ถามป๊อป… ผมหลงทาง ผมทำให้เรื่องใหญ่จนไม่สามารถหยุดได้ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————

ถามป๊อป

—————

แน่นอน

หลัง ป๊อบ ปองกูล นักร้องดัง สารภาพเรื่อง “คบซ้อน”

เจอปฏิกิริยาด้านลบถล่มใส่อย่างหนัก ซึ่งคงใช้เวลาอีกตามสมควร จึงจะยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง

แต่ สิ่งที่”โล่ง”ดังยกภูเขาออกจากอก สำหรับ ป๊อบ ปองกูล ในทันที

คือ ไม่ต้อง “สร้างเรื่อง” เพื่อโกหกใครอีกแล้ว

ป๊อป ยกตัวอย่างดี โดยบอกว่าตอนที่ “คบซ้อน”

เขาเจอทางเลี้ยวอยู่เรื่อยๆ

“..เวลาเจอทางเลี้ยว ก็เลี้ยวผิดทุกครั้ง เคยคิดว่าจะถอยกลับ แต่ผมก็ขี้ขลาด ถอยหลังกลับไปได้เสียที เลี้ยวผิดซ้ำๆ จนผมหลงทาง ผมทำให้เรื่องใหญ่จนไม่สามารถหยุดได้…”

ใช่เลย เวลาเรา เริ่มต้นโกหก เราก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ความจริงปรากฏ

ถือเป็นความทุกข์ทรมาณอย่างยิ่ง

เชื่อว่าหลายคนมีและผ่านประสบการณ์ แบบนี้มาแล้ว

มองเข้าไป สนามการเมือง

แน่นอน คงมีคนที่มีชะตากรรมเดียวกับ เช่น ป๊อป ไม่น้อย

อาจไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เป็นเรื่อง”จำเป็น”ที่ต้อง จับปลามือเดียวหลายตัว ด้วยเชื่อว่านั่นจะเป็นประโยชน์ทางการเมืองต่อตนมากที่สุด

แต่มันก็ผิดธรรมชาติ เพราะคนๆเดียวจะสวมหมวกทีเดียว 3 ใบไม่ได้

ไม่ต้องอ้อมค้อม ก็ กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงนั่งตำแหน่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และนั่งในตำแหน่งผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ

แม้จะอ้างว่า รัฐธรรมนูญ ไม่ได้ห้ามไว้

แต่ ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนจะมีความสุขมากมาย เวลาออกไปเยี่ยมเยียนราษฏรไม่เว้นแต่ละวัน

ซึ่งแน่นอน “ความถี่ยิบของการเยี่ยมเยี่ยน”มันไม่่ปกติ

แต่ก็ต้องคอยอธิบายอยู่ทุกวันเหมือนกันว่า เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ไม่ใช่หาเสียงช่วยใครไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

เราไม่รู้ว่า “ในใจของพล.อ.ประยุทธ์” คิดอะไรอยู่

ถ้าเชื่อตามสิ่งที่พูดออกมาก็คงไม่เป็นไร

แต่ถ้าไม่เชื่อ –ก็คงทุกข์ไม่เบากับการต้องหาเรื่องมาอธิบายคนที่มาซักไซร้ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวในตอนหลัง ที่เจอนายกรัฐมนตรีบ่นว่า ทำไมคำถามตอนหลังถึงโหดร้ายนัก

จริงๆก็คงไม่ได้ทาพริก ทาเกลือเพิ่ม แต่ คำถามอันอาจไป สะเทือนอะไรในใจหรือเปล่า

อันนี้ไม่ทราบ

ขณะเดียวกัน การยืนกราน ว่า หมวกที่สวมอยู่ 3 ใบ ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะ สถานะความเป้นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ซึ่ง 2 ตำแหน่ง คือ นายกฯ และผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ อาจไม่มีปัญหา เพราะมีข้ออ้างไปได้

แต่ ตำแหน่ง หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ นี่สิ

มันล่อแหลม เพราะมีผู้ร้องเรียนให้กกต.สอบแล้ว

แม้จะมีเนติบริกร มาให้คำอธิบายว่าไม่ใช่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ

และคงมีปาฏิหารย์ อีกมากมายมาช่วย

แต่ ในใจก็คงไม่เป็นสุขเท่าไหร่

เพราะล่าสุด เฟซบุ๊คส่วนตัวของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีคนตาดีไปเห็นว่า ได้ระบุใน “สถานะ”ว่าเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ”

ได้มีการเปลี่ยนแปลง สถานะเป็น “บุคคลสาธารณะ”เรียบร้อย

หากไปถามว่าทำไมถึงเปลี่ยน

คำตอบก็คงออกมาว่า “กรอกผิด”

ฟังขึ้นหรือไม่ ไม่รู้ แต่คิดถึงกรณี ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรอกประวัติผิด ที่แม้จะอธิบายเหมือนกัน

แต่ก็มีคนพยายามเอาเป็นเอาตายถึงขั้นจะยุบพรรค

ซึ่งก็คงต่างจากกรณีนี้ ที่เชือว่าคนจะมีคนมาช่วยทำให้จบเร็วที่สุดและทำหน้าตายว่าไม่มีอะไร

แต่ในใจคิดอย่างไร

คงต้องไปถาม “ป๊อป คนคบซ้อน”

——————-