เผยแพร่ |
---|
หากยึดกุมหลักการ“การเมืองนำการทหาร”อย่างมั่นแน่ว กระบวน การยุบพรรคไทยรักษาชาติสะท้อนมาตรการทางการทหารเหนือกว่ามาตรการทางการเมือง
แม้ว่า”ไทยรักษาชาติ”จะเป็น”พรรคการเมือง”
เพราะการยุบพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่ากับเป็นการประหารชีวิตในทางการเมือง
บังเกิดความสะสาแก่ใจแน่นอน หากมองจากฝ่ายที่ต้องการ ให้ยุบ บังเกิดความหดหู่เศร้าหมองแน่นอน หากมองจากฝ่ายที่ไม่ต้องการเห็นการยุบพรรค
กระนั้น คำถามอันตามมาอย่างฉับพลันทันใดคือ มาตรการ ยุบพรรคเช่นนี้ถือเป็นการรุก ถือเป็นชัยชนะหรือไม่
คำตอบของคำถามนี้ต้องประเมินจาก”อดีต”
คำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 จากคณะตุลาการรัฐธรรมนูญซึ่งแต่งตั้งโดยคมช.อันมาจากการรัฐประหาร
เท่ากับเป็นคำสั่งประหารชีวิตพรรคไทยรักไทย ส่งผลให้กรรม การบริหารถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
แต่หลังจากนั้นก็เกิด”พรรคพลังประชาชน”ขึ้น
เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประ ชาชนอันเป็น”อวตาร”แห่งพรรคไทยรักไทยก็ได้ชัยชนะเหนือกว่าทุกพรรคการเมืองรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์
เท่ากับยืนยันว่า”จิตวิญญาณ”แห่งพรรคไทยรักไทยมาดำรงอยู่กับพรรคพลังประชาชน
เดือนธันวาคม 2551 มีการยุบพรรคพลังประชาชน
แต่เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยก็ได้ชัยชนะเหนือกว่าทุกพรรคการเมืองรวมถึงพรรคประชาธิ ปัตย์
เท่ากับสานต่อ ไทยรักไทย พลังประชาชน
เมื่อมีตัวอย่างจากการยุบพรรคไทยรักไทย เกิดพรรคพลังประชาชน มีการยุบพรรคพลังประชาชน เกิดพรรคเพื่อไทย อันเท่า กับเป็น”อวตาร”
เป็นการประหาร แต่ไม่ตาย
การยุบพรรคไทยรักษาชาติก็เข้าอีหรอบเดียวกันกับการยุบ พรรคไทยรักไทย การยุบพรรคพลังประชาชน
จิตวิญญาณของพรรคไทยรักษาชาติก็ยังดำรงคงอยู่