ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 มีนาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]
เจาะรถเด่น ‘มอเตอร์โชว์’ 2019 (1)
‘ซูซูกิ Jimny’ – ‘ฮอนด้า แอคคอร์ด’
เข้าสู่โหมดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019” หรือ “มอเตอร์โชว์ 2019” ปีนี้ครบรอบครั้งที่ 40 แล้ว จัดระหว่างวันที่ 27 มีนาคม- 7 เมษายนนี้ ที่ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ก่อนเข้างานเรามาดูกันว่ามีรถเด่นๆ ที่น่าสนใจรุ่นไหนบ้าง
แต่ด้วยรถใหม่ที่มาเปิดตัวมีอยู่หลากหลายรุ่นและหลายประเทศ จึงขอแยกเป็น 2 ตอน
ตอนแรกนี้นำเสนอรถค่ายแดนปลาดิบ และยุโรปบางประเทศ
ส่วนตอนหน้าจัดเต็มๆ กับรถที่มาจากประเทศเยอรมนี
ประเดิมด้วยรถเล็กสุดฮิปที่โด่งดังในทุกประเทศที่ไปเปิดตัวซูซูกิ “จิมนี่ เซียร่า” (Jimny Sierra)
“จิมนี่ เซียร่า” เป็นรถแนวตรวจการณ์ขนาดเล็กที่สร้างความฮือฮาในทุกเจเนอเรชั่นที่อวดโฉมออกมา
เวอร์ชั่นล่าสุดนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าราคากระโดดไปเกิน 1 ล้านบาทแน่นอน
รูปทรงแนวรถจี๊ป คนไทยเราคุ้นเคยกันดีกับรุ่นก่อนหน้าที่มาทำตลาดเมื่อราวๆ 20 ปีก่อนคือ “ซูซูกิ คาริเบียน”
ไฟหน้า LED พร้อมระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า ไฟตัดหมอกคู่หน้า
ภายในพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอ MID เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
ขนาดตัวถังใหญ่กว่าจิมนี่ตัวเก่า (กว้าง x ยาว x สูง) 1,645 x 3,480 x 1,720 ม.ม. ความสูงจากพื้น 210 ม.ม. ระบบเบรกแบบหน้าดิสก์-หลังดรัม ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
เครื่องยนต์ในเมืองนอกมี 2 บล๊อก แต่ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเราเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4WD Part-time
ระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะลงทางชัน ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ
แม้ดูราคาจะค่อนข้างสูงเนื่องจากนำเข้าทั้งคัน แต่เชื่อว่ามีแฟนานุแฟนสนใจอยู่ไม่น้อย แว่วว่าซูซูกิ ประแทศไทย ได้โควต้ามาเดือนละหลักสิบคันเท่านั้น
“มาสด้า” ตัวเด่นคือ “ซีเอ็กซ์-3” รุ่นพิเศษ “Exclusive Mods” เป็นตัวแต่งแบบหรูหรา
ค่าย “MINE” บริษัท มหานคร จำกัด ในเครือ พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ “อีเอ” (EA) ผู้นำด้านพลังงานทางเลือกของเมืองไทย ที่ประกาศรุกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ใช้งานนี้แนะนำ “MINE Mobility” รุ่น “SPA1” (special people mobility1) รถยนต์ไฟฟ้าที่คิดค้น พัฒนา และผลิตโดยคนไทย 100%
“SPA1” เป็นรถเอ็มพีวี 5 ที่นั่ง โครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด แบตเตอรี่ 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตร
ภายในติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานได้จริง หน้าจอขนาด 12.1 นิ้ว อ่านค่าต่างๆ ได้อย่างชัดเจน และยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ขณะที่ราคาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทต้นๆ
พลาดไม่ได้กับ “ฮอนด้า แอคคอร์ด” ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นตัวเด่นของบูธฮอนด้าในปีนี้
เจเนอเรชั่นที่ 10 ออกแบบภายใต้แนวคิด “Absolute Confidence” ประกอบด้วย “Dynamics” ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทั้งในด้านดีไซน์ และสมรรถนะการขับขี่
“Captivating” ความมีเสน่ห์และน่าดึงดูดของรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
และ “Upscale” ยกระดับคุณภาพการพัฒนายนตรกรรม ให้สง่างาม และเหนือระดับเกินคลาส
ภายในยกระดับความสปอร์ตมากขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราและกว้างสบาย มีพื้นที่ช่วงขามากขึ้น
มีระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า
เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น
ขุมพลัง 2 บล๊อก ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO เครื่องยนต์เทอร์โบรุ่นใหม่ ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม แรงกว่าเครื่องขนาด 2.4 ลิตร แต่ประหยัดมากขึ้น
อีกบล๊อกเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) เกียร์อัตโนมัติ E-CVT
ใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนซิ่ง” (Honda SENSING) ประกอบด้วยระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบกล้องส่องภาพรอบทิศทาง ระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก ฯลฯ
แวะไปที่ค่ายจากอิตาลี มาเซราติ “Levante Vulcano 350” รถเอสยูวีขนาดกลางหรูหราไฮโซสุดๆ
ภายนอกกระจังหน้าและสัญลักษณ์เป็นโครเมียมสีดำ ไฟหน้าอแดปทีฟ Full-LED Matrix ขอบรอบกระจกด้านข้างรถสีดำเงา ที่เปิดประตู รวมทั้งปลายท่อไอเสียสีดำ ล้อขนาดใหญ่ 21 นิ้ว คาลิปเปอร์เบรกสีแดง โดยใช้ระบบเบรก Brembo Dual Cast 6 สูบ
เครื่องเสียงพรีเมียม “Bowers & Wilkins” มีระบบดูดประตูเมื่อปิด เซ็นเซอร์หน้า-หลังสำหรับจอดรถ
เครื่องยนต์ตัวแรง เบนซิน V6 ขนาด 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 350 แรงม้า และอีกบล๊อกให้กำลังสูงถึง 450 แรงม้า
ปิดท้ายที่จากัวร์ “i-Pace EV” รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าล้วน ที่ถอดมาจากรถต้นแบบ
แนวทางการออกแบบมาจากรถซูเปอร์คาร์ “JAGUAR C-X75” ทำให้หน้าตาดูล้ำสมัยกว่าเอสยูวีที่คุ้นเคย โดยเฉพาะรูปทรงไฟหน้าดูอนาคตมากๆ
มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,895 x 4,682 x 1,565 ม.ม. ระยะฐานล้อ 2,990 ม.ม. ถือว่าค่อนข้างยาว มีระยะโอเวอร์แฮงก์หน้า-หลังที่ค่อนข้างสั้นทำให้คล่องตัวและง่ายต่อการควบคุม และทำให้ห้องโดยสารยาวขึ้นด้วย
ภายในดูโอ่โถงเนื่องจากฐานล้อที่ยาว โดยเฉพาะที่นั่งตอนหลังเหลือพื้นที่เลกรูมค่อนข้างมาก ส่วนพื้นห้องโดยสารเป็นที่เก็บชุดแบตเตอรี่
มาถึงหัวใจของรถรุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 432 เซลล์ 36 โมดูล ความจุ 90 kW จัดวางใต้พื้นห้องโดยสาร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังรวม 400 แรงม้า บิดสูงสุด 696 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบขับเคลื่อน AWD
ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทาง 470 กิโลเมตร หัวควิกชาร์จ 0-80% ภายใน 20-40 นาที ถ้าเป็นการชาร์จปกติใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
ความสุดๆ ของรถรุ่นนี้อีกประการคือทีมวิศวกรวิ่งทดสอบระยะยาวบนถนนจริง ในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย กว่า 1.5 ล้านไมล์ ผ่านการใช้งานที่อุณหภูมิร้อนขนาด 40 องศา และหนาวเย็นสุดๆ
สามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 500 ม.ม.
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
ฉบับหน้าพบกับรถจากประเทศเยอรมนี ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู, อาวดี้ และปอร์เช่ ที่จะประชันกันในงาน “มอเตอร์โชว์ 2019”