ไกลเกินฝัน

ถึงวันนี้คงเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่ากระแสพรรคอนาคตใหม่แรงมาก

เกินความคาดหมาย

“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” กลายเป็น “ขวัญใจ” ของคนรุ่นใหม่

จากระยะแรกที่นักการเมืองรุ่นเก่าคาดหมายว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้ ส.ส.ไม่ถึง 10 คน

บางคนประเมินต่ำกว่า 5

ผลวันนี้ก็ปรากฎ

ไม่ใช่แต่นักการเมืองด้วยกันจะตกใจ

“ธนาธร” ก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน

เพราะวันแรกที่เริ่มตั้งพรรค เป้าหมายของเขาเป็นเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ “ประชาธิปไตย”

คือตัดคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้และ กทม.

เพื่อให้ฝั่งประชาธิปไตยชนะเลือกตั้ง

แต่เมื่อเดินสายไปจังหวัดต่างๆ แล้วมีกระแสตอบรับดีมาก

“อนาคตใหม่” จึงเปิดเกมใหม่

รุกหนักทั่วประเทศ

“อนาคตใหม่” คือ “สิ่งแปลกปลอม” ทางการเมืองที่ คสช.และ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คาดไม่ถึง

ภาพก่อนหน้านี้มีเพียง “ทักษิณ ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็น “คู่ต่อสู้”

เขานึกไม่ถึงว่าจะมี “ธนาธร” และพรรคอนาคตใหม่

และนึกไม่ถึงว่า “ธนาธร” จะเจาะฐาน “คนรุ่นใหม่” ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกสำเร็จ

คนกลุ่มนี้มีประมาณ 7 ล้านคน

เมื่อเป็น “สิ่งแปลกปลอม” ที่คาดไม่ถึง จึงไม่มีใครเตรียมรับมือกับกระแส “ธนาธรฟีเวอร์” ที่เกิดขึ้น

และเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กระแสอนาคตใหม่แรงมากในวันนี้

คือ การเลื่อนการเลือกตั้งจาก 24 กุมภาพันธ์ เป็น 24 มีนาคม

ลองย้อนเวลากลับไปที่วันที่ 24 กุมภาพันธ์

ถ้าเลือกตั้งวันนั้น

ส.ส.อาจต่ำ 10

เพราะวันนั้น “อนาคตใหม่” ยังเป็นแค่ “ต้นไม้” ในกระถาง

แต่เมื่อผู้มีอำนาจขยับวันเลือกตั้งออกไปอีก 1 เดือน

จาก “ต้นไม้” ในกระถางจึงกลายเป็น “ต้นไม้ใหญ่”

ผู้มีอำนาจคงลืมไปว่า “อนาคต” นั้นแปลว่าอะไร

คำว่า “อนาคต” คือ “เวลาในภายหน้า”

ยิ่งทอดเวลานานเท่าไร

“อนาคต” จึงยิ่งยาวไกลมากเท่านั้น