“เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบพระกุมารกับนางมารีย์มารดา จึงก้มลงนมัสการพระกุมารนั้น แล้วเปิดหีบสมบัติของพวกเขาและถวายเครื่องบรรณาการแด่พระกุมาร คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ” มัทธิว 2:11

(And going into the house they saw the child with Mary his mother, and they fell down and worshiped him. Then, opening their treasures, they offered him gifts, gold and frankincense and myrrh. Matthew 2:11)

ในพระวารสาร 4 ฉบับแรกของพระคริสต์ธรรมใหม่ เราจะพบเรื่องราวกำเนิดพระเยซูเฉพาะในฉบับที่หนึ่งคือมัทธิวเท่านั้น เล่าเรื่องนักปราชญ์ (the wise men) ที่เดินจากทิศตะวันออกมายังกรุงเยรูซาเลมเพื่อถามหาพระกุมาร

กษัตริย์เฮโรดทรงให้ประชุมพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกธรรมจารย์ของประชาชนจึงทราบว่าพระคริสต์จะทรงบังเกิดที่บ้านเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย พวกนักปราชญ์จึงเดินทางต่อไปเบธเลเฮม

พวกนักปราชญ์ หรือ the wise men มีคำเรียกในภาษากรีกว่า มาไจ (Magi)

ไม่มีการกล่าวถึงจำนวนของนักปราชญ์ที่มานมัสการพระเยซู แต่เพราะมี “ของขวัญของมาไจ” สามชิ้น คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ ทำให้เชื่อกันต่อมาว่ามีนักปราชญ์ 3 คน

ดูหนังไบเบิลที่สร้างๆ กัน ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็มี 3 คน ที่น่าจะจดจำกันได้คือตอนต้นเรื่อง Ben-Hur หนังยิ่งใหญ่ปี 1959 ของ วิลเลียม ไวเลอร์ ก็มีสามคน

ที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในซีเรีย อันเป็นหลักฐานหลงเหลือครั้งที่คริสต์ศาสนาเผยแผ่ไปทางทิศตะวันออกของเยรูซาเลม พวกนักปราชญ์มี 12 คน

อันที่จริง คำว่า magi เป็นคำพหูพจน์ของคำละตินว่า magus ซึ่งมาจากภาษากรีกว่า magos ดังนั้น พวกนักปราชญ์มีมากกว่าหนึ่งคนแน่นอน

เอ็นไซโคลพีเดียบริเตนนิกาเขียนว่านักปราชญ์ทั้งสามคนคือ Balthasar พระราชาแห่งอาระเบีย, Melchior พระราชาแห่งเปอร์เซีย และ Gaspar พระราชาแห่งอินเดีย ทั้งหมดคือดินแดนทางทิศตะวันออกของเยรูซาเลมที่มาเป็นสักขีพยานในคืนคริสต์มาส

ของขวัญ 3 ชิ้นคือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ ทองคำเป็นสิ่งล้ำค่า หมายถึงกษัตริย์ กำยานเป็นเครื่องหอม หมายถึงพระผู้เป็นเจ้า และมดยอบเป็นน้ำมันจากพืช หมายถึงมนุษย์

ของขวัญของมาไจ จึงเป็นสัญลักษณ์หมายถึงของขวัญล้ำค่าที่สุดเท่าที่มนุษย์จะพึงได้

ของขวัญของมาไจ หรือ The Gift of the Magi เป็นเรื่องสั้นปี 1905 ของ โอ เฮนรี่ ( O. Henry 1862-1910) นักเขียนชาวอเมริกันเล่าเรื่องคู่แต่งงานใหม่ยากจนในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ

ย่อหน้าแรกเขียนว่า

“หนึ่งดอลลาร์กับแปดสิบเจ็ดเซ็นต์ มีอยู่เท่านี้ และหกสิบเซ็นต์ยังเป็นเศษเหรียญ ซึ่งเก็บเล็กผสมน้อยเอาไว้ครั้งละเหรียญสองเหรียญโดยการต่อรองอย่างเอาเป็นเอาตายกับคนขายของชำ คนขายผักและคนขายเนื้อจนหน้าแดงด้วยความอายกับการซื้อของด้วยความตระหนี่เช่นนี้ เดลลานับอยู่สามครั้ง หนึ่งดอลลาร์แปดสิบเจ็ดเซ็นต์ และพรุ่งนี้จะเป็นวันคริสต์มาส” สำนวนแปล วิภาดา กิตติโกวิท

เดลลามีเงินเท่านี้ หนึ่งดอลลาร์กับแปดสิบเจ็ดเซ็นต์ จะซื้อของขวัญคริสต์มาสอะไรให้สามีสุดที่รักได้ สามีมีนาฬิกาเรือนทองซึ่งตกทอดมาจากปู่ถึงพ่อและถึงเขา แต่นาฬิกาสวยงามนั้นกลับไม่มีสาย

“เมื่อจิมมีโซ่เส้นนี้ห้อยนาฬิกา ทีนี้เขาจะดูนาฬิกาได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด นาฬิกาหรูจริง แต่บางทีเขาต้องแอบดู เพราะห้อยมันไว้ด้วยสายหนังเก่าๆ แทนโซ่นาฬิกา” สำนวนแปล วิภาดา กิตติโกวิท

เดลลาเป็นคนมีเส้นผมสวยงาม นอกเหนือจากเงินหนึ่งดอลลาร์กับแปดสิบเจ็ดเซ็นต์แล้ว สมบัติที่เธอพอจะมีเหลืออยู่คือเส้นผมนี้เอง เธอจึงขายเส้นผมที่รักและหวงแหนไปในราคายี่สิบดอลลาร์เพื่อนำเงินไปซื้อสายนาฬิกาให้แก่สามี

เย็นวันนั้นเมื่อ เจมส์ ดิลลิงแฮม ยัง หรือ จิม กลับมาถึงบ้าน พลันที่เขาเปิดประตูเข้ามาพบภรรยาสุดที่รัก เดลลา ยืนรอรับอยู่ เธอไม่มีผม เขาอ้าปากค้าง

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

ทําไมเรื่องสั้นนี้จึงได้ชื่อว่า ของขวัญของมาไจ

ของขวัญของมาไจเป็นเรื่องสั้นอ่านเพลิน ถูกนำไปสร้างเป็นหนังสั้นและหนังการ์ตูนหลายครั้ง กล่าวเฉพาะหนังการ์ตูนสามารถหาดูได้จากยูทูบหลายเรื่อง

เรื่องยอดนิยมเป็นการ์ตูนคอมพิวเตอร์จากทีมงานจีน ความยาวเพียง 5 นาที และการ์ตูนเลโก้จากเลโก้ ความยาวเพียง 10 นาที ดูเพลินทั้งคู่ ลองเปิดเข้าไปดูได้

ที่เป็นหนังสั้นมีหลายเรื่อง ที่ควรพูดถึงคือหนังขาวดำของทเวนตี้เซ็นจูรี่ฟ็อกซ์ความยาว 20 นาที จากผลงานกำกับของ เฮนรี่ คิง นำแสดงโดย ยีน เครน และ ฟาร์ลี เกรนเจอร์ สามารถเปิดดูได้ในยูทูบเช่นกัน

แต่สนุกที่สุด แม้จะไม่ตรงกับต้นฉบับ คือ Mickey and Minnie”s The Gift of the Magi ซึ่งเป็นหนังการ์ตูนสั้นเรื่องที่สามในดีวีดีปี 1999 เรื่อง Mickey”s Once Upon a Christmas ซึ่งคว้ารางวัลการ์ตูนสั้นยอดเยี่ยม 5th Kecskem?t Animation Film Festival ของยุโรป เรื่องนี้ไม่มีในยูทูบ

การ์ตูนดิสนีย์เรื่องนี้ให้ศูนย์กลางของเรื่องกลับมาที่ฝ่ายชายคือมิกกี้ มิกกี้อยากให้สายสร้อยสวยๆ แก่มินนี่ในคืนวันคริสต์มาส เขาจึงขายหีบเพลงแสนรักของตนเองเพื่อไปซื้อสายสร้อยให้แก่มินนี่ เย็นวันนั้นเมื่อกลับไปบ้านพบว่ามินนี่ได้เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษให้แก่เขาเช่นกัน

คือ ของขวัญของมาไจ

พอเดาได้หรือยังว่าเรื่องสั้นของ โอ เฮนรี่ นี้เล่าเรื่องอะไร อะไรคือความหมายของขวัญล้ำค่าที่เราควรให้แก่คนรัก

หากยังนึกไม่ออก เปิดยูทูบดู