ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

‘เบนซ์’ เขย่าตลาดอีก 2 รุ่นเด็ด

‘CLS 53’ และ ‘E 53 Coupe’

 

จําได้หลัดๆ ว่าเพิ่งนำเสนอรถใหม่ของค่าย “ดาวสามแฉก” เมอร์เซเดส-เบนซ์ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ไม่ทันไรก็เปิดตัวรถใหม่มาอีก 2 รุ่น

แถมเป็นตัวแรงที่ไม่อาจมองข้ามได้

บอกไว้ล่วงหน้าเลยนะครับว่าปีนี้ยังมีรถของค่ายนี้อีกหลายรุ่นจะมานำเสนอกัน เพราะแว่วว่าจะเปิดตัวอีกกว่า 20 รุ่น แซงปีที่แล้วซึ่งเปิดตัวรถยนต์รวม 16 รุ่น

โอ้…แม่เจ้า!!!

รถ 2 รุ่นที่เปิดตัวเป็นรุ่นแรงคือ “CLS 53 4MATIC+” รุ่นประกอบในประเทศ และ “E 53 4MATIC+ Coupe” รุ่นนำเข้า

เมอร์เซเดส-เบนซ์แนะนำรถ 2 รุ่นนี้ในวันแถลงข่าวความสำเร็จของปีที่ผ่านมา ซึ่งดาวสามแฉกยังเหนียวแน่นกับตำแหน่งแชมป์ยอดขายรถหรูในเมืองไทยเป็นปีที่ 18 ด้วยยอดขาย 15,785 คัน

ขณะเดียวกัน “Mercedes-AMG” หรือตัวแรงของค่าย เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากสุดในแง่การเติบโต เพราะปีที่แล้วพุ่งพรวดแบบก้าวกระโดดถึง 309% จากการเปิดตัวรถใหม่แบรนด์นี้รวม 5 รุ่น

ส่วนหนึ่งเพราะสมรรถนะ ความสวยหยด ทั้งรุ่นนำเข้าและประกอบในประเทศ

รวมถึงการเปิดตัวผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ “Mercedes-AMG” 12 แห่งทั่วประเทศ

“โรลันด์ โฟลเกอร์” ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังบอกด้วยว่าไม่เพียงประสบความสำเร็จในเมืองไทยเท่านั้น แต่ในระดับโลกยังคว้าอันดับ 1 แบรนด์รถหรูระดับพรีเมียมที่มียอดขายมากที่สุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน

ยอดจำหน่ายรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2,310,185 คัน

ในจำนวนนี้รถยนต์ตระกูลเอสยูวีเป็นหัวใจหลัก ยอดขาย 820,721 คัน

การก้าวกระโดดของกลุ่มเอสยูวี ถือเป็นเทรนด์ของทั้งโลก รวมถึงเมืองไทยเซ็กเมนต์นี้ก็กวาดยอดขายกันระห่ำจริงๆ

 

รถใหม่ที่เปิดตัวล่าสุดนี้เริ่มจาก “Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+” รุ่นประกอบในประเทศ

ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบแผงบังคับลมคู่สีเงินชุบโครเมียม วัสดุเก็บขอบด้านข้างแบบพิเศษ

เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED with ULTRA RANGE Highbeam ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 84 หลอดต่อข้าง)

เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง ระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย และสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร

กระโปรงหลังรูปแบบใหม่ล่าสุดที่สอดรับกับปลายท่อไอเสียทรงกลมทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา

ท่อไอเสียแบบ AMG Sports exhaust system, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ

หลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

 

ภายในติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา จอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller

ปรับแต่งการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ “ClassicŽ Sport” และ “Progressive”

สามารถเลือกแสดงข้อมูลต่างๆ ได้เพิ่มเติมตามต้องการอีกด้วย

ระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester surround sound system

เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ 2,999 ซีซี กำลังสูงสุด 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800-5,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission ตอบสนองดีขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+

ระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ทำงานอัตโนมัติ

Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 5,350,000 บาท

 

ส่วนอีกรุ่นที่ถือว่าเป็นตัวหรูแรงและสวยหยด “E 53 4MATIC+ Coupe”

รถสปอร์ตสไตล์คูเป้ออกแบบให้สะท้อนสมรรถนะที่เหนือกว่า ตกแต่งกระจกมองข้างและขอบบานกระจกด้วยสีดำที่ช่วยเสริมความสปอร์ตขึ้นไปอีก

ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System)

สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้ายแบบ AMG Spoiler lip ช่วยเสริมคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์

ท่อไอเสียแบบ AMG Sport exhaust system ปลายท่อไอเสียคู่แบบ 2 round twin tailpipe look ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ

หลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

เปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติไม่ต้องใช้มือ (HAND-FREE ACCESS)

ภายในตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุ Metal-weave และ Black piano

เบาะที่นั่งหุ้มของเอเอ็มจีและตราสัญลักษณ์เอเอ็มจี ด้วย ARTICO leather ตัดสลับ DINAMICA Microfibre

พวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel หุ้มหนัง nappa ตกแต่งด้วย DINAMICA Microfibre เป็นพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยไฟฟ้า แบบปรับน้ำหนักตามระดับความเร็ว

หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ Digital widescreen cockpit ระบบ MB Audio 20 พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester surround sound system รวมถึงระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zones

ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย

ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า

 

ขุมกำลังเครื่องยนต์ เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ 2,999 ซีซี กำลังสูงสุด 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800-5,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบปรับรูปแบบการขับขี่แบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้โหมดการขับขี่ให้สอดคล้องกับความต้องการได้ ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension

ความปลอดภัยและสะดวกสบาย อาทิ ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot Including Active Parking Assist) ระบบนำทาง (navigation system)

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupe ราคา 6,990,000 บาท