กับระเบิดการเมือง ฮุนเซนโมเดล โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————-
ฮุนเซนโมเดล
—————-

ขึ้นต้น บทความชิ้นนี้ ที่เขียนไว้ช่วงเช้าวันศุกร์ ว่า
แถลงการณ์ ของพรรคอนาคตใหม่ แสดงท่าทีต่อการยุบพรรคไทยรักษาชาติ
อาทิ
” การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมืองตลอดกว่าทศวรรษ ไม่ได้ช่วยให้ความขัดแย้งทางการเมืองลดลง
แต่กลับทำให้ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจถูกตั้งคำถาม…
…นำมาซึ่งการแตกขั้วทางการเมืองจนถึงที่สุด จนสังคมไทยไม่อาจหาฉันทามติได้..”
นำมาสู่ การย้ำจุดยืน
“พรรคอนาคตใหม่เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพื่อออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการเมืองต่าง ๆ ให้ได้ดุลยภาพ
เคารพเสียงข้างมากพร้อมกับคุ้มครองเสียงข้างน้อย
…ไม่ตกเป็น “เครื่องมือ” ในการกวาดล้างทางการเมือง
อนาคตใหม่ขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 เพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.
พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ระบอบเผด็จการได้วางกลไกการสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญและกฎหมายไว้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานอำนาจของประชาชนได้
24 มีนาคม 2562 จับปากกาฆ่าเผด็จการ
เริ่มต้นยุติวงจรรัฐประหาร เปิดฉากการเมืองแบบใหม่ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”
ห้าวเป้ง ตาม สไตล์ คนหนุ่มสาว
เขย่าองค์กรอนุรักษ์นิยม แบบไม่เกรงใจ
กองเชียร์ ซี๊ดปาก
แต่ฝ่ายไม่ชอบถล่มยับเยิน
จับอุณหภูมิ ได้ว่าใน 2 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้ง คงเดือด
คู่แข่ง ซึ่งนอกจากพัลวัน ลบภาพดุดัน “ลุงตู่” ให้นุ่มนวลลงแล้ว
ต้องทำลาย คำขวัญ “จับปากกาฆ่าเผด็จการ”ลงโดยด่วนด้วย
เพราะหากเป็นไวรัลที่ระบาดได้อย่างรวดเร็วในโลกโซเชียลแล้วอันตรายยิ่ง
โดยเฉพาะกับ คนรุ่นใหม่ ที่ดูจะมีเคมีเข้ากันกับ “จับปากกาฆ่าเผด็จการ”ได้ลงตัวยิ่ง
แล้วฝ่ายตรงข้าม จะใช้อะไรสะกัด
ดูแล้ว ก็คงย้อนเกล็ดในสิ่งที่แสดงออกในแถลงการณ์นั่นแหละ
คือ มุ่งชี้ ความเป็นพรรคการเมืองอันตราย
โดยเฉพาะ ทัศนะที่มีต่อองค์กรอิสระอย่างศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งหากเราสังเกตุจะเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิถีพิถันการใช้ถ้อยคำอย่างยิ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่า “ไทยรักษาชาติ” ผิดร้ายแรงปานใด จึงต้องเจอการลงโทษ ยุบพรรค
เชื่อว่า ถ้อยคำ อย่าง คำว่า “บั่นเซาะ” “(ทำให้)เสื่อมทราม” ฯลฯ จะถูกฝ่ายตรงข้ามพรรคอนาคตใหม่ นำมาขยายผล
และชี้ให้เห็น ว่า การที่พรรคอนาคตใหม่ ออกมาคัดค้านการยุบพรรคไทยรักษาชาติ อย่างรวดเร็ว
มีเป้าหมายแอบแฝงอะไรบางอย่างอยู่
เป็นบางอย่าง ที่”อันตราย” จนไม่อาจจะยอมให้พรรคอนาคตใหม่มีที่ยืนสนามการเมืองได้
นี่จึงเป็นเหมือน ทุ่นระเบิด ที่คงมีการระดมพลวางไว้ตลอดทางเพื่อให้ พรรคอนาคตใหม่เหยียบ
ชวนให้ระทึกใจ!
เตรียมจะจบ บทความด้วยประโยคข้างต้นนี้
แต่แล้วช่วงบ่ายวันศุกร์ ที่ 8 มีนาคม สิ่งที่”คาดหมาย”ไว้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด
แถมคนที่ออกโรง คือ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ”(คสช.)เองด้วย
โดยฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความต่อ กก.3 บก.ปอท. ให้เอาผิดพรรคอนาคตใหม่
ที่เผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง ยุบพรรคไทยรักษาชาติ มีเนื้อหาพาดพิง คสช. และศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันยังมีผู้ไปยื่นหนังสือต่อกกต. ย้ำให้ยุบพรรคอนาคตใหม่อีกคดี
ฐานใช้วาทกรรมว่าจะสานต่อภารกิจของคณะราษฎร 2475
ส่วนที่จังหวัดเลยเปลี่ยนเป้าจากยุบอนาคตใหม่เป็นยุบเพื่อไทย
เหตุคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ปราศรัย หลอกลวงให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรค
วันเดียว 3 กรณี ทำให้ปม”ยุบพรรค”เป็นกับระเบิด ที่วางไว้ให้กลุ่มพรรคที่อยู่ตรงข้ามฝั่งรัฐบาลและคสช.พลาดไปเหยียบเข้า
วิธีการสังหารคู่แข่ง ด้วยการยุบพรรคนี้
สมเด็จ”ฮุนเซ็น”เห็นคงหัวเราะร่า
“ตูทำมาก่อน”
—————-