ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 กุมภาพันธ์ 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
โคโนะโดริ เล่ม 6 สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
วันหนึ่ง นักสังคมสงเคราะห์ คุณมุคาอิพาสตรีวัยกลางคนคนหนึ่งมาที่โรงพยาบาล
“ซากุระ” สตรีนั้นทักคุณหมอโคโนะโดริ
“คนคนนี้คือคุณครูคางามิ เป็นรองผู้อำนวยการสถานรับเลี้ยงเด็กอิเรเน่โฮมค่ะ” คุณมุคาอิแนะนำ “วันนี้คุณครูคางามิพาเด็กคนนี้มาตรวจร่างกายค่ะ”
ครูคางามิอุ้มเด็กมาด้วยหนึ่งคน “เขาชื่ออาโอจิจังค่ะ อีกไม่นานคงจะหาผู้รับอุปการะได้แล้วค่ะ” ที่แท้คือเด็กที่เกิดจากหญิงท้องไม่พร้อมและมิได้ฝากครรภ์ในเล่มที่หนึ่ง
ทันใดนั้นมีสายเรียกคุณหมอโคโนะโดริไปห้องผ่าตัด เขาจึงบอกลาครูคางามิ
“ซากุระจัง โรคหอบหืดหายแล้วรึยังจ๊ะ” คางามิเอื้อนถามก่อนคุณหมอจะไป
“ครับ หายดีแล้วครับ” โคโนะโดริหันมาตอบก่อนจากไป
โคโนะโดริไปถึงห้องคลอดแต่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาจึงขอตัวออกจากโรงพยาบาลแล้วไปที่สถานรับเลี้ยงเด็ก
“เป็นสถานที่กว้างขวาง ผิดกับที่ผมจินตนาการเอาไว้เลย” โคโนะโดริเดินชมสถานที่
“ภาพที่คุณหมอโคโนะโดริจินตนาการเอาไว้ประมาณนี้ใช่มั้ยคะ” ครูคางามิพาเขาไปที่ภาพถ่ายบนฝาผนัง “ภาพถ่ายนี้คืออาคารหลังก่อนของสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ค่ะ”
“ผมจินตนาการไว้ประมาณนี้แหละครับ” โคโนะโดริพูดขึ้น หันมาหาคุณครูแล้วยิ้ม “คุณครูคือคุณแม่ของผมใช่มั้ยครับ”
“จ้ะ เธอเคยอยู่ที่นี่สามปี” ครูคางามิเฉลย
“ว่าแล้วเชียว” โคโนะโดริพูดขึ้น ทันใดนั้นเด็กชายคนหนึ่งมาจับมือเขาเอาไว้ “อื๋อ?”
“ปะป๊า” เด็กชายคนนั้นพูดขึ้น ถึงตรงนี้ควรฝากถึงสำนักพิมพ์สักครั้งหนึ่ง อันที่จริงผมไม่เคยท้วงติงเรื่องทำนองนี้เท่าไรนัก ทุกสำนักพิมพ์หนังสือการ์ตูนผิดพลาดเรื่องวรรณยุกต์กันอยู่เสมอๆ หนังสือที่อ่านเขียนว่า “ป่ะป๊า” เสียงเอกไม่จำเป็นต้องใส่ไม้เอกซ้ำ “ป่ะป๊าเหรอ” โคโนะโดริก้มลงดูแล้วผันเสียงผิดซ้ำสอง
ครูคางามิเล่าให้ฟังว่า เด็กชายคนนี้อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดจนตอนนี้อายุได้สามปีแล้ว เขาเป็นโรคหอบหืดรุนแรงจึงไม่มีใครรับไปเป็นบุตรบุญธรรมเสียที พ่อ-แม่ที่มารับบุตรบุญธรรมมักเลือกเอาเด็กที่แข็งแรงไปก่อนเสมอ
“เหมือนกันเลยนะครับ ผมเคยเป็นโรคหอบหืดเหมือนกัน”
“มากกว่าครึ่งของเด็กที่นี่จะได้กลับไปอยู่กับพ่อหรือแม่หรือญาติ แต่ร้อยละ 10 ของเด็กที่เหลือเท่านั้นที่จะมีคนรับไปเลี้ยง อีกร้อยละ 90 พออายุเกินสามขวบจะย้ายไปอยู่สถานคุ้มครองเด็ก”
ผู้อำนวยการเดินเข้ามาทักและนั่งคุยด้วย เมื่อรู้ว่าซากุระเป็นคุณหมอแล้วจึงหันไปแสดงความยินดีกับครูคางามิ สมัยนั้นครูคางามิและผู้อำนวยการเพิ่งจะเป็นพี่เลี้ยงเด็กเท่านั้นเอง เป็นวันเวลาที่จำนวนเด็กยังไม่มาก พี่เลี้ยงเด็กสามารถดูแลเด็กได้ 1 ต่อ 1 ผิดกับเวลานี้ที่พี่เลี้ยงเด็กต้องดูแลเด็กครั้งละ 3-4 คน
พี่เลี้ยงเด็ก 1 คน ควรดูแลเด็กกี่คน?
พี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กกี่คนมิได้เป็นประเด็นมากเท่ากับข้อคำถามที่ว่าพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งควรแสดงตัวเป็น “แม่” มากน้อยเพียงใด
คุณครูคางามิเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ดูแลซากุระเพียงคนเดียว เธอจึงเป็นแม่ แม่ที่มีอยู่จริงเพียงคนเดียวก็สามารถสร้างหมอได้ 1 คนแล้ว เพราะทารกต้องการมนุษย์เพียงคนเดียวเป็นเสาหลักของพัฒนาการ หากแม่คนหนึ่งมีพ่อที่ใส่ใจช่วยเหลือ งานเลี้ยงดูเด็กจะง่ายขึ้นมาก แต่ถ้าพ่อจากไป แม่เพียงคนเดียวพอแน่นอน และถ้าแม่ตายจากไป
มนุษย์เพียง 1 คนที่ก้าวออกมาเป็นแม่ก็เพียงพอที่จะช่วยให้เด็กคนหนึ่งพัฒนาไปได้
แม่ที่มีอยู่จริงเพียง 1 คนและสามารถทำให้เด็กไว้วางใจ (trust) จะทำให้เด็กไว้วางใจโลก และเมื่อไว้วางใจโลกแล้วก็จะสามารถพัฒนาต่อไปได้ นี่เป็นปฐมบทของชีวิตในช่วง 12 เดือนแรก
แม่ที่มีอยู่จริงเพียง 1 คน ทำให้เด็กสามารถจดจำใบหน้าของแม่ได้ (face recognition) เมื่อเด็กจดจำใบหน้าของแม่ได้แล้ว เขาจะมีความสามารถยับยั้งตนเอง (inhibition) ให้หยุดทำกิจกรรมหนึ่งแล้วเปลี่ยน (shifting) ไปดูใบหน้าของแม่ คือวงกลมสองวง สันจมูกและรอยยิ้ม ความสามารถที่จะยับยั้งตนเองแล้วเปลี่ยนไปทำอีกเรื่องหนึ่ง (inhibition & shifting) นี้จะก่อร่างสร้างตัวขึ้นเป็นวงจรประสาทก่อน EF (executive function) ขึ้นในสมองเพื่อใช้ในการหยุดหนึ่งไปทำอีกหนึ่ง
หยุดงอแงแล้วไปอาบน้ำ
หยุดเล่นเกมแล้วไปทำการบ้าน
หยุดเที่ยวเล่นไปอ่านหนังสือเตรียมสอบแพทย์
ความสามารถเหล่านี้มิใช่เรื่องของนิสัยดังที่เข้าใจ แต่เป็นเรื่องของวงจรประสาทที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่วัยทารกด้วยแม่ 1 คนที่มีอยู่จริง
พี่เลี้ยงหนึ่งคนจะดูแลเด็กกี่คนก็ได้ตามกำลังความสามารถเหมือนแม่ทั่วไปที่มีลูกมากกว่า 1 คน ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย พี่เลี้ยง 1 คนดูเด็ก 5 คน นั่นคือชัดเจนว่าคนไหนเป็นแม่ คือแม่ที่มีอยู่จริง เช่นนี้เด็กจะพัฒนาได้
ขณะที่สถานเลี้ยงเด็กบางแห่งในบางจังหวัด ใช้นโยบายพี่เลี้ยง 5 คนเลี้ยงเด็ก 30-40 คนด้วยระบบหมุนเวียน เช่นนี้จะไม่มีแม่เกิดขึ้นเลยแม้แต่คนเดียว
ผู้อำนวยการเล่าต่อไปว่า ช่วงหลังมีเด็กที่ถูกละเมิดมาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กมากขึ้น เด็กเหล่านี้ถูกทำลายความไว้วางใจที่มีต่อพ่อ-แม่หรือผู้เลี้ยงดู ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถไว้วางใจโลกได้ เช่นนี้เด็กจะพัฒนาไม่ได้
“ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ เด็กต้องการความรักอย่างมาก” ผู้อำนวยการเล่าให้ฟัง “เด็กที่ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจจึงเป็นงานยากมากๆ สำหรับพวกเรา”
ตัวเลข 3 ขวบนี้คือเวลาวิกฤต เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิต เพราะความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้ถูกสร้างเรียบร้อยแล้วเมื่อ 3 ขวบ หลังจากนี้เราจะทำอะไรกับเด็กที่ไม่ไว้ใจโลกและไม่มีแม่ได้น้อยมาก
คุณหมอโคโนะโดรินั่งลงเล่นเปียโนให้เด็กๆ ฟัง ก่อนที่จะลาผู้อำนวยการและคุณแม่คางามิไป ตอนที่เขาจากสถานที่แห่งนี้ไปครั้งแรกเมื่อมีพ่อ-แม่บุญธรรมมารับเอาไป แม่คางามิแอบร้องไห้อยู่หลังบานประตู ครั้งนี้เธอเกือบทำเช่นเดิม ก่อนที่จะวิ่งออกไปตะโกนไล่หลังคุณหมอโคโนะโดริว่า “ซากุระจัง แล้วกลับมาอีกน้า”
“ครับ” โคโนะโดริหันมาโบกมือ