อภิญญา ตะวันออก / หมูบิน! จ้าวเวหา : ไม่มีคำตอบที่ตาแก้ว

ก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลาที่ยังไม่ประสบเคราะห์ภัย กีย์มีเที่ยวบินสุดท้าย มันคือความทรงจำอันแม่นยำไปด้วยเวลาที่ 13 นาฬิกา 10 นาที ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือกรุงพนมเปญ การบินข้ามทะเลสาบใหญ่ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ราว 3,000 ตารางกิโลเมตรในฤดูแล้ง และเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตรในช่วงฤดูมรสุม

หลังจากถูกถล่มด้วยปืนครกหนักจากเขมรแดงหนก่อน กีย์ซึ่งกลับมาบินอีกครั้งหลังพักสั้นๆ จากการป่วยรุมเร้า บัดนี้ สนามบินเก่าได้ถูกซ่อมแซมใหม่ ยิ่งกว่านั้น ในวันที่ทัศนวิสัยเยี่ยม ภาพวิหารปราสาทนครวัดจะกลับมาปรากฏตรึงตาตรึงใจอย่างไม่รู้ลืม ที่สำคัญสำหรับหนนี้คือการที่เขาได้บริการนักวิทูคนหนึ่งซึ่งโด่งดังมากในเขมร

เขาคืออดีตพระสหายวัยเยาว์ในพระเจ้าอยู่หัวนโรดม สีหนุบรมรัตนโกศ บุตรชายจอร์จ โกรสลิเยร์ ผู้สถาปนากองงานอภิรักษ์วิจิตรศิลปะแห่งกัมพูชาและพิพิธภัณฑ์ : แบร์นาร์ด-ฟิลิปป์ โกรสลิเยร์ (2469-2529) ซึ่งพ่วงตำแหน่งผู้อำนวยการกองงานอภิรักษ์เมืองพระนคร ณ ขณะนั้น

อีกยังเป็นวิทูบารังที่ยืนหยัดภารกิจพิทักษ์เมืองพระนครอย่างเป็นกรณีพิเศษ จนถูกขับจากพนมเปญในเดือนพฤษภาคม 2518 เมื่อเขมรแดงสำเร็จกรุงพนมเปญ

 

อีกคนที่สิ้นสุดโครงการ “ผันน้ำ” เมืองพระตะบองเวลานั้นราวปี พ.ศ.2515 ที่ฌ็อง-โคล้ด ซาล ต้องทิ้งฐานงานเพราะขาดปัจจัยน้ำมันเชื้อเพลิงและคอมมิวนิสต์รุกหนัก

เมื่อพบกีย์ที่สนามบินพระตะบอง ซาลขอโอกาสฝึกบินกับกีย์เสียอย่างนั้น แต่ไม่มีจังหวะและความปลอดภัยในสถานการณ์ นอกจากนี้ เครื่องบินดีซี-3 ยังอยู่ในการควบคุมอนุญาตโดยนักบินอเมริกันที่ได้สิทธิ์บินเป็นด่านแรก

อย่างไรก็ตาม บิ๊กเซอร์ไพรส์ก็ยังมีให้เห็นอยู่เสมอ เช่นเดียวกับวันนั้น ที่ลูกเรือต่างหัวร่อต่อกระซิกตอนที่เขากำลังขึ้นเครื่อง พลันกลิ่นรุนแรงที่ลอยมาแตะจมูกก็ทำให้กีย์ถึงกับผงะ และทำให้เขาต้องค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ร่างกายเฉียดใกล้กับผู้โดยสารพวกนั้นที่กำลังนอนอุตุอยู่ในตะกร้อ โดยเฉพาะเพลาที่มันยื่นจมูกมาทักทายเขา พร้อมกับเสียงร้องอู๊ดอู๊ดที่ว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพชีวิตที่พบเห็นได้ทั่วไปในเครื่องบินเขมร ในบินเที่ยวกลับจากพระตะบองหนนี้ คือผู้โดยสาร 20 ที่นั่ง กับอีกที่เหลือ 40 ชีวิต คือเหล่าสุกรเมืองพระตะบองที่นอนอืดเรียงเป็นตับในตะกร้อหวายอย่างไม่รู้ชะตากรรม

เมื่อจู่ๆ ฝั่งซ้ายของเครื่องยนต์ก็เกิดไฟลุกพรึบ!

โชคดีที่เครื่องดับเพลิงอัตโนมัติทำงานจากเพดาน และสวิตช์เฟเธอริ่งสีแดงได้หยุดการทำงานเครื่องยนต์ในทันทีไว้ด้วยการหมุนของใบพัด ด้วยรอบความเร็วที่ลดลง เพื่อยับยั้งการหยุดนิ่งกะทันหันจนเครื่องบินหายนะ

กีย์วิทยุติดต่อไปที่หอบังคับการบินโปเชนตง แจ้งพิกัดและขออนุญาตปลดระวางน้ำหนักบางส่วนจากเครื่องบินทันที

ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ภายในไม่กี่นาทีที่ลูกเรือและผู้โดยสารต่างร่วมแรงกายใจ ถีบทิ้งสหายร่วมทาง 40 ชีวิตขณะบินผ่านจุดทะเลสาบ

เป็นเวลาเดียวกับที่ดวงตาของชางจ้องเป๋งไปยังหน้าปัดเครื่องวัดระดับน้ำหนักอย่างไม่กะพริบ ราวกับกำลังต่อรองความเป็นความตายจากค่าสัมประสิทธิ์ จนในที่สุดเครื่องบินก็กลับมาสู่ภาวะเกือบจะปกติ นักบินสามารถประคองระดับเพดานบิน จนไปถึงสนามบินโปเชนตงอย่างปลอดภัย

ในทันทีที่เครื่องลงจอด “ชาง-กีย์” ก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากเพื่อนนักบินและเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินที่รอคอยพวกเขาอย่างสุดกระวนกระวาย ในภารกิจ “หมูบินดิ่งอากาศ!” โดยเฉพาะพิกัดที่ตั้งภาคพื้นดิน-ชุมชนมุสลิม-ชาวจาม พวกเขาคงรู้สึกไม่สนุกเอาเสียเลย

ที่จู่ๆ เหมือนมีฝนปอยหนึ่งก็ตกจากฟากฟ้า และกลายเป็นสุกร-สัตว์ต้องห้ามทางศาสนาที่ว่า

เสร็จภารกิจเย็นวันนั้น ชางและกีย์ก็พบว่า พวกเขาได้รับสมญา “หัวหน้าหมูบิน!” จากชาวเขมรอากาศ

 

ไม่นานหลังจากนั้น กีย์ได้รับบาดเจ็บจากการสู้กับโจรที่บุกรุกเข้ามาในอพาร์ตเมนต์ เมื่อดิ่งไปโรงพยาบาลคาลาแม็ตแต่ลำพังนั้น ความรู้สึกโดดเดี่ยวช่างมากมายจับใจ

ต่อมา เหตุเคราะห์ร้ายล้มฟาดกับประตูสินค้านั่น กลับทำให้เขารู้สึกดีที่กลับไปโรงพยาบาลที่นี่อีกครั้ง ตลอด 2 สัปดาห์แห่งการรักษาตัวเมื่อเขาได้พบกับโสวิชา นางพยาบาลสาวสวย ผู้มีชาติพันธุ์บ่งบอกถึงความเป็นเขมรดั้งเดิมและเป็นสตรีที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากโรงแรมสุขาลัยไปเช่าบ้านหลังใหม่ใกล้กับโรงพยาบาล

ทั้งคู่ร่วมหอลงโรงกัน กระทั่งเมื่อกลับมาบินอีกครั้ง ซึ่งเป็นเที่ยวบินไปตาแก้ว จังหวัดซึ่งห่างจากพนมเปญไปทางตอนใต้ราว 30 กิโลเมตร

ความจริงแล้ว จิตวิญญาณยอมแพ้แก่ความตายนี้ มิได้มาจากปัญหาสุขภาพเท่านั้น หากแต่ความมุ่งร้ายจากฝ่ายทหารรัฐบาลลอน นอล จากการลงมือยิงเครื่องบินครั้งนั้น มีที่มาจากความละโมบและขาดวินัย

กีย์สุดจะทนต่อการกระทำอันสุ่มเสี่ยงยิงเครื่องบินและถังน้ำมันนี้ แม้จะไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อนักบิน แต่การกระทำของทหารที่ขาดวินัย และการใช้อาวุธที่ไร้ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะการป้ายความผิดให้กลุ่มเขมรแดง ซึ่งตัวเมืองตาแก้วเวลานั้นเป็นเขตคุ้มครองจากการบอมบ์ทางอากาศ และฝ่ายปลอดภัยจากเขตสีแดง-คอมมิวนิสต์

ทันทีที่กลับพนมเปญ กีย์ขอเข้าพบผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพเขมรสาธารณะ-นายพลเฟอร์นันเดซ เพื่อยื่นคำร้องต่อสิ่งที่ตนประสบต่อกรณีที่คนในกองทัพได้ทำร้ายนักบิน

นายทหารคนหนึ่งยืนยันว่า บันทึกคำร้องฉบับนี้จะถูกรายงานไปยังเบื้องบนโดยทันที นอกเสียจากสิ่งที่ผิดพลาดบางอย่าง นั่นคือการที่กีย์อ้างสิทธิ์ในนามตัวแทนชาวหมูบิน!

ถึงอย่างนั้น เขาก็กลับบ้านพักด้วยความหวังและมีหัวใจเบิกบานที่ได้พบโสวิชา

 

วันต่อมามีตารางบินไปกำปอด ตามปกติแล้วนักบินจะต้องมีถังสำรองเชื้อเพลิงไว้ 1 ถังเป็นอย่างน้อย จนเมื่อมอเตอร์เริ่มมีติดขัดและมีสัญญาณบ่งบอกว่าไฟฟ้าเกิดขัดข้อง

ตอนนั้นเองที่เสียงของผู้ช่วยเทคนิคเริ่มรบกวนในโสตประสาทที่เขาพบว่าน้ำมันสำรองที่ไม่พอเพียงต่อภาวะฉุกเฉิน และพบว่าการตรวจสอบรอยซ่อมแซมบนตัวถัง ความจริงหลังจากถูกยิงที่ตาแก้วครั้งนั้น กลไกเครื่องยนต์อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐานที่จะนำมาใช้งาน

ในฐานะนักบินอาชีพ กีย์ตระหนักถึงความผิดพลาดที่ส่งผลร้ายแรงตามมา เหตุนี้เมื่อลี ยต ไล เสนอให้เขาพักร้อนเพื่อฟื้นฟูร่างกายเป็นเวลา 1 เดือน เขาจึงรับข้อเสนอ และถือโอกาสกลับไปเยี่ยมบุตรสาว โดยที่บริษัทไม่ต้องอุปการะค่าใช้จ่าย

ก่อนวันเดินทาง ชางแวะมาสังสันทน์มื้อค่ำ เขามีความเอ็นดูต่อมอริช-เจ้าลิงน้อยผู้สร้างความสุขแก่ทุกคนอย่างคุ้นเคย

รุ่งขึ้น มีตารางบินไปพระตะบอง สุดหมายปลายทางที่สหายบูลเบต์ กำลังรอตีเปตอง เป็นการฉลองอำลาสนาม ทว่าจู่ๆ กีย์ก็พบว่าชางมีพิรุธบางอย่าง กล่าวคือ เขาวุ่นอยู่กับการตรวจระวางสินค้าอย่างกระวนกระวายราวกับรอคอยใครบางคน จนในที่สุดกีย์ก็เหลือบไปเห็นโสวิชา

เธอเดินมาพร้อมกับมอริชจ๋อในอ้อมกอด

กีย์ได้แต่กลั้นหัวเราะ ที่เห็นมอริชในชุดจัดเต็ม-เครื่องแบบนักบินลำลองของเขมรอากาศ โดยมีชางที่ช่วยประคองกัปตันมอริชพาขึ้นบันได

และพาเขาตรวจการณ์ภายในห้องโดยสาร สร้างความตื่นเต้นปนตระหนกแก่ผู้เดินทาง จนในที่สุดก็เดินมาถึงห้องนักบิน

พลัน การกระทำอันลวงโลกต่อกัปตันจอมทะเล้นก็สิ้นสุดลง เมื่อมอริชถูกส่งคืนสู่อ้อมกอดโสวิชา ทันใดนั้นเสียงปรบมือปรีดาแห่งภารกิจก็ดังขึ้น

ไม่ว่าจะอย่างไร กี่ครั้งและกี่ครั้ง ฉากและเรื่องราวสั้นๆ ระหว่างการบินที่พระตะบอง จะอยู่ในความทรงจำของกีย์ หมูบิน! เสมอ

โดยไม่ว่าความทรงจำเหล่านี้จะเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อเขากลับมาบินที่นี่พระตะบอง ทั้งขาไปและกลับที่ประสบพบพาน

ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาวะโหมดวี-1 หรือวี-2 ซึ่งหมายถึงการเผชิญในแต่ละขั้นตอน ทั้งจากสภาพเครื่องบินที่เกิดอัตราความหน่วงจากภาวะฉุกเฉินหรือใดๆ

พระตะบอง คือปลายทางสุดท้ายที่พอจะหลงเหลือความหมาย

และวันเวลาแห่งความรื่นรมย์ที่กำลังจะสิ้นสุดลง