แอมป์ – 3 เฟส  ใช้เวลา 9 ชั่วโมง ประจุไฟฟ้าได้จาก  0-100% และในการชาร์จกระแสไฟตรง 150 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จประจุไฟฟ้าได้ จาก 0-80% ภายในเวลา 30 นาที

 

ยังมีอาวดี้อีก 2 รุ่น แม้จะเปิดตัวไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ก็จะมาอวดโฉมประชันกันในมอเตอร์โชว์ 2019 ด้วยคือ “New Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line” และ “Audi A7 Sportback 45 TFSI quattro”

“New Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line” ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟต์ (DOHC) 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) และเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร

ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ quattro เอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเลื่องชื่อของอาวดี้ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งในเรื่องการเกาะถนน และการกระจายกำลังการขับขี่แบบแปรผันอิสระ

ส่วน “Audi  A7 Sportback 45 TFSI quattro” รถยนต์นำเข้าทั้งคันจากเยอรมนีที่มีราคาเทียบเท่ากับรถยนต์ประกอบภายในประเทศ

เครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid (MHEV) แบบ 4  สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง แบบฉีดตรง (direct injection) เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro

สนใจรถรุ่นไหนไปชมของจริงกันได้ในงาน “มอเตอร์โชว์ 2019” จัดถึงวันที่ 7 เมษายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี