จับตาแคนดิเดต “รมต.ยุติธรรม” ครม. มอบ “วิษณุ เครืองาม” ควบ เช็กชื่อ “ทหาร-อดีตปลัด” มาแรง!

กระทรวงยุติธรรมคึกคัก กลายเป็นที่จับตาอีกครั้ง ภายหลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็น “องคมนตรี”

ถ้าหากย้อนกลับไป “พล.อ.ไพบูลย์” มิใช่คนแรกในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่พ้นจากเก้าอี้รัฐมนตรี แล้วไปเป็น “องคมนตรี”

ช่วงก่อนหน้า เคยมี “นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ” ดีกรีอดีตประธานศาลฎีกา โยกมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในช่วงปี 2549 สมัย “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ทำรัฐประหารรัฐบาล “นายทักษิณ ชินวัตร”

ครั้งนั้น นายชาญชัย อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 ก็พ้นจากรัฐมนตรียุติธรรม จากนั้นได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551

 

ส่วน “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากปี 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำรัฐประหารรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยดำรงตำแหน่ง วันที่ 30 สิงหาคม 2557-วันที่ 6 ธันวาคม 2559 รวม 2 ปี 98 วัน

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า บทบาทของกระทรวงยุติธรรม และ “รัฐมนตรียุติธรรม” ที่ชื่อ พล.อ.ไพบูลย์ ถูกจับตาเป็นที่ฮือฮา กล่าวขาน มากพอสมควรในช่วงแรก ในทุกกลุ่มก้อนการเมือง

เพราะด้วยสไตล์การทำงานแบบถึงลูกถึงคน ชัดเจน คมชัดแบบ HD ทั้งประเด็นสังคม แก้ปัญหาเด็กแว้น สถานบันเทิงร้านเหล้า โซนนิ่ง การเมือง กฎหมาย

หลายเรื่องฮ็อต “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รับหน้าที่ดำเนินการ แก้ปัญหาเกือบทุกเรื่อง สิ่งเหล่านี้ทำให้ “ตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม” ช่วงที่ผ่านมากลายเป็นที่รู้จัก และได้รับความสนใจจากหลายวงการ หลายเรื่องเป็นงานเฉพาะตัว บางเรื่องเป็นงานโดยตำแหน่ง

เช่น ประเด็นถอดยศ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นภารกิจ หรือมิสชั่น เฉพาะหน้า และผลก็ “คอมพรีต” สำเร็จไปอีก 1 งาน

ส่วนหน้าที่ที่เป็นโดยตำแหน่ง คือ “ประธานศูนย์อํานวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)” แก้ปัญหาปราบคอร์รัปชั่น ปรามทุจริต ในแวดวงเจ้าหน้าที่รัฐ

ภารกิจนี้ ผลงาน ศอตช. เสนอบัญชีรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตแล้ว 8 บัญชี ทั้งพักงาน โยกย้ายพ้นจากตำแหน่ง สอบวินัยไปแล้วจำนวนมาก และดูเหมือนว่าผลงาน “การปราบปรามการทุจริต” จะเป็นการผลักดัน “เรตติ้ง” รัฐบาลให้ขยับสูงขึ้นอีก

เรื่องฮ็อตล่าสุด “วัดพระธรรมกาย” “พระธัมมชโย” จนวินาทีสุดท้าย ก่อนพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บิ๊กต๊อก พล.อ.ไพบูลย์ ยังถูกรุมล้อมจากสื่อ ถามว่าจะจับพระธัมมชโยเมื่อไหร่?!

แต่ตอนนี้เหมือนทุกอย่างจะกลายเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ หรือผู้ทำหน้าที่รักษาการแทน

และล่าสุดอีก 1 ภารกิจ ที่ดูเหมือนยังไม่สะเด็ดน้ำเสียทีเดียว “ประมวลกฎหมายยาเสพติด” ที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ด้วยความสลับซับซ้อน ซ้ำซ้อน รวบรวม พ.ร.บ.ยาเสพติด และกฎหมายหลายฉบับ มารวบเป็น 1 เดียว ค่อนข้างใช้เวลายาวนานพอสมควร

อีกทั้งยังมีประเด็นทำความเข้าใจกับสังคม ในการปรับเปลี่ยน มุมคิด มุมมอง เรื่องยาบ้า

ที่ผ่านมา “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นคนที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนกับข้อเสนอแนวคิด ปรับบัญชียาบ้า นี่ดูเหมือนเป็นอีกงาน ที่กำลังรอ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่” มาสานต่อ

 

และเมื่อ “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ขึ้นนั่งเก้าอี้ “องคมนตรี” ทำให้เก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” ว่างลงทันที

โฟกัสบุคคลที่จะเข้ามานั่งเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” แทน “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เริ่มมีชื่อสะพัดในหลายแวดวง มีทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ

ชื่อแรกที่ถูกปล่อยออกมา “บิ๊กหลี” พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม คนนี้ดีกรีความใกล้ชิด สนิทไว้ใจ “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เจ้ากระทรวงคนเดิม มาเป็นอันดับต้น

บทบาทในกระทรวง เป็นที่รับรู้กันว่า “บิ๊กต๊อก” จะสั่งงาน หรือมอบหมายภารกิจสำคัญ ผ่าน พล.อ.นิวัตร เป็นหลัก ประหนึ่ง “รมต.ยุติธรรมเงา”

เป็นหนึ่งในตัวเก็งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนต่อไป

 

อีกชื่อที่แรงติดโผมาตลอด อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ความแรงสูสี คู่คี่มาพอๆ กับชื่อ “บิ๊กอ๊อด” นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ดีกรี คุณสมบัติ โปรโฟล์ เรียกได้ว่า เป็นได้สบายมาก แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับรัฐบาล ว่าจะเห็นเหมาะสมกับตำแหน่งในช่วงเวลาแบบนี้หรือไม่?!

แต่อีกประเด็น มีแนวโน้มเป็นไปได้ สำหรับการปรับทัพ “ครม.” ครั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมอาจมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม เพิ่มขึ้นอีก 1 ตำแหน่ง เพราะก่อนหน้านี้ “บิ๊กต๊อก” เคยเสนอไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมมีงานหลากหลายและมีหลายหน่วยงานในกระทรวง

โดยข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอลุ้น เช่นเดียวกับตัวบุคคลที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมคนแรก ที่ต้องรอลุ้น

แต่แว่วว่า มาแรง เต็งหนึ่ง มีชื่อ “นายประยงค์ ปรียาจิตต์” เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) คนสนิทคู่ใจ “บิ๊กต๊อก” อีกคน อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่า นายประยงค์ จะไปนั่งเก้าอี้สำคัญระดับชาติตัวอื่นแทน

 

มีรายงานว่า วันสุดท้ายที่ “บิ๊กต๊อก” มาเก็บของและกินข้าวกลางวันในห้องอาหาร มื้อกลางวันนั้น มี พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน และ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ นั่งร่วมโต๊ะพร้อมหน้าพร้อมตา และมีการมอบหมายสั่งการงานไว้หมดแล้ว

สุดท้ายก็คงต้องเฝ้าจับตาการปรับ ครม. ครั้งใหม่ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ล่าสุด ครม. มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นั่งควบรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอีกเก้าอี้ไปพลางก่อน

ระหว่างนี้ต้องจับตาว่านายกรัฐมนตรีจะไว้ใจให้ใครมาทำหน้าที่ “เจ้ากระทรวงตาชั่ง” คนต่อไป หรือจะมอบให้นายวิษณุ นั่งควบยาวไป!!