เปิดเบื้องหลังคดี “ฮาคีม” อัยการ “กลับลำ” ถอนคำฟ้อง ยกภูเขาออกจากอก “ไทย”

จบลงด้วยดี ภายหลังจาก น.ส.เสฏฐา เธียรพิรากุล พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ เดินทางมายังศาลอาญาเพื่อยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน คดีดำหมายเลข ผด.6/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศได้ยื่นคำฟ้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายฮาคีม อัล อาไรบี อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน ทำให้นายฮาคีมพ้นจากการควบคุม และได้เดินทางกลับออสเตรเลีย

สำหรับคดีนี้เริ่มจากนาย “ฮาคีม” ได้สถานะลี้ภัยให้พำนักอยู่ในออสเตรเลียได้เดินทางมาฮันนีมูนกับแฟนสาวที่ประเทศไทย

โดยเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ก่อนที่จะเดินทางถึงประเทศไทยนั้น ทางอินเตอร์โพลของออสเตรเลียได้มีการแจ้งมายังทางการไทยว่ามีบุคคลที่ถูกหมายจับแดงของอินเตอร์โพลที่ขอออกโดยรัฐบาลบาห์เรนกำลังเดินทางเข้าประเทศไทย

เป็นเหตุให้นายฮาคีมถูก ตม.ไทยจับกุมตัวไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากเกิดเหตุควบคุมตัว ทางการออสเตรเลียได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงแจ้งไปยังอินเตอร์โพล (ตำรวจสากล) ทำการเพิกถอนหมายแดงดังกล่าวออกเนื่องจากจากนายฮาคีมได้รับสถานะลี้ภัยของออสเตรเลียแล้ว

จึงได้มีการถอนหมายแดงออกในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 หลังจากควบคุมตัวไปแล้ว 3 วัน

จากข้อมูลคำฟ้องของอัยการ ปรากฏว่ารัฐบาลบาห์เรนได้มีหนังสือโดยวิถีทางการทูตขอให้รัฐบาลไทยจับกุมและคุมขังชั่วคราว “นายฮาคีม” สัญชาติบาห์เรนซึ่งถือหนังสือเดินทางบาห์เรนในวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่มีการถอนหมายแดงไปเเล้ว 3 วัน และ “ฮาคีม” ถูกควบคุมตัวไปแล้ว 6 วัน

เงื่อนเวลาตรงนี้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.กล่าวแจงว่า ยึดตามหลักสากลที่ตำรวจทั่วโลกใช้ โดยใช้อำนาจ ตม.คุมตัว จากนั้นจึงดำเนินการขออำนาจศาลคุมตัวต่อ และอ้างว่าแม้อินเตอร์โพลยกเลิกหมายจับแล้ว แต่ทางรัฐบาลบาห์เรนได้ส่งหมายจับผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ฉะนั้น ในส่วน ตม.ก็จะประสานอัยการสูงสุดเพื่อทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามขั้นตอนต่อไป

คำฟ้องของอัยการยังปรากฏอีกว่า อัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอขังตัวนายฮาคีมไว้ชั่วคราวตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ระหว่างรอคำร้องขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากบาห์เรน เป็นเวลา 60 วัน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561

เท่ากับว่ามีการคุมตัว “นายฮาคีม” มาเป็นเวลา 15 วันแล้วก่อนที่จะเริ่มมีการขออำนาจศาลอาญาฝากขัง

หรือจนกระทั่งวันที่ 18 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่คุมขังนายฮาคีมมาแล้วถึง 53 วัน รัฐบาลบาห์เรนถึงได้เพิ่งมีหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานอย่างเป็นทางการ ส่งถึงอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ผ่านทางวิถีทางการทูต ให้ส่งตัว “นายฮาคีม” ซึ่งเป็นบุคคลสัญชาติบาห์เรนเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปรับโทษตามคำพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 10 ปี ของศาลบาห์เรนในความผิดฐานลอบวางเพลิง, ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 5 คนในที่สาธารณะ และใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรมและก่อกวนความสงบเรียบร้อยของประชาชน, ครอบครองวัตถุไวไฟซึ่งเป็นระเบิดขวด, เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จากเหตุการณ์เผาสถานีตำรวจในประเทศบาห์เรนเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นช่วงการจลาจลเหตุการณ์อาหรับสปริง

พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศซึ่งได้พิจารณาคำร้องแล้วพบว่าเข้าเกณฑ์เป็นคดีที่จะส่งคำร้องขอผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศบาห์เรนได้ ด้วยเหตุว่าคดีดังกล่าวไม่ใช่คดีการเมือง การทหาร มีอัตราโทษเกิน 1 ปี และเป็นความผิดตรงกันระหว่าง 2 ประเทศจึงทำการยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาวินิจฉัยการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562

ท่ามกลางกระแสการคัดค้านจากประเทศออสเตรเลียและองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายประเทศทั่วโลก

เป็นประเด็นร้อนทำให้ในวันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ทางทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับนายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงขั้นตอนปฏิบัติ ข้อกฎหมายและตอบข้อซักถามในประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน

การแถลงข่าว นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงเรื่องการควบคุมตัวก่อนเข้ากระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนโดยชี้แจงว่าเป็นอำนาจของ ตม.ที่ต้องชี้แจง พร้อมทั้งยืนยันต่อสื่อมวลชนในวันดังกล่าวว่า คดีนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองและเข้าเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนเรื่องที่จำเลยได้สถานะลี้ภัยถือเป็นคนละเรื่องกันกับการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน

กรณีการเรียกร้องจากหลายทางให้ปล่อยตัว “ฮาคีม” และจะนำไปสู่การพิจารณาในเรื่องการถอนฟ้องนั้น นายธรัมพ์ยืนยันว่าอัยการไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ และเดินหน้ากระบวนการทุกอย่างต่อ

โดยนายฮาคีมจะถูกส่งไปบาห์เรนหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีในศาลเท่านั้น

แต่แล้วเหมือนฟ้าเปลี่ยนสี ยังไม่ทันที่ “นายฮาคีม” จะได้ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรในการสู้คดีหรือยื่นประกันตัวใหม่

เวลา 14.20 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 อัยการต่างประเทศยื่นถอนคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนโดยขอให้ศาลอาญาเปิดห้องพิจารณาเป็นการลับ และไม่ถึง 5 นาทีศาลอาญาก็มีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องขอ พร้อมออกหมายปล่อยตัวนายฮาคีมจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อันเป็นการยุติคำร้องขอส่งจำเลยไปยังบาห์เรน และเป็นจุดเริ่มต้นขั้นตอนผลักดันนายฮาคีมกลับออสเตรเลียตามความต้องการของเจ้าตัว

เบื้องหลังการถอนฟ้องครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจากนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ภายหลังเข้าเฝ้าเจ้าชายซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน ว่า รัฐบาลบาห์เรนได้มองแง่ความสัมพันธ์โดยเห็นว่าประเทศไทยไม่ได้เกี่ยวข้องมีส่วนได้เสียในเรื่องนี้

และไม่อยากเห็นประเทศไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์ กดดันโดยไม่ชอบธรรม ซึ่งประเทศไทยอยู่ในปีที่จะจัดพระราชพิธีสำคัญจึงไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อและประเทศไทยลำบากใจ

จึงน่าเชื่อว่าจากการประสานงานทางการทูตดังกล่าวเป็นเหตุให้คณะทำงานอัยการที่นำโดยนายชัชชมได้โอกาสสบช่องใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 21 ในกรณีที่เห็นว่าเห็นการฟ้องคดีอาญาจะไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือผลประโยชน์อันสําคัญของประเทศ ให้เสนออัยการสูงสุดมีอํานาจสั่งถอนฟ้องคดี

อันเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตภาพลักษณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของทางการไทยในครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี