วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร/ ความนัย แม่ชีเทพยดา น่ำไฮ้ (181)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

ความนัย แม่ชีเทพยดา น่ำไฮ้ (181)

 

เป้าหมายของการถ่ายทอดรายละเอียดการประสานและร่วมมือระหว่างอึ้งเอี๊ยะซือกับเอี้ยก่วยครั้งนี้ 1 เพื่อสะท้อนให้เห็นความรัก ความผูกพันอันล้ำลึกระหว่างเอี้ยก่วยที่มีต่อเซียวเล้งนึ่ง

1 เพื่อให้ประจักษ์ในความล้ำเลิศของ “วิชาฝีมือ”

เอี้ยก่วยเกร็งลมปราณขึ้นจากจุดตังชั้งเร่งเร้าพลังฝีมือ ส่งตัวเซียวเซียงจื้อ อีเคอซีและคนหน้าดำไปถึงเบื้องหน้าอึ้งเอี๊ยะซือด้วยระดับความเร็วยิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ทางด้านอึ้งเอี๊ยะซือก็ผลักดันกลับหลายฝ่ามือ

ระลอกลูกหนึ่งเพิ่งผ่านพ้น ระลอกที่ท่วมท้นยิ่งกว่าลูกที่ 2 ก็หนุนเนื่องมาถึง

ภายในความครุ่นคิดของผู้อาวุโสแห่งเกาะดอกท้อ “พลังฝ่ามือของบุรุษหนุ่มนี้ยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง นับเป็นยอดอัจฉริยะในบู๊ลิ้มอย่างแท้จริง”

นี่ย่อมเป็นคำชมเชยที่ไม่ควรมองข้าม

ในยามนั้นคนหน้าดำพลันลอยตัวขึ้น เปลี่ยนเป็นเท้าอยู่หน้า ศีรษะอยู่หลัง 2 เท้าถีบยันใส่ใบหน้าอึ้งเอี๊ยะซือ เห็นเช่นนั้นอึ้งเอี๊ยะซือปาดฝ่ามือสลายพลัง มือขวาอดสั่นไหวเล็กน้อยมิได้

สุราในถ้วยกระเซ็นออกมาหยดหนึ่ง

จากนั้นอีเคอซีกับเซียวเซียงจื้อพากันลอยตัวขึ้นแยกย้ายเป็น 1 ตรง 1 เฉียงพุ่งชนใส่ อึ้งเอี๊ยะซือร้องคำ “ประเสริฐ” วางถ้วยสุราลงสะบัดฝ่ามือขวาตอบโต้ไป 1 ฝ่ามือ

 

ความน่าสนใจอยู่ตรงอึ้งเอี๊ยะซือกับเอี้ยก่วยอยู่ห่างกันหลายวา ท่านฟาด 1 ฝ่ามือ เราฟาดออก 1 ฝ่ามือ เซียวเซียงจื้อและพวกทั้ง 3 กลับกลายเป็นลูกหนังของเด็กเล่น ถูกพลังฝ่ามืออึ้งเอี๊ยะซือกับเอี้ยก่วยชักจูงกระโดดโลดลิ่วไปมา

ฝ่ามือ “กำสรดวิญญาณสลาย” ใช้ถึงครึ่งหนึ่ง เพลงฝ่ามือ “เทพกระบี่บุปผาร่วง” ก็ตกเป็นรองแล้ว

เมื่อเห็นอีเคอซีพุ่งโถมมาถึงดุจเกาทัณฑ์ อึ้งเอี๊ยะซือคาดว่าลมฝ่ามือยากที่จะสกัดยับยั้งได้ ดังนั้น งอนิ้วดีดออก เสียงซีเบาๆ เมื่อแผ่พุ่งพลังลมเล็กเรียวสายหนึ่ง

สลายพลังฝ่ามือของเอี้ยก่วยไป

อึ้งเอี๊ยะซือดีดพุ่งดรรชนีติดต่อกัน 3 ครั้งได้ยินเสียงโครมคราม 3 ครา เซียวเซียงจื้อและพวกทั้ง 3 ล้มฟาดลงบนพื้นกระดาน

ถึงกับสิ้นสติสมประดี

ยอดวิชา “ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์” นี้เมื่อประชันกับฝ่ามือ “กำสรดวิญญาณสลาย” อย่างคู่คี่ก้ำกึ่ง ยากที่จะชี้ได้ว่าของผู้ใดเหนือล้ำกว่ากัน

แต่ที่แน่ๆ เซียวเซียงจื้อ อีเคอซี และคนหน้าดำหมอบนิ่งไม่ไหวติง

 

เห็นเช่นนั้น ทั้งอึ้งเอี๊ยะซือ ทั้งเอี้ยก่วย ต่างส่งเสียงหัวร่อฮาฮาออกมาติดต่อกัน และย้อนกลับไปยังที่นั่งเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เป็นอึ้งเอี๊ยะซือเริ่ม

“เพลงฝ่ามือของเล่าตี๋ชุดนี้หากวิจารณ์ถึงความหนักหน่วงแกร่งกร้าวทั่วทั้งแผ่นดินมีแต่ ’18 ฝ่ามือพิชิตมังกร’ ของเขยเราที่สามารถทัดเทียบเปรียบได้ ส่วนเพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของเล่าฮูกลับด้อยกว่าขั้นหนึ่ง”

เอี้ยก่วยรีบกล่าวอย่างนอบน้อมถ่อมตน

“ครั้งกระโน้นผู้เยาว์ได้รับการชี้แนะวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์กับเพลงกระบี่ขลุ่ยหยกจากผู้อาวุโสก่อเกิดประโยชน์ไปชั่วชีวิต เพลงฝ่ามือที่ผู้เยาว์บัญญัติขึ้นชุดนี้มีต้นกำเนิดจากเคล็ดวิชาที่ผู้อาวุโสชี้แนะให้ ผู้อาวุโสย่อมดูออกแต่แรก

ฟังว่าผู้อาวุโสเคยได้รับการชี้แนะจากแม่ชีเทพยดาน่ำไฮ้ เรียนรู้เพลงฝ่ามือชุดหนึ่ง ไม่ทราบสามารถประทานต่อผู้เยาว์เป็นการเปิดหูเปิดตาได้หรือไม่”

“แม่ชีเทพยดาน่ำไฮ้ นั่นเป็นใคร เราไม่เคยได้ยินนามนี้มาก่อน”

อึ้งเอี๊ยะซือกล่าวด้วยความสงสัย สร้างความตื่นตะลึง และตระหนกหวั่นไหวให้กับเอี้ยก่วยเป็นอย่างสูง ใบหน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย ผุดลุกขึ้นยืนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้านออกมา

“หรือว่า หรือว่าในโลกนี้ ไม่ ไม่มีบุคคลฉายาแม่ชีเทพยดาน่ำไฮ้”

 

ความเป็นจริงอันถ่องแท้แน่นอนก็คือ อึ้งเอี๊ยะซือเองก็สงสัย “หรือว่าเป็นยอดคนที่ระหว่างนี้เพิ่งออกท่องเที่ยว เล่าฮูรอบรู้จำกัดไม่เคยได้ยินนามนี้มาก่อน”

เอี้ยก่วยยืนเซื่องซึม หัวใจเต้นระรัวราวกับจะกระดอนออกมา

พลางครุ่นคิด “ก๊วยแป๊ะบ้อบอกกล่าวอย่างชัดแจ้งว่า เล้งยี้ได้รับความช่วยเหลือจากแม่ชีเทพยดาน่ำไฮ้ ที่แท้เป็นวาจาผีสางที่หลอกลวงคน ล้วนแล้วแต่หลอกลวงเรา ล้วนแล้วแต่หลอกลวงเรา”

พลันแหงนหน้ากู่ร้องดังยาว

คลื่นเสียงสะท้านสะเทือนกระเบื้องหลังคา ในดวงตาปรากฏน้ำตาไหลหลั่งออกมาด้วยความคับแค้นรันทดใจ