สถานการณ์ที่ผันแปร ทำให้บางคนบางฝ่ายเชื่อว่าผลการเลือกตั้งจะแปรเปลี่ยนไป

ชีวิตไม่ใช่แค่ “ความเชื่อ”

ท่ามกลางสารพัดข่าวลือ และความพลิกผันของเกม การเลือกตั้งยังคงเดินหน้าต่อไปตามกำหนดล่าสุด 24 มีนาคม 2562 มีความคาดหวังใหม่เกิดขึ้นจากเกมที่พลิกผันนั้น

นั่นเป็นเรื่องของการประเมินว่าประชาชนจะตัดสินใจเลือกในมุมของอุดมการณ์ทางการเมือง

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เงื่อนไขที่ประชาชนจะใช้เลือกใครนั้นมีหลากหลาย

ความรู้ ความสามารถที่สะท้อนจากความคิดและวิธีการบริหารจัดการที่ตรงใจเป็นเรื่องหนึ่ง

การแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ตรงใจ หรือที่ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าควรจะทำเช่นนั้น เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าจะเรียกศรัทธาในผลงานได้ เว้นเสียแต่ว่าจะพิสูจน์แล้วว่ามีความคิดสร้างสรรค์วิธีการจัดการที่ได้ผลให้เห็น

ช่วงที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนกรุงเทพมหาคร และปริมณฑลรุนแรง นั่นคือปัญหาฝุ่นพิษ

เมืองที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นขนาดเล็กมาก ก่อความกังวลถึงระบบหายใจที่ยากจะควบคุม

เสียงเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาดังให้ขรม

แต่ดูเหมือนวิธีการของหน่วยงานที่รับผิดชอบทำได้แค่ “ฉีดน้ำ” และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันลดฝุ่น

เป็นวิธีการที่ประชาชนแฮปปี้หรือไม่

เมื่อเร็วๆ นี้ “นิด้าโพล” สำรวจเรื่อง “การจัดการวิกฤตฝุ่นในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” ผลออกมาร้อยละ 64.15 เรียกร้องให้จัดการปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด ร้อยละ 31.88 ให้จัดการอย่างเร่งด่วน ร้อยละ 3.81 ที่เห็นว่าไม่เร่งด่วน และร้อยละ 0.16 ที่เห็นว่าไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วนเลย

สำหรับมาตรการในการจัดการนั้น ร้อยละ 45.12 ให้หยุดการก่อสร้างในพื้นที่วิกฤตฝุ่นละออง ร้อยละ 20.30 ให้ห้ามรถทุกชนิดที่ใช้น้ำมันเบนซินวิ่งชั่วคราว ร้อยละ 11.82 ให้โรงงานอุตสาหกรรมหยุดทำงานชั่วคราว ร้อยละ 7.61 ให้ทำฝนเทียม ร้อยละ 7.14 ให้ใช้บังคับกฎหมายอย่างจริงจัง เช่น ตรวจจับรถควันดำ และผู้เผาป่า เผานา ร้อยละ 6.18 เสนอแนะวิธีอื่นๆ โดยมีร้อยละ 0.16 ที่ไม่ระบุ

ถึงวันนี้แม้ฝุ่นจะจางไปแล้ว ด้วยภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ความทรงจำของประชาชนเรื่องความคิด ความรู้ ความสามารถในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนยังไม่จางหายไป

การเมืองเข้มข้น ท่ามกลางความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ สถานการณ์ที่ผันแปร ทำให้บางคนบางฝ่ายเชื่อว่าผลการเลือกตั้งจะแปรเปลี่ยนไป

ทว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่เชื่อในทางว่าจะไม่ส่งผลไปให้เปลี่ยนการเลือกฝ่าย เลือกพวก

เพราะความขัดแย้งแตกแยกที่สะสมมายาวนานส่วนหนึ่ง กับผลงานที่สะท้อนความรู้ความสามารถอีกส่วนหนึ่ง ย่อมยังเป็นตัวแปรที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเกมการเมือง

กระแสสังคมในส่วนของการแสดงความคิดเห็นทางสื่อออนไลน์ อาจจะพลิกให้อีกฝ่ายหนึ่งออกมาแสดงบทบาทมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ที่สถานการณ์ทำให้จำเป็นต้องสงบปากสงบคำ เพื่อประเมินความปลอดภัย

แต่ลึกลงไปในความคิดและจิตใจ ไม่มีอะไรเปลี่ยนมากนัก เคยยืนอยู่ตรงไหนก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เพียงแต่บอกเล่าให้ฟังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพวกที่คิดว่าคุยกันได้

เมื่อวันที่ต้องกาบัตรเลือกตั้งมาถึง การคิดถึงอนาคตของตัวเองและพวกพ้องว่าต้องการอยู่ภายใต้การบริหารประเทศด้วยคนแบบไหน

และเมื่อการตัดสินใจในคูหาเลือกตั้ง เป็นอิสระพอ

ความคิดและความเชื่อที่จำเป็นต้องซ่อนงำไว้ ย่อมแสดงออกมา

ผลการเลือกตั้งจะยืนยันความเป็นจริงนี้