วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ มีการแข่งขัน NBA All-Star Game 2019 หรือการแข่งรวมดาว NBA ที่ Spectrum Center ในเมืองชาร์ล็อตต์ (Charlotte) รัฐนอร์ธ แคโรไลนา (North Carolina) ตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ของไทย

NBA All-Star Game 2019 ปีนี้ เป็นครั้งที่ 2 ที่ไม่ได้แบ่งทีมฝั่ง East vs West หรือฝั่งตะวันออกสู้กับฝั่งตะวันตก เพราะช่วงปี 2011 ถึง 2017 ฝั่งตะวันตกชนะ 6 ครั้ง ฝั่งตะวันออกชนะเพียงครั้งเดียว ทำให้ NBA All-Star Game ไม่เร้าใจเท่าที่ควร

นอกจากนั้น เกมนี้ทั้งสองฝ่ายเล่นกันแบบไม่มีการตั้งรับเลย แต่ละทีมทำแต้มกัน 130 แต้ม สูงสุดถึง 196 แต้ม ก็เคยมีมาแล้ว ดูเป็นการเล่นโชว์ ไม่จริงจัง

กลายเป็นเกมน่าเบื่อ

ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2018 จึงไม่มีการแยก NBA All-Star Game เป็นฝั่งตะวันออกกับตะวันตก แต่แบ่งเป็นทีมของสองนักบาสเกตบอลดาวดังที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดให้เป็นหัวหน้าทีม

ซึ่งคะแนนโหวตมาจากแฟนๆ บาสเกตบอล 50%, นักบาสเกตบอล NBA ด้วยกัน 25% และผู้สื่อข่าว 25%

นักบาสเกตบอลทีมฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ที่ได้คะแนนโหวตสูงที่สุดจะได้เป็นหัวหน้าทีม

ปีนี้หัวหน้าทีมคือ เลอบรอน เจมส์ จากทีม LA Lakers และยานนิส อันเดโตคอมโป หรืออันเซโตคอมโป (Giannis Antetokounmpo) ของทีมมิลวอกี้ บั๊กส์ (Milwaukee Bucks)

ยานนิสเป็นนักบาสเกตบอลชาวกรีกเชื้อสายไนจีเรีย พ่อแม่เป็นไนจีเรีย แต่เกิดที่กรีซ

นามสกุลของเขาอ่านยาก เจ้าตัวบอกว่า หากอ่านแบบไนจีเรีย ออกเสียงว่า อันเดคอมโพ

หากอ่านแบบกรีก อ่านว่า อันเซคอมโพ

ยานนิสบอกว่าอ่านแบบไหนก็ได้ แล้วแต่สะดวกปาก

เลอบรอนซึ่งได้คะแนนโหวตมากกว่ายานนิส ได้สิทธิ์เลือกนักบาสที่คะแนนโหวตติดอันดับท็อปเข้าร่วมทีมเลอบรอนก่อนเป็นคนแรก

จากนั้นก็สลับให้ยานนิสเลือกต่อ

จนกระทั่งเลอบรอนและยานนิสเลือกนักบาสเข้าร่วมทีมครบ 12 คน รวมหัวหน้าทีมด้วยเป็น 13 คนใน 1 ทีม

โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าเป็นนักบาสเกตบอลจากฝั่ง East หรือ West

สําหรับการแข่งขันบาสเกตบอล NBA ในฤดูกาลปกติ ที่ไม่ใช่ All-Star Game การแข่งขันบาสเกตบอล NBA 1 ฤดูกาล ทั้ง 30 ทีมสามารถส่งรายชื่อผู้เล่นเข้าร่วมการแข่งขันได้ทีมละไม่เกิน 15 คน

ทีมบาสเกตบอล NBA หนึ่งทีมก็ไม่ต่างอะไรจากสังคมคนทำงานในอเมริกา ห้องล็อกเกอร์รูมเป็นแหล่งรวมนักบาสเกตบอลมากมายหลายสัญชาติหลายวัฒนธรรมเข้ามาอยู่ร่วมกันในทีมเดียว แต่ละคนก็มีพฤติกรรมและบุคลิกที่แตกต่างกันไปตามถิ่นที่มา

โทนี่ แมสเซนเบิร์ก (Tony Massenburg) อดีตนักบาสเกตบอล NBA ที่เคยย้ายไปเล่นให้กับทีมต่างๆ ใน NBA มากที่สุดถึง 12 ทีม (Spurs, Hornets, Celtics, Warriors, Clippers, Raptors, 76ers, Nets, Rockets, Grizzlies, Jazz, Kings) และกลับมาได้แชมป์ร่วมกับ Spurs ในปี 2005 บอกว่าความหลากหลายทางบุคลิกและวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ทำให้เขารัก NBA

เพราะ NBA เป็นที่รวมของบุคลิกของนักบาสมากกว่า 450 แบบ

สิ่งเดียวที่นักบาส NBA ทุกคนมีเหมือนๆ กันคือทักษะบาสเกตบอล

ในหมู่นักกีฬาประเภททีม มีคำกล่าวว่า “What happens in the locker room stays in the locker room.”

อะไรที่เกิดในห้องแต่งตัว ก็ให้มันอยู่ในห้องแต่งตัว

โดยเฉพาะนักกีฬาทีมชาย ล็อกเกอร์รูมหรือห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนักกีฬาในทีมที่ทุกคนสามารถเปลือยกายเดินโทงๆ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนนอกหรือนักข่าวเข้ามา

และสามารถพูดจาเปิดใจกันได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นมารยาทที่ถือปฏิบัติกันมายาวนานว่า เรื่องต่างๆ ที่พูดล้อเลียน นินทาคนอื่น หรือเรื่องจีบสาวที่พูดกันในล็อกเกอร์รูม เมื่อออกนอกห้องไปแล้ว จะไม่ไปแพร่งพรายที่ไหน

รู้กันแต่นักกีฬาในห้องเท่านั้น

นักบาสแต่ละคนอาจจะมาจากต่างที่ต่างถิ่น แต่เมื่อถึงเวลาอยู่ในสนาม พวกเขาต้องอยู่ร่วมกันเป็นทีมเดียว รวมไปถึงเวลาอยู่นอกสนามอย่างในล็อกเกอร์รูมซึ่งมีกฎระเบียบและมารยาทต่างๆ ที่นักบาส NBA ทุกคนในทีมต้องปฏิบัติตามเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้

กติกาส่วนใหญ่ไม่ได้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่นักบาส NBA ทุกคนต้องรับทราบและตระหนักอยู่เสมอ

มารยาทของนักบาส NBA ในการใช้ล็อกเกอร์รูมร่วมกันมีดังต่อไปนี้

1. เคารพพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน

ออสติน ริเวอร์ส (Austin Rivers) ผู้เล่นตำแหน่ง Shooting Guard ของทีม Houston Rockets บอกว่าคุณไม่สามารถจะไปเปิดล็อกเกอร์ของคนอื่นแล้วหยิบของของเขาออกมาเพราะเหตุผลว่าคุณไม่มีใช้

ถ้าคุณไม่มีโลชั่นหรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ก็อย่าเข้ามาเปิดล็อกเกอร์ของผมแล้วหยิบไป เครื่องอาบน้ำเป็นของใช้ส่วนตัว อย่าไปยืมของเพื่อน และก็ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย อย่างสมัยที่ออสตินเล่นให้ LA Clippers เขาเล่าว่า มีเด็กใหม่ (Rookie) คนหนึ่งชอบทิ้งของไว้ทั่วล็อกเกอร์รูม วันหนึ่งถึงขั้นวางกางเกงในทิ้งไว้บนเก้าอี้ผู้เล่นคนอื่น จนโดนรุ่นพี่ตักเตือนและบอกให้เอากางเกงในไปเก็บไว้ในล็อกเกอร์ของตัวเอง

2. รักษาสุขอนามัยของตัวเอง

มาร์คีฟฟ์ มอร์ริส (Markieff Morris) ผู้เล่นตำแหน่ง Power Forward ของทีม Washington Wizards บอกว่าสุขอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของนักบาสเกตบอลอาชีพ การต้องทนอยู่ใกล้กับคนที่มีกลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องที่น่าภิรมย์

สมัยที่เขาเล่นให้กับ Phoenix Suns ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่คนหนึ่งบอกกับเขาว่าตัวเองไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

มอร์ริสได้ยินแล้วตกใจมาก เขาต้องอธิบายไปตรงๆ ว่า “ไอ้น้องชาย กลิ่นตัวนายทำพวกเราเวียนหัวมาก เจอกลิ่นแบบนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นายหรอกนะ”

หรือบางคนไม่ชอบอาบน้ำเอาซะเลย คนพวกนี้มีวิธีการอาบน้ำอย่างที่เรียกว่า Bird Bath คือการเข้าไปเอาน้ำพรมหัวให้พอชุ่มๆ ดูเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แล้วรีบวิ่งออกมาเปลี่ยนชุด เป็นอันเสร็จพิธี

การอาบแบบนี้มอร์ริสบอกว่าจะไปสะอาดได้ยังไง จนครั้งหนึ่งมอร์ริสเคยซื้อชุดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย แชมพู และแป้งเด็กมาแจกจ่ายพวกนักบาสที่เขารู้สึกว่ากลิ่นตัวรับไม่ไหวจริงๆ

3. ปฏิบัติตามกฎการแต่งตัว (Dress Code)

แม้แต่ในล็อกเกอร์รูมก็มีกฎการแต่งตัวที่ผู้เล่นในทีมต้องปฏิบัติตามเพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีในห้องแต่งตัว มีผู้เล่นตัวเก๋าของทีม Washington Wizards คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเคยเจอเหตุการณ์ที่เพื่อนร่วมทีมสวมกางเกงในสีเหลืองซึ่งทรงคล้ายกับบิกินี่มากๆ เดินไปเดินมาในล็อกเกอร์รูม

พอเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเห็นก็ร้องโวยวายและไล่ให้ผู้เล่นคนนั้นเดินเข้าร้าน Lululemon ไปซื้อกางเกงบ็อกเซอร์หรืออะไรก็ได้แบบที่คนปกติเขาสวมกัน

เพราะภาพกางเกงในสีเหลืองแบบบิกินีที่เห็นในตอนนั้นคือสิ่งที่รับไม่ได้

4. ระวังเรื่องรองเท้าลายเซ็นผู้เล่นคนดัง

หนึ่งในสิ่งที่นักบาสรุ่นพี่มักจะตักเตือนผู้เล่นหน้าใหม่เป็นอย่างแรกๆ ก็คือการสวมรองเท้าแข่งที่เป็นรุ่นของนักบาสคนดังลงสนามในวันที่ต้องแข่งกับนักบาสคนนั้น

เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะเห็นนักบาสเกตบอล NBA หลายคนสวมรองเท้าที่เป็นชื่อรุ่นของนักบาสคนดัง อย่างรองเท้า “Nike PG” ของพอล จอร์จ (Paul George) Small Forward ของทีม Oklahoma City Thunder ที่ขึ้นชื่อเรื่องสวมสบายและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ รุ่นรองเท้า “Nike Kyrie” ของไครี่ เออร์วิ่ง (Kyrie Irving) และ “Nike LeBron” ของเลอบรอน เจมส์ (LeBron James) ก็เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักบาสหลายคน

แต่ก็เป็นที่ทราบทั่วกันว่า ถ้าหากต้องลงแข่งขันกับทีมคู่แข่งที่มีนักบาสเจ้าของรุ่นรองเท้าอยู่ด้วย จะมีกฎห้ามสวมรองเท้าคู่นั้นเด็ดขาด

การสวมรองเท้ารุ่น “Nike Zoom KD11” ลงแข่งเจอกับทีม Golden State Warriors ที่มีเควิน ดูแรนต์ (Kevin Durant) ถือเป็นสิ่งต้องห้าม

5. อย่าทำลายความเชื่อใจ

เมื่ออยู่ในล็อกเกอร์รูมที่ไม่มีสื่อ หรือครอบครัว หรือโค้ชอยู่ใกล้ๆ นักบาส NBA จะพูดคุยกันแทบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ข่าวลือ ความสัมพันธ์ ไปจนถึงการเมือง และกฎเหล็กที่นักบาสทุกคนต้องตระหนักคือทุกเรื่องที่คุยกันในล็อกเกอร์รูมจะต้องจบแค่ในล็อกเกอร์รูมเท่านั้น

อย่าทำลายความเชื่อใจของเพื่อนร่วมทีมด้วยการเอาข้อมูลในล็อกเกอร์รูมไปเผยแพร่ให้คนข้างนอกทราบ

6. ห้ามใช้อุปกรณ์อัดวิดีโอหรือเสียงทุกชนิด

การรักษาความลับไว้แค่ในล็อกเกอร์รูมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการมีอุปกรณ์อัดเสียงหรือวิดีโอก็เป็นภัยต่อการเก็บความลับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กสมัยนี้ชอบถ่ายชอบแชร์ภาพและเสียงลงบนโซเชียล

ดังนั้น จึงมีกฎห้ามถ่ายหรือบันทึกเสียงเวลาอยู่ในล็อกเกอร์รูมของทีมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเพื่อนร่วมทีมก่อน

7. ทำหน้าที่ของเด็กใหม่

ในทีม Washington Wizards จะมีประเพณีให้เด็กใหม่ (Rookie) ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เช่น การนำผ้าเช็ดตัวมาบริการผู้เล่นตัวเก๋าเวลาจบการแข่งเกมเยือนหรือเสร็จจากการซ้อมในฐานะทีมเยือน ต้องนำอาหารมาบริการทุกคนบนเครื่องบินเวลาเดินทางไปเล่นเกมเยือน และต้องขับรถไปส่งอาหารให้รุ่นพี่ช่วงวันหยุด ส่วนเวลาอาบน้ำฝักบัวก็ต้องรออาบหลังจากรุ่นพี่ทุกคนเสร็จแล้วเท่านั้น และต้องอาบให้เสร็จภายในเวลาสั้นๆ

จอห์น วอลล์ (John Wall) ผู้เล่น Point Guard ที่อยู่กับทีมตั้งแต่ปี 2010 ก็เคยผ่านประสบการณ์ทำหน้าที่บริการนักบาสรุ่นพี่มาก่อน เขาเคยต้องตื่นแต่เช้าตรู่ไปเสิร์ฟโดนัทและหนังสือพิมพ์ให้พวกรุ่นพี่ ซึ่งบ่อยครั้งเขาก็ได้รับทิปเป็นค่าขอบคุณเล็กๆ น้อยๆ

นอกจากนี้ ในแต่ละปี รุ่นพี่ทีม Washington Wizards ยังสั่งให้พวกเด็กใหม่ต้องสะพายกระเป๋าเป้ลายน่ารักๆ ของเด็กติดตัวไว้เสมอไม่ว่าจะออกไปไหนทำอะไรก็ตาม หมายความว่าต้องสะพายติดตัวทั้งตอนไปแข่ง ฝึกซ้อม ตอนอยู่บนเครื่องบิน หรือแม้แต่ออกไปทำกิจกรรมร่วมกับทีมหรือออกงานการกุศล ซึ่งเป็นภาพที่ดูน่ารักขบขัน

8. เคารพรุ่นพี่

ออสติน ริเวอร์ส บอกว่า ถ้าคุณเป็นเด็กใหม่ คุณจะเป็นเป้าสายตาของพวกรุ่นพี่ที่จะคอยสังเกตหาข้อผิดพลาดในตัวคุณ

คุณต้องเข้าใจว่าในฐานะเด็กใหม่คุณจะต้องทำทุกสิ่งไม่ให้ขาดตกบกพร่องแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุดที่คนอื่นไม่ใส่ใจ และเชื่อฟังทุกสิ่งที่รุ่นพี่สั่ง

แล้วพอผ่านไปหนึ่งปีคุณก็ไม่ต้องทำหน้าที่เด็กใหม่อีกต่อไป

เพราะฉะนั้น ก้มหน้าก้มตาทำไปไม่ต้องบ่น

9. ทำตัวน่ารักกับสตาฟฟ์ทุกคน

ในล็อกเกอร์รูมไม่ได้มีแค่นักบาส NBA ด้วยกันเท่านั้น ทุกทีมจะมีหมอนวด นักบำบัด ผู้จัดการอุปกรณ์ พนักงานประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยโค้ช และอื่นๆ รวมอยู่ในล็อกเกอร์รูมของทีม

ซึ่งถ้ามีผู้เล่นคนไหนประพฤติตัวต่อสตาฟฟ์ไม่เหมาะสม เจสัน สมิธ (Jason Smith) Power Forwards ของทีม Milwaukee Bucks บอกว่า เขาจะเป็นคนไล่นักบาสเกตบอลคนนั้นออกไป เพราะนักบาสทุกคนต้องเดินทางและร่วมงานกับทีมงานเหล่านี้ตลอดทั้งปี

การปฏิบัติตัวให้เหมาะสมและเคารพการทำงานของสตาฟฟ์แต่ละคนคือคุณสมบัติที่จำเป็นของนักบาสรุ่นเก๋า

10. บังคับใช้กฎระเบียบ

กฎและมารยาทต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่กฎระเบียบที่กำหนดโดย NBA หรือประกาศอย่างเป็นทางการโดยทีมต่างๆ แต่ผู้ควบคุมการบังคับใช้กฎคือนักบาสทุกคน เมื่อมีใครทำผิดกฎ ก็เป็นหน้าที่ของนักบาสด้วยกันเองที่จะบอกกล่าวและตักเตือนเพื่อนๆ ในทีม

ว่าไปแล้วมารยาทของนักบาส NBA ในล็อกเกอร์รูมนั้น คนทั่วไปสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในการเข้าสังคมนอกล็อกเกอร์รูม